ข่าว

สาวแชร์ประสบการณ์ เตือนเด็กเสียงดังในโรงหนัง ถึงขั้นจะทำร้ายร่างกาย

เพจดังแชร์ สาวรายหนึ่งตักเตือนเด็กเสียงดังขณะอยู่ในโรงภาพยนตร์ จากนั้นผู้ปกครองของเด็กปรี่หาเรื่องก่อนจะปากเสียงกัน และจะทำร้ายร่างกาย หลังเกิดเรื่องสาวเจ้าของเรื่องเข้าแจ้งความทันที และข้อกฎหมายจากเพจดัง

เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 โพสต์เรื่องราวของสาวรายหนึ่ง ที่เจ้าของเรื่องกับแฟนของเธอ กำลังดูภาพยนตร์อยู่ ขณะนั้นมีเด็กที่ดูภาพยนตร์ด้วย ได้ออกไปซื้อขนมระหว่างที่ภาพยนตร์กำลังฉาย เดินไปมาระหว่างที่นั่ง ทำเสียงดังจนเจ้าของเรื่องเตือน หลังจากที่ภาพยนตร์จบ ผู้ปกครองของเด็กได้เดินปรี่หาเรื่องกับเจ้าของเรื่อง ก่อนที่จะมีปากเสียงกันก่อนที่ผู้ปกครองของเด็กจะเข้าทำร้าย แต่เจ้าของเรื่องไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด จากนั้นจึงนำเรื่องทั้งหมดแจ้งความที่สถานีตำรวจ

สาวแชร์ประสบการณ์ เตือนเด็กเสียงดังในโรงหนัง ถึงขั้นจะทำร้ายร่างกาย
ภาพจาก: FB/ซัน เดย์

เธอได้เล่าเรื่องราวว่า “ต้นเหตุมาจาก ฉันและแฟนฉันดูหนังอยู่ที่โรงภาพยนตร์หนึ่ง เราสองคนนั่งอยู่ที่โซฟาคู่หลังสุด คู่กรณีและลูกคู่กรณีนั่งอยู่โซฟาคู่ข้างล่างถัดไปแค่แถวเดียว ตอนนั้นหนังกำลังฉายแล้ว พูดก่อนว่าเรื่องนั้นมีเด็กค่อนข้างเยอะ แต่จะมีอยู่ครอบครัวหนึ่ง ที่ปล่อยให้เด็ก 2 คน นั่งกันตามลำพังอีกโซฟา อันนี้ไม่แน่ใจว่ามีผู้ใหญ่นั่งด้วยไหม แต่จากที่เห็นคิดว่าไม่ เด็กคุยกันเสียงดังหลายครั้ง และเด็กได้มีการเดินออกจากโรงภาพยนตร์ไปซื้อขนมทั้ง ๆ ที่หนังกำลังฉาย เด็กมีการเดินไปมาระหว่างโซฟา ของผู้ปกครอง และที่ตัวเด็กนั่งอยู่หลายครั้ง แกะถุงขนมเสียงดัง กินขนมกันเสียงดัง

เพราะตอนนั้นได้ยินเสียงถุงขนมหลายครั้ง ทางฉันก็พูดตักเตือนในที่ ๆ ของฉัน ที่ ๆ ฉันนั่งอยู่ว่า “อย่าเสียงดังค่ะ” อันนี้พูดก่อนว่า ถ้าทางเราไม่แน่ใจหรือยังไง เราจะไม่พูดเลย แต่นี้เสียงดังมาตลอดตั้งแต่เริ่มเรื้อง จนหมดความอดทน ก็ตักเตือนไป เด็กก็เงียบไม่เสียงดังอีก ก็ดูหนังต่อไป

สาวแชร์ประสบการณ์ เตือนเด็กเสียงดังในโรงหนัง ถึงขั้นจะทำร้ายร่างกาย
ภาพจาก: FB/ซัน เดย์

ต่อมาหนังใกล้จะจบละ มีผู้ปกครองเด็ก มาหาตัวว่าใครเป็นคนด่าน้อง มาเดินหาบังคนที่ดูอยู่ ทางเราก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนั้น เราพูดจบไปนานแล้ว เราก็คิดว่า อาจจะเป็นคนอื่นอีกที่ตักเตือนเพราะน้องเสียงดังจริง ๆ ผู้ปกครองเด็กก็พาเด็กออกไปก่อนหนังจะจบ (พูดก่อนว่าทางคู่กรณีคิดว่าเราไปด่าน้อง แต่จริง ๆ เราพูดตักเตือนในที่ ๆ ของเราดี ๆ นะ )

พอหนังจบเราสองคนกับแฟนก็เดินออกจากโรงภาพยนตร์ เดินลงไปฝั่งเกมส์เซนเตอร์ ทางคู่กรณีหญิง (ผู้ปกครองเด็ก) ได้เดินปรี่เข้ามาหาทันทีว่า “คนนี้ใช่ไหมที่ด่าน้อง” เราก็บอกด่าว่าอะไร เราก็พูดเสริมอีก ว่าไม่ได้ด่านะคะ พูดดี ๆ มีหางเสียงด้วยซ้ำ ทางคู่กรณีก็คงจะไม่พอใจ ไม่ยอมรับว่าเด็กเสียงดัง ก็เถียงว่าไม่ได้เสียงดัง (แต่ทางเราคิดว่าถ้าเด็กไม่ได้เสียงดังเราจะพูดตักเตือนทำไม) พูดก่อนว่าคู่กรณีเริ่มควบคุมอารมณ์ ตัวเองไม่ได้แล้ว ตะคอกเสียงใส่ โวกเวกเสียงดัง

ประเด็นอยู่ตรงนี้ ทางคู่กรณีบอกเด็กไม่ได้เสียงดังถูกไหมคะ แต่ทางเราพูดตักเตือนไปลอย ๆ ตักเตือนในที่ๆของเรา พูดตักเตือนให้รู้ว่ามีคนเสียงดัง ไม่ได้ไปชี้หน้าด่าลูกคู่กรณีเลย แต่คู่กรณีดันเดือดร้อนไม่พอใจ (ทางเราก็เลยคิดว่าถ้าลูกคุณไม่ได้เสียงดังคุณจะร้อนตัวทำไมถูกไหมคะ)

แต่ที่ทำให้เราไม่โอเคเลยคือทางคู่กรณีเอาคำว่าเด็กมาอ้าง ทั้งๆที่คุณควรจะดูแลให้ดี ไม่ให้ไปรบกวนคนอื่น มารยาทในโรงภาพยนตร์ก็มีว่าอย่าเสียงดังรบกวนผู้อื่น มันเป็นพื้นที่ส่วนรวม คุณควรสอนน้องไม่ใช่ไม่พอใจที่คนอื่นมาพูดเตือน ทางฝั่งนั้นก็ไม่พอใจไม่ยอม ทางเราก็ไม่โอเค ว่าทำไมเราตักเตือนเด็กเราผิดหรอ เราไม่ได้ไปว่าน้องด้วยคำหยาบคายเลย พูดตักเตือนในที่ๆของเราดี ๆ

พอเริ่มมีปากเสียงกันหนักขึ้น ทางนั้นคงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ละ จึงเดินปรี่เข้ามาจะตบเรา แต่ทางแฟนเราห้ามไว้ แต่เขาก็ไม่ยอม มือเขาเลยหลุดมาข่วนโดนแขนเรากับกระชากผมเราไปนิดหน่อย แต่สุดท้ายยังไงคู่กรณีก็มีเจตนาจะทำร้ายฝ่ายเรา แต่ดีที่เราไม่เป็นอะไรมาก ณ ตอนนั้นก็มีคนมาห้ามพาคู่กรณีออกไป เราก็แยกย้ายไป

หลังจากเกิดเหตุเราก็เข้าไปแจ้งความเลย เราคิดว่าเขาควรคิดนิดหนึ่ง ที่ไม่ใช่อยากเอาชนะโดยไม่ลืมหูลืมตาเลย เราพูดตักเตือนดี ๆ ไม่ได้ด่าเลย คือเอาง่าย ๆ คู่กรณีไม่ยอมรับอะไรเลย”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ต์ออกไป ต่างมีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมของผู้ปกครองเด็กที่จะทำร้ายร่างกาย ซึ่งทางเพจ ทนายนอกศาล ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกฎหมาย รวมทั้งประเด็นทางกฎหมายในรายละเอียดของเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปนี้

  • มารยาทในการใช้บริการโรงภาพยนตร์: แม้ไม่ใช่กฎหมายโดยตรง แต่เป็นข้อพึงปฏิบัติเพื่อส่วนรวม
  • การก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ: การส่งเสียงดังของเด็ก (โดยผู้ปกครองไม่ดูแล) หรือการทะเลาะวิวาทของผู้ใหญ่
  • การข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย: กรณีผู้ปกครองปรี่จะเข้าไปตบหรือกระชากหัวผู้ที่ตักเตือน
  • การทำร้ายร่างกาย (หากเกิดขึ้นจริง): หากมีการสัมผัสเนื้อตัวจนเกิดอันตราย
  • สิทธิของผู้ให้บริการ (โรงภาพยนตร์): ในการรักษาระเบียบและความสงบเรียบร้อย

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องจากจากเหตุการณ์นี้

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 392: “ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 “ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” (หากมีการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น)
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372: “ผู้ใดทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน หรือกระทำการโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท”

ผลกระทบที่เกิดขึ้น ผู้ที่ถูกรบกวน จะเสียอรรถรสในการชมภาพยนตร์ รวมทั้งเสียสมาธิ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ จะเสียเวลา เสียความรู้สึก และอาจนำไปสู่คดีความได้ และผู้ใช้บริการท่านอื่นนั้น ทำให้บรรยากาศในการชมภาพยนตร์โดยรวมเสียไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx