เพจดัง แฉ ปราสาทตาเมือนธม ขึ้นทะเบียนของไทย ก่อนเขมรได้เอกราช รู้ดีมาตลอด

เพจดัง งัดหลักฐานฟาด ปราสาทตาเมือนธม ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ของไทย ก่อนกัมพูชา ได้เอกราชจากฝรั่งเศส อีกฝ่ายรู้มาตลอด
เพจเฟซบุ๊กชื่อดังด้านประวัติศาสตร์ “โบราณนานมา” ออกมาเปิดข้อมูลสำคัญ ตอกย้ำสิทธิของประเทศไทยเหนือ “ปราสาทตาเมือนธม” มีข้อมูลยืนยันหนักแน่นว่า ประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนปราสาทแห่งนี้เป็นโบราณสถานของชาติมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ก่อนที่ประเทศกัมพูชาจะได้รับเอกราชอย่างเป็นทางการเสียด้วยซ้ำ พร้อมชี้กัมพูชารับรู้สถานะดังกล่าวมาโดยตลอด แต่พยายาม “ตีเนียน” สร้างสถานการณ์
เพจ “โบราณนานมา” ได้เผยแพร่ข้อมูลระบุว่า กรมศิลปากรของไทยได้ทำการสำรวจพบ แล้วขึ้นบัญชี “ปราสาทตาเมือนธม” เป็นโบราณสถานของไทยอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 (ค.ศ. 1935) หรือเมื่อ ๙๐ ปีที่แล้ว
ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ยังคงอยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์มาอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังได้พัฒนาเส้นทางเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ทางการกัมพูชาก็รับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
ประเด็นสำคัญที่เพจดังกล่าวยกมาเป็นหลักฐานคือ ประเทศกัมพูชา ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) และได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศเอกราชอย่างเป็นทางการจากองค์การสหประชาชาติในปี พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955)
เพจ “โบราณนานมา” ชี้ว่า นั่นหมายความว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทตาเมือนธมเป็นโบราณสถานของไทยนั้น เกิดขึ้นก่อนที่ประเทศกัมพูชาจะมีสถานะเป็นรัฐเอกราชในปัจจุบันถึงเกือบ 20 ปี
ทางเพจยังได้ตั้งข้อสังเกตอย่างเผ็ดร้อนว่า “ดังนั้น กัมพูชารับรู้มาตลอด แต่ตีเนียน คิดแต่จะสร้างสถานการณ์ ปลุกระดมคนกัมพูชา ที่ชักจูงได้ง่าย โดยไม่ใช้สติและปัญญาไตร่ตรองถึงข้อเท็จจริงก่อน ให้ดำเนินไปเหมือนกรณี ‘ปราสาทพระวิหาร'”
เพจโบราณนานมา ยังได้เสนอแนะว่า หากกัมพูชาอ้างสิทธิการถือครองพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมจริง ประเทศไทยจำเป็นต้องยืนยันอธิปไตยและสิทธิอันชอบธรรมเหนือดินแดนจุดนี้ โดยใช้แผนที่ตามหลักสากล ซึ่งมีการแบ่งพื้นที่ตามหลักสันปันน้ำเป็นเกณฑ์
การเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ของเพจโบราณนานมา มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมภายใต้การปกครองของไทยมาอย่างยาวนาน เป็นการยืนยันสิทธิอันชอบธรรมของไทยที่มีมาก่อนการก่อตั้งประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน
ปัจจุบันโพสต์ดังกล่าว มีคนแชร์ไปเกือบ 9 พันครั้ง
ปราสาทตาเมือนธม ศิวลึงค์แห่งขุนเขา มีมาตั้งแต่สมัยยังไม่เป็นรัฐชาติ
ความเป็นมา ปราสาทตาเมือนธม ตั้งเร้นอยู่กลางป่าเขียวขจีของเทือกเขาพนมดงรัก บนชายแดนไทย–กัมพูชา ณ ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จัดเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มปราสาทสามหลังซึ่งตั้งเรียงรายในละแวกเดียวกัน
คำว่า “ธม” ในภาษาเขมรแปลว่า “ใหญ่” ตัวปราสาทสร้างคร่อมโขดหินธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ มีรูปลักษณ์เหมือน สยัมภูศิวลึงค์ หรือศิวลึงค์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ นี่ไม่ใช่เพียงภูมิสถาปัตย์ แต่เป็นจิตวิญญาณของคนโบราณที่ผสานธรรมชาติเข้ากับความเชื่ออย่างกลมกลืน
หากปราสาทในเขมรส่วนใหญ่หันหน้าไปทางตะวันออก แต่ตาเมือนธมหันหน้าลงทิศใต้ ตรงกับทางผ่านจากเขมรต่ำสู่ลุ่มน้ำมูล นี่อาจเป็นการจัดวางอย่างมีเจตนา เพื่อเปิดรับผู้แสวงบุญจากแดนใต้ หรืออาจเป็นสัญญาณของศูนย์กลางศาสนาแห่งภูมิภาคในยุคหนึ่ง
สิ่งปลูกสร้างโดยรอบประกอบด้วยปรางค์หินทรายสองหลัง บรรณาลัยศิลาแลง และระเบียงคดทอดยาวล้อมรอบ ลึกเข้าไปด้านในคือลานประกอบพิธีกรรมกลางแจ้ง ที่ว่ากันว่าเคยใช้สำหรับการบูชาเทพเจ้าฮินดูในยุคอาณาจักรขอมรุ่งเรือง มีสระน้ำสองบ่ออยู่ด้านนอก คงเป็นที่ชำระล้างก่อนเข้าสู่บริเวณศักดิ์สิทธิ์
ที่น่าสนใจคือ กลุ่มปราสาทนี้ไม่ได้สร้างเพื่อความงามเพียงอย่างเดียว หากยังถูกออกแบบอย่างมี หน้าที่ โดยปราสาทตาเมือนโต๊ด (อยู่ห่างออกไป 750 เมตร) เชื่อกันว่าเคยเป็น “อโรคยาศาล” หรือสถานพยาบาลสาธารณะในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ส่วนปราสาทตาเมือน (หรือบายกรีม) ซึ่งเล็กที่สุด คล้ายห้องยาวต้อนรับนักเดินทาง เชื่อว่าเคยเป็น “ธรรมศาลา”—ที่พักริมทางสำหรับผู้สัญจรผ่านช่องเขา
แม้จะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า แต่ปราสาทตาเมือนธมกลับตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดน ในบางช่วงเวลากลับกลายเป็นสมรภูมิของความขัดแย้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา ทำให้ปราสาทต้องปิดการเข้าชมชั่วคราวในช่วงหนึ่งเมื่อปี 2553 ก่อนจะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง และนักท่องเที่ยวต้องไม่ออกนอกเขตที่กำหนด
ปัจจุบัน แม้จะยังไม่สามารถเดินเข้าออกจากฝั่งกัมพูชาได้สะดวกเหมือนในอดีต แต่ฝั่งไทยได้ปรับปรุงเส้นทางขึ้นเขาเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว การเดินทางสู่อดีตจึงไม่ยากเย็นอีกต่อไป แค่ปลายเท้าก้าวขึ้นเขา…ใจคุณก็อาจได้พบเสียงกระซิบจากศิลา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภูมิธรรม แจงยิบ ข่าวสั่งถอนทหาร “ปราสาทตาเมือนธม” นักวิชาการ หวั่นเสียดินแดน
- สามเหลี่ยมมรกต เป็นของใคร ฮุนเซนเคลมวุ่น ไทยโต้ ไม่ถอยให้
- ปราสาทตาเมือนธม สุรินทร์ เป็นของไทยหรือเขมร ฟาดหน้าทหารกัมพูชาร้องเพลงชาติ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: