ข่าวการเมือง

ศาลปกครอง ยืนยัน ไม่ได้สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้คดีจำนำข้าว หมื่นล้าน

ศาลปกครองแจงข้อกฎหมาย คดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้สั่งให้ชดใช้หมื่นล้าน แจงตัดสินตั้งแต่ปี 2566 ก่อน 2 ตุลาการพ้นตำแหน่ง

วันนี้ (26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครอง ชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9 คน ผู้ถูกฟ้องคดี ดังนี้ คดีในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23
บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล

ทั้งนี้ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว

คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ศาลไม่มีอำนาจพิพากษาให้คู่กรณีฝ่ายผู้ฟ้องคดีรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีจำนำข้าว
ภาพจาก Yingluck Shinawatra

ซึ่งคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า คำสั่งพิพาทไม่ชอบด้วยกฎหมายบางส่วน จึงมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งพิพาทเฉพาะส่วนที่ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน 10,028,861,880.83 บาท โดยศาลปกครองสูงสุดไม่ได้มีคำพิพากษาและออกคำบังคับให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 9 แต่อย่างใด

คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 โดยตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่นั่งพิจารณาได้ลงลายมือชื่อในร่างคำพิพากษาครบทั้ง 5 คนเรียบร้อยแล้ว

ต่อมาประธานศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้นำคดีเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ซึ่งในการประชุมใหญ่นั้นจะประกอบด้วยตุลาการศาลปกครองสูงสุดทุกคนที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น ตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่พ้นจากราชการไปแล้วจึงไม่อาจเข้าร่วมประชุมใหญ่ได้

ทั้งนี้คำวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่ จะเป็นไปตามเสียงข้างมากของที่ประชุม ต่อมา เมื่อมีการจัดทำคำพิพากษาตามมติของที่ประชุมใหญ่แล้ว ตุลาการในองค์คณะ 2 คนที่พ้นจากราชการไปแล้วจึงไม่อาจลงลายมือชื่อในคำพิพากษาได้ ซึ่งประธานศาลปกครองสูงสุดได้มีบันทึกกรณีตุลาการศาลปกครองสูงสุดมีเหตุจำเป็นไม่อาจลงลายมือชื่อได้ไว้ในคำพิพากษาแล้ว

ทั้งนี้การดำเนินกระบวนพิจารณาและจัดทำคำพิพากษาดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 68 และมาตรา 69 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542

ส่วนการทำความเห็นแย้งนั้น ตุลาการศาลปกครองสูงสุดทุกคนในที่ประชุมใหญ่มีสิทธิทำความเห็นแย้งได้ตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยปรากฏความเห็นแย้งและรายชื่อของตุลาการที่มีความเห็นแย้งอยู่ในคำพิพากษาแล้ว

 

ข้อกฏหมายคดีจำนำข้าว ยิ่งลักษณ์ ศาลปกครอง
ภาพจาก สำนักงานศาลปกครอง
ภาพจาก สำนักงานศาลปกครอง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

yo

นักเขียนข่าว บทความทั่วไปประเภทไลฟ์สไตล์ สำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา มศก. ติดต่อได้ที่อีเมล yo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx