นักกฎหมาย เปิดเงื่อนไข ไทยปฏิเสธขึ้นศาลโลกได้ เขมรยื่นเองฝ่ายเดียวไม่ได้

นักกฎหมาย ชี้แจงความเข้าใจผิด สถานะประเทศไทยต่อศาลโลก ยันยังอยู่ภายใต้อำนาจศาลโลก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 แต่เงื่อนไขต้อง “ยินยอม” จากรัฐคู่กรณีก่อนเสมอ ทำให้ไทยมีสิทธิปฏิเสธได้ แนะท้าเขมรขึ้นอนุญาโตตุลาการ
จากกรณีข้อพิพาทพื้นที่ดินแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่เริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากทั้งฝั่งรัฐบาลไทยและกัมพูชาเริ่มใช้มาตรการควบคุมเขตชายแดนอย่างเข้นข้นกว่าเดิม ตั้งแต่การปิดด่านทางเข้าออก ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนกระบวนการเจรจาในชั้นศาลโลกก็ดูไม่มีความคืบหน้ามากนัก เพราะฝั่งกัมพูชาต้องการส่งเรื่องให้ศาลตัดสินชี้ขาด แต่ฝั่งไทยออกแถลงการณ์ชัดเจนว่าไม่เอาด้วย ต้องการยุติข้อพิพาทบนโต๊ะเจรจาเท่านั้น
ล่าสุด (6 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pum Chakartnit ซึ่งเป็นนักกฎหมายท่านหนึ่ง โพสต์ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นศาลโลกข้างต้นว่า “ในฐานะนักกฎหมายคนหนึ่ง เมื่อได้ยินถ้อยแถลงจากหน่วยงานรัฐบ่อยครั้งว่า ประเทศไทยจะไม่ยอมรับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ / ศาลโลก ก็รู้สึกว่าอาจจะทำให้คนไทยส่วนมากเข้าใจผิดไปว่า ประเทศไทยไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจศาลโลกแบบคนอื่นเขา ทั้งๆ ที่ไทยก็ชอบอ้างว่าตนเองยึดถือหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
เรื่องจริงก็คือ ประเทศไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติ (UN) ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2489 ซึ่งการเป็นสมาชิก UN ก็ต้องยอมรับที่จะปฏิบัติตามกฎบัตร UN ส่วนหนึ่งของกฎบัตร UN คือ เรื่องการยอมรับเขตอำนาจของศาลโลก ตามที่ระบุในมาตรา 93
Article 93 “All Members of the United Nations are ipso facto parties to the Statute of the International Court of Justice.”

ประเทศไทยในฐานะสมาชิก UN จึงอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลโลกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขตอำนาจของศาลโลก มีเงื่อนไขพิเศษ คือ ถ้าหากจะเข้าสู่การพิจารณาคดี รัฐสมาชิกจะต้องยินยอมเข้ามาต่อสู้ด้วย จะไม่มีภาพแบบศาลภายในประเทศ ที่พอมีหมายเรียกแล้วทุกคนจะต้องเข้ามาในคดีแบบปฏิเสธไม่ได้ ฉะนั้น เรื่องที่เขมรจะดึงไทยไปศาลโลกด้วยนั้น เป็น requirement พิเศษของศาลโลกที่ไทยจะต้องสมัครใจด้วย แต่ไม่ใช่ว่าไทยแตกต่างจากคนอื่นที่ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ทั้งที่เป็นสมาชิก UN
อย่างไรก็ดี มาตรา 95 ของกฎบัตร UN ก็เปิดช่องไว้ด้วยว่า “Nothing in the Charter prevents members from using other means of dispute resolution, such as arbitration.” ถ้าเขมรท้าไทยไปศาลโลก ไทยอาจจะท้ากลับบ้างว่า เขมรมาเข้ากระบวนการ Arbitration (อนุญาโตตุลาการ) กับไทยได้หรือไม่”

ทั้งนี้ อนุญาโตตุลาการ (Arbitration) คือ วิธีและขั้นตอนที่กำหนดไว้โดยกฎหมายในการยุติการขัดแย้งระหว่างคู่กรณีอีกทางเลือกหนึ่งที่คู่กรณีตกลงกันว่าจะไม่นำข้อพิพาทดังกล่าวไปฟ้องศาล แต่ให้บุคคลคนหนึ่งหรือคณะบุคคล ซึ่งเรียกว่า อนุญาโตตุลาการ มาเป็นผู้ตัดสินข้อพิพาท เพื่อให้การพิพาทกันระหว่างคู่กรณียุติลงหรือระงับไป
นอกจากนี้ อนุญาโตตุลาการ ที่จะได้รับการแต่งตั้งนั้น จะต้องมีคุณสมบัติ ตามที่กฎหมายกำหนด เช่น มีความเป็นกลางและเป็นอิสระโดยไม่มีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องกับคู่กรณี และมีความรู้ความสามารถในเรื่องพิพาทนั้น ๆ ขณะที่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานอัยการสูงสุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ฮุน เซน” โพสต์ถึงไทย ต้องรับผิดชอบ สั่งปิดด่านไทย-กัมพูชา ชี้กระทบคนไทยเอง
- สื่อเขมรโวยใหญ่ ไทยปิดพรมแดนกัมพูชา ทำไมไม่ถามความเห็น
- หน่วยงานความมั่นคง แจงเหตุ ยกระดับด่าน ไทย-กัมพูชา หวังคุมเข้ม
ติดตาม The Thaiger บน Google News: