เปิด 5 จังหวัด ‘ซิฟิลิส’ ระบาดหนัก เช็กอาการระยะแรก ปล่อยไว้นานทรมานมาก

ไม่อยากเป็นโรคลำยอง อย่าสำส่อน เปิด 5 จังหวัด ‘ซิฟิลิส’ ระบาดหนัก เช็กอาการระยะแรก ปล่อยไว้นานทรมานมาก รักษาหายได้ ถ้ารู้เร็ว ไม่เหมือน HIV แนะพิกัด สถานที่ตรวจซิฟิลิส ในกรุงเทพมหานคร
กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยยอดสถิติน่ากังวล ผู้ติดเชื้อซิฟิลิส ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 30 กันยายน 2567 สะสมทั้งประเทศ 25,469 ราย
5 จังหวัดที่มีผู้ป่วยซิฟิลิสสูงสุด ได้แก่
1.กรุงเทพมหานคร 3,968 ราย
2.ชลบุรี 1,844 ราย
3.นครราชสีมา 864 ราย
4.บุรีรัมย์ 841 ราย
5.อุดรธานี 799 ราย
โรคซิฟิลิสระยะแรกจะมีอาการหลักๆ คือ มีอาการต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโต แต่ไม่เจ็บ เกิดแผลริมแข็ง ลักษณะเป็นแผลเดี่ยว ขอบแผลเรียบแข็ง ไม่เจ็บ ไม่คัน ก้นแผลสะอาด อาจมีน้ำเหลืองซึมเล็กน้อย มักจะเกิดบริเวณที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย เช่น อวัยวะเพศ ทั้งชายและหญิง ทวารหนัก ริมฝีปาก ลิ้น หรือในช่องปาก
แผลจะปรากฏขึ้นประมาณ 10-90 วัน หรือ เฉลี่ย 3 สัปดาห์ หลังจากได้รับเชื้อ แผลนี้จะหายไปได้เองภายใน 3-6 สัปดาห์ แม้ไม่ได้รับการรักษา ทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าหายแล้ว แต่จริงๆ เชื้อยังอยู่ในร่างกาย ฟักตัวพัฒนาไปสู่ระยะต่อไปได้
ติดซิฟิลิสแล้วไม่รักษา จะเกิดอะไรขึ้น
จะเข้าสู่ระยะที่สอง
มักจะเกิดขึ้นหลังจากแผลริมแข็งหายไปแล้วประมาณ 2-10 สัปดาห์ หรือบางครั้งอาจเกิดขึ้นในขณะที่แผลริมแข็งยังไม่หายดีก็ได้ อาการที่พบบ่อยคือ ขึ้นผื่น ไม่คัน ขึ้นได้ทั่วตัว รวมถึงฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นลักษณะค่อนข้างเฉพาะ ผื่นอาจมีหลายรูปแบบ เช่น เป็นจุดแดงๆ ตุ่มนูน หรือเป็นปื้นหนา มีผมร่วงเป็นหย่อมๆ พบแผลตื้นๆ ในปาก ช่องคอ หรืออวัยวะเพศ
อาจพบตุ่มนูนคล้ายหูดขนาดใหญ่ขึ้นบริเวณอับชื้น เช่น อวัยวะเพศ รักแร้ เรียกว่า Condylomata lata ร่วมกับไข้ต่ำๆ ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วตัว อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
อาการในระยะนี้จะเป็นๆ หายๆ อยู่ได้นานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน สามารถหายไปได้เองแม้ไม่ได้รับการรักษา แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย
ระยะแฝง
หลังจากอาการของระยะที่สองหายไป หากยังไม่ได้รับการรักษา เชื้อซิฟิลิสจะยังคงอยู่ในร่างกายแต่ไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา เรียกว่าระยะแฝง ระยะนี้สามารถแบ่งได้เป็น
ระยะแฝงช่วงต้น คือช่วง 1 ปีแรกหลังติดเชื้อ ในระยะนี้ยังสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้
ระยะแฝงช่วงปลาย คือช่วงหลังจาก 1 ปีไปแล้ว ในระยะนี้โอกาสแพร่เชื้อจะน้อยลง
ระยะแฝงนี้อาจอยู่ได้นานเป็นปีๆ หรือตลอดชีวิตโดยไม่มีอาการ แต่เชื้อยังคงทำลายอวัยวะภายในอย่างเงียบๆ
ระยะที่สาม
อเป็นระยะสุดท้ายของโรค เกิดขึ้นได้หลายปี 10-30 ปี หลังจากติดเชื้อในผู้ที่ไม่ได้รับการรักษา ประมาณ 15-40% ของผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาจะเข้าสู่ระยะนี้ ชื้อจะทำลายอวัยวะต่างๆ อย่างรุนแรงและถาวร เช่น เกิดความผิดปกติของหลอดเลือดแดงใหญ่ ลิ้นหัวใจรั่ว หรือโป่งพอง. ทำลายสมองและไขสันหลัง ทำให้มีอาการปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง สับสน ความจำเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง อัมพาต สูญเสียการทรงตัว หรือตาบอดได้ สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกระยะของซิฟิลิส แต่พบบ่อยในระยะนี้
เกิดเป็นก้อนอักเสบทำลายเนื้อเยื่อ เรียกว่า “กัมม่า” (Gumma) สามารถเกิดได้ที่ผิวหนัง กระดูก ตับ หรืออวัยวะภายในอื่นๆ
ความรุนแรงในระยะนี้แก้ไขให้กลับมาเป็นปกติไม่ได้แล้ว แม้จะได้รับการรักษาเพื่อฆ่าเชื้อแล้วก็ตาม รุนแรงสุดถึงแก่ชีวิตได้
ดังนั้น การตรวจพบและรักษาโรคซิฟิลิสตั้งแต่ระยะแรกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้โรคดำเนินไปสู่ระยะที่รุนแรงขึ้นและเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายครับ หากมีความเสี่ยงหรือสงสัย ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ซิฟิลิสกับเอดส์ เหมือนกันไหม
ไม่เหมือนกัน เป็นคนละโรคกันเลย แต่สองโรคนี้ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เหมือนกัน
ข้อแตกต่างที่สำคัญคือเชื้อก่อโรค ซิฟิลิสเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชื่อ Treponema pallidum เอดส์เป็นกลุ่มอาการระยะสุดท้ายของการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี
ซิฟิลิส ถ้าไม่รักษาจะมีการดำเนินโรคเป็นระยะต่างๆ (ระยะแรก, ระยะสอง, ระยะแฝง, ระยะสาม) แต่ละระยะมีอาการแสดงที่แตกต่างกัน รักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ เพนิซิลลิน หากตรวจพบ รักษาเร็ว ก็จะไม่รุนแรง
ส่วนเชื้อเอชไอวีจะเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง จนติดเชื้อโรคฉวยโอกาสต่างๆ ได้ง่าย ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเอชไอวีให้หายขาดได้ แต่มียาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูง จนควบคุมปริมาณไวรัสในร่างกายให้อยู่ในระดับต่ำมากๆ ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรงใกล้เคียงคนปกติและมีอายุขัยยืนยาวได้ ลดโอกาสการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
โรคซิฟิลิส ป้องกันได้ด้วยเซฟเซ็กซ์
ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องทางใดก็ตาม อวัยวะเพศ รูทวาร หรือแม้แต่ทางปาก เพราะเชื้อซิฟิลิติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงกับแผลหรือสารคัดหลั่งของผู้มีเชื้อ
ถุงยางอนามัยป้องกันได้สูงสุด ควรเลือกขนาดให้เหมาะสม สวมใส่อย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดกิจกรรมทางเพศ ใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง พกพาถุงยางอนามัยไว้เสมอเป็นการเตรียมพร้อมที่ดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าละอาย แต่เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเองและคู่
นอกจากถุงยาง ก็ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ช่วยลดความเสี่ยงได้ หากกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของตนเอง หรือสังเกตเห็นอาการผิดปกติ เช่น การเกิดแผลบริเวณอวัยวะเพศหรือส่วนอื่นๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือสถานพยาบาลที่ให้บริการที่เป็นมิตรต่อเยาวชน การตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้นจะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สถานที่ตรวจโรคซิฟิลิส กรุงเทพ อัปเดต 2568
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 4 ดินแดง เขตดินแดง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 9 ประชาธิปไตย เขตพระนคร
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 20 ป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 25 ห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 38 จี๊ด ทองคํา บําเพ็ญ เขตดุสิต
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 3 บางซื่อ เขตบางซื่อ
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 61 สังวาล ทัสนารมย์ เขตสายไหม
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 21 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 22 วัดปากบ่อ เขตสวนหลวง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 23 สี่พระยา เขตบางรัก
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 32 มาริษ ตินตมุสิก เขตพระโขนง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 41 คลองเตย เขตคลองเตย
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 43 มีนบุรี เขตมีนบุรี
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 64 คลองสามวา เขตคลองสามวา
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 26 เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ เขตธนบุรี
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 28 กรุงธนบุรี เขตคลองสาน
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 ช่วง นุชเนตร เขตจอมทอง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 36 บุคคโล เขตธนบุรี
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 40 บางแค เขตบางแค
- ศูนย์บริการสาธารณสุข 48 นาควัชระอุทิศ เขตหนองแขม
- โรงพยาบาลกลาง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
- โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เขตดุสิต
- โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เขตบางคอแหลม
- โรงพยาบาลสิรินธร เขตประเวศ
- โรงพยาบาลนคราภิบาล เขตลาดกระบัง
- โรงพยาบาลเวชการุญรัศมิ์ เขตหนองจอก
- โรงพยาบาลรัตนประชารักษ์ เขตคลองสามวา
- โรงพยาบาลตากสิน เขตคลองสาน
- โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร อุทิศ เขตหนองแขม
- โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน
- โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตบางแค

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: