
แม่ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก เปิดใจกับ โต๊ะหนูแหม่ม ประวัติศาสตร์ 40 ปี Miss World Thailand สู่มงฟ้าแรกของไทย Miss World 2025 โอปอล สุชาตา ช่วงศรี
คุณโป้งจากเทโร กับ แม่ปุ้ยจาก TPN เปิดใจหมดเปลือกผ่านรายการโต๊ะหนูแหม่ม ทางช่อง WorkpointTV ต่างยอมรับว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน ถึงกับน้ำตาไหลด้วยความตื้นตัน แม่ปุ้ยเล่าว่าตื่นมาตอนเช้าที่อินเดียยังคิดว่าเป็นความฝัน คนไทยไม่เคยได้ยินคำว่า “ไทยแลนด์” จากปากของคุณจูเลีย มอร์ลีย์ ประธานมิสเวิลด์มาก่อน
เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการจับมือกันระหว่างเทโร กับ TPN โดยเทโรเองถือลิขสิทธิ์มิสเวิลด์ในประเทศไทยมาถึง 40 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 มีคุณปาน เลขาว่านม่วง เป็นคนไทยคนแรกที่ถูกส่งไปประกวดในยุคแรก เทโรกับ TPN เคยคุยกันหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะอยู่ในวงการเดียวกัน ต่างมองเห็นศักยภาพของอีกฝ่าย แม้จะมีอุปสรรคเรื่องลิขสิทธิ์หรือเรื่องเล็กน้อยระหว่างทาง แต่ทั้งคู่ต่างพูดคุยกันมาตลอด เมื่อ 3 ปีที่แล้วว่า วันหนึ่งเมื่อเราพร้อม ทุกอย่างถูกต้องตามครรลอง เจอกันแน่นอน

แม่ปุ้ยเคารพในตัวคุณไบรอัน มาร์คาร์ (ผู้บริหารเทโร) รู้จักมานานกว่า 10 ปี เห็นถึงความตั้งใจของคุณไบรอันที่ต้องการยก ระดับประเทศไทยในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต กีฬา หรือการประกวดนางงาม เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การผนึกกำลังครั้งนี้เกิดขึ้นได้ มีเป้าหมายเดียวที่ชัดเจนคือ “ประเทศไทยต้องมี เราต้องสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย”
มิสเวิลด์ เวทีแห่ง “โอลิมปิกวิชาการ” ที่มาการคัดเลือก “โอปอล”
ทั้งสองท่านกล่าวตรงกันว่า เวทีมิสเวิลด์ถือเป็นเวทีที่ยากและเหนียวที่สุดในบรรดาการประกวดระดับโลก อายุยาวนาน 75 ปี ไทยจัดมา 40 ปี ตั้งแต่ปี 2528 คอนเซ็ปต์หลักคือ “Beauty with a Purpose” หรือ “งามอย่างมีคุณค่า” ไม่ได้เน้นเพียงความสวยภายนอกที่แตกต่างกันไปตามมุมมอง แต่สิ่งสำคัญคือ ความสวยจากภายในและการทำงานเพื่อสังคมที่ทั่วโลกต้องเห็นพ้องต้องกัน คุณไม่สามารถหมกเม็ดหรือซ่อนตัวตนที่แท้จริงได้บนเวทีนี้
เมื่อถามถึงการคัดเลือก โอปอล สุชาตา แม่ปุ้ยเผยว่าในตอนแรก คุณไบรอันกับคุณโป้งถามว่าใครจะไปประกวด แม่ปุ้ยใช้เวลาทำการบ้าน 1 วัน เมื่อถึงเวลาประชุมก็ตอบชื่อเดียวคือโอปอล ไม่มีช้อยส์อื่น คุณแม่ปุ้ยมีความรู้สึกว่าโอปอลคือคนที่ใช่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้คุย แต่ความท้าทายคือ โอปอลจะพร้อมไปหรือไม่ เพราะการประกวดมิสเวิลด์มีความกดดันสูงมาก ต้องรับแรงเสียดทาน คำวิจารณ์มากมาย
แม่ปุ้ยเล่าถึงวินาทีที่พูดกับโอปอในรถว่า “โอปอล ฉันว่าเธอต้องก้าวสู่ประตูบานใหม่ที่ยิ่งใหญ่ อีกบานหนึ่ง ฉันว่ามันเหมาะกับเธอ” โอปอลปฏิเสธในตอนแรก บอกว่า “หนูแขวนแล้ว” แต่แม่ปุ้ยตอบกลับไปว่า “อย่าเพิ่ง เธอแขวนแล้ว แต่เธอยังไม่เอาขึ้นบนหิ้ง ฉันก็ถือว่ายังไม่แขวน” โอปอลใช้เวลาไถโทรศัพท์ดูข้อมูลเกี่ยวกับมิสเวิลด์อยู่เงียบๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาและบอกแม่ปุ้ยว่า “คุณแม่ หนูดูวัน ที่แล้ว คุณแม่คงจะต้องไปพบท่านอธิการกับหนูแล้ว” พร้อมจัดตารางนัดหมายทันที นั่นทำให้แม่ปุ้ยรู้ว่าโอปอลพร้อมแล้ว

การเตรียมตัวของโอปอลมีเวลาเพียง 15 วันเท่านั้น ติวเข้มทั้งภายในและภายนอก แม่ปุ้ยกล่าวว่าด้านกายภาพโอปอลพร้อมแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมคือความเข้าใจในบริบทของเวที นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของฝ่าย “มู” หรือฝ่ายอภินิหาร ที่แม่ปุ้ยเรียกว่า “กระทรวงมู” มีการบนบานศาลกล่าว แม้กระทั่งคนในทีมงานบนว่าจะบวชหากสำเร็จ ย้ำว่าไม่ใช่แม่ปุ้ยที่บน มีการบนแทนให้แม่ปุ้ยไปกราบพญานาคด้วย
เมื่อไปถึงอินเดีย การเก็บตัวกินเวลานานเกือบเดือน แม่ปุ้ยเปรียบเสมือนการส่งลูกเข้าโรงเรียนประจำที่กองประกวดของแต่ละประเทศต้องถอยออกมาสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ การประกวดเริ่มต้นตั้งแต่ วันแรกที่ผู้เข้าประกวดทุกคนเข้ากอง กองแม่เก็บคะแนนตลอดเวลาในทุกมิติ ทั้งกิจกรรมต่างๆ การมีปฏิสัมพันธ์ แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น การลงมาทานอาหารเช้าสาย ก็มีพี่เลี้ยงคอยทำรายงานและเก็บคะแนน
เวทีมิสเวิลด์ใช้เวลาเก็บตัวนานเพื่อให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของผู้เข้าประกวด มีบททดสอบมากมายทั้งเรื่องการตื่นเช้า ความร่วมมือ กิริยามารยาท การเข้าสังคม รวมถึงการทดสอบจิตใจเมื่อเผชิญกับความกดดันหรือความพ่ายแพ้
วินาทีประวัติศาสตร์ คำพูดของประธานมิสเวิลด์
แม่ปุ้ยเล่าถึงวินาทีการประกาศผลว่ามีความหวังเกิดขึ้นเมื่อช่างกล้องวิ่งมาดักหน้าทีมไทยก่อนประกาศผล แต่เมื่อประกาศ 4 คนสุดท้าย กล้องกลับวิ่งหนีไป ทำให้รู้สึกใจหาย เปรียบเสมือนตลาดหุ้นที่ใจขึ้นๆ ลงๆ เมื่อได้ยินคำว่า “ไทยแลนด์” ตัวก็เบาหวิว น้ำตาไหล กล้องก็วิ่งกลับมาจับที่หน้าแม่ปุ้ยทันที
ในรอบ 4 คนสุดท้าย โอปอลได้ตอบคำถามได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งที่ทำให้คนทั่วโลก รวมถึงทีมงานไทยขนลุก คือวินาทีที่กล้องจับภาพไปที่ คุณจูเลีย มอร์ลีย์ ประธานมิสเวิลด์ ขณะหันไปพูดกับกรรมการบนโต๊ะว่า “She deserve it” (เธอเหมาะสมแล้ว/เธอสมควรได้รับมัน) แม้คนดูอาจจะฟังไม่ทัน แต่แฟนคลับนางงาม “พี่ๆ กระเทย” เก่งมากที่จับใจความคำพูดนี้ได้
แผนการต้อนรับ โอปอล Miss World กลับบ้าน ก้าวต่อไปของ “เทโร-TPN”
ขณะนี้กำลังวางแผนสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของโอปอล ทางกองมิสเวิลด์ได้สอบถามมาว่าประเทศไทยจะจัด Home Coming ได้ยิ่งใหญ่หรือไม่ ทีมไทยตอบไปอย่างมั่นใจว่า “แน่นอน เดี๋ยวจัดมา จัดให้”
ความสำเร็จครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น สำหรับการทำงานร่วมกันของเทโรและ TPN ซึ่งการจับมือกันครั้งนี้เปรียบเสมือนการ “เติมเต็ม” สิ่งที่แต่ละฝ่ายมี เทโรมีประสบการณ์การส่งนางงามไปมิสเวิลด์มานาน แต่ยังไม่ถึงฝัน ขณะที่แม่ปุ้ยและ TPN มีศักยภาพในการทำนางงาม ทั้งคู่มองไปถึงแผนงานในอนาคต ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความสำเร็จครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าเวทีต่อไปจะต้องปังแน่นอน
เส้นทางชีวิต “แม่ปุ้ย” สู่ผู้จัดนางงาม วิธีรับมือแอนตี้แฟน
แม่ปุ้ยเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่เข้าสู่วงการนางงามว่าไม่ได้ตั้งใจมาก่อน ในอดีตเคยเป็นพิธีกรภาคสนามให้รายการของไทย Sky TV ซึ่งได้ลิขสิทธิ์จัดมิสยูนิเวิร์สในปี 1992 จากการได้วิ่งไปดูเบื้องหลัง ทำให้เห็นถึงความเก่ง ความสู้ของผู้หญิงเหล่านี้และรู้สึกชอบ แต่ก็เป็นเพียงแค่การดู
จุดเปลี่ยนที่ทำให้แม่ปุ้ยเข้ามาเป็นผู้จัดคือในปี 2018 ที่ประเทศไทยกำลังจะถูกตัดสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพมิสยูนิเวิร์ส เนื่องจากมีปัญหาเรื่องค่าลิขสิทธิ์ ผู้ใหญ่หลายท่านขอให้เข้ามาช่วย ม่ปุ้ยยอมรับว่าตอนนั้น “จับพระจับหรู จับพระจับขลู” แต่สุดท้ายก็เข้ามาช่วยและ จัดประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 ได้อย่างยิ่งใหญ่และสร้างชื่อเสียง ด้วยการนำวัฒนธรรมไทยเข้ามาผสมผสาน นับตั้งแต่นั้นมา แม่ปุ้ยก็อยู่ในวงการนี้มาโดยตลอด
แม่ปุ้ยยังได้กล่าวถึงการเป็นผู้ปฏิวัติรูปแบบการนำเสนอและการเดินบนเวทีนางงามในไทย มาจากการทำการบ้านอย่างหนัก เรียนรู้จากอดีต เพื่อสร้างรูปแบบใหม่ที่ถูกจริตคนดู แม่ปุ้ยให้ความสำคัญและเคารพผู้หญิงที่เป็นนางงามอย่างมาก มองว่าพวกเขาคือตัวแทนที่ยอดเยี่ยมในการสื่อสิ่งดีงามของประเทศ

หนึ่งในความท้าทายคือการรับมือกับแอนตี้แฟนและการวิจารณ์ที่รุนแรง แม่ปุ้ยยอมรับว่าในช่วงแรกรับมือไม่ได้ถึงขั้นฟ้องร้อง แต่เมื่อไปถึงสถานีตำรวจและพบกับผู้ที่ถูกเชิญตัวมาซึ่งเป็นเพียงเด็กน้อยที่ไม่มีแม้แต่ค่ารถกลับบ้าน ทำให้แม่ปุ้ย “ปลง” และเปลี่ยน mindset เธอเข้าใจว่าคนเหล่านี้มักมีปัญหาสุขภาพจิต หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี และมักจะเก่งอยู่หลังแป้นพิมพ์เท่านั้น แม่ปุ้ยเรียนรู้ที่จะไม่ใส่ใจ และพยายามสอนคนในทีมไม่ให้เอาตัวเองไปผูกติดกับพลังลบเหล่านี้ เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มาเลี้ยงดูเราเลย
หลังจากประสบความสำเร็จในการคว้ามงกุฎมิสเวิลด์ แม่ปุ้ยย้ำกับตัวเองและคนรอบข้างว่า “เวลาคนเราสำเร็จอะไร เราอย่าไปลำพอง เราอย่าไปคิดว่าเราคือที่สุด” ความสำเร็จครั้งนี้เป็นสิ่งสุดยอด แต่โจทย์ที่ยากที่สุดคือ “เราจะต่อยอดจากความสำเร็จนี้อย่างไร ให้มันยังคงอยู่ในความทรงจำผู้คน” นี่คือการบ้านที่ต้องคิดและทำต่อไป
ความสำเร็จของโอปอลและทีมไทยในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกำลังใจอันยิ่งใหญ่สำหรับคนไทย และเป็นการยืนยันว่าการทำงานร่วมกันของ “เทโร” และ “TPN” ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน สามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยได้อย่างแท้จริง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โอปอล สุดเศร้า แฟนคลับอินเดียตัวน้อย ไฟคลอกดับ ไม่ทันเห็นมง Miss world 2025
- ปิดตำนาน แม่ปุ้ยTPN ยินดี ณวัฒน์ ถือลิขสิทธิ์ MUT แฟนนางงามแห่ส่งกำลังใจ
- แม่ปุ้ย TPN ตอบแล้ว โอปอล ชฎาหลุด กลางเวทีมิสยูนิเวิร์ส บังเอิญหรือตั้งใจ?
ภาพปกจาก: PUI Sankosik TPN Global และ Miss World
ติดตาม The Thaiger บน Google News: