ทรู เยียวยา ลูกค้าเติมเงิน-รายเดือน รอรับ SMS ยืนยัน ย้ำสัญญาณกลับมาแล้ว

กสทช. สั่ง บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ชี้แจง-ออกมาตรการเยียวยาลูกค้า หลังสัญญาณมือถือ-เน็ตล่ม
จากกรณีผู้ใช้งานเครือข่ายมือถือ ทรู (True) ประสบปัญหาสัญญาณมือถือและอินเทอร์เน็ตล่ม ใช้งานไม่ได้หลายชั่วโมงและหลายพื้นที่ทั้งในและนอกกรุงเทพมหานครฯ ยกเว้นผู้ใช้งาน ดีแทค (DTAC) ที่ไม่ได้รับผลกระทบอะไร ขณะที่ฝั่งประชาชนมองว่าทางค่ายควรมีความรับผิดชอบในการออกแอ็กชันแก้หรือป้องปัญหาได้ดีกว่าการประกาศแจ้งข่าว เพราะความเสียหายในภาคธุรกิจได้เกิดขึ้นไปแล้ว
ต่อมานายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยว่า กสทช. ได้เชิญผู้บริหารจากบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าชี้แจงประเด็นข้างต้นอย่างเร่งด่วนแล้ว โดยสั่งการให้ทางบริษัทฯ รายงานการดำเนินการ สาเหตุของปัญหา และมาตรการเยียวยาให้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายในวันนี้
นอกจากนี้ กสทช. ได้ออกหนังสือกำชับให้บริษัทฯ ให้อำนวยความสะดวกกับประชาชนในการติดต่อสื่อสารอย่างมีมาตรฐาน หมั่นตรวจสอบเตรียมความพร้อมอุปกรณ์ โครงข่ายต่างๆ ให้พร้อมใช้งานและสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ หากมีเหตุขัดข้องในลักษณะดังกล่าวอีก จะมีการพิจารณาถึงบทลงโทษตามมาตรการต่อไป

ล่าสุด (22 พ.ค.) มีรายงานว่า “ทรู” ได้ออกประกาศชี้แจงมาตรการเยียวยา ว่า ทางบริษัทฯ ขออภัยสำหรับเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้ บริการต่าง ๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ โดยบริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อ ซึ่งผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป
นอกจากนี้ช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช. เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเรียบร้อย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน เน็ตทรูล่ม หลายพื้นที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้
- วิธีเช็คว่าใครลงทะเบียน “ซิมการ์ดมือถือ” รวมทุกค่าย เอไอเอส-ทรู-ดีแทค
- ทรูมูฟกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว หลังสัญญาณล่ม
ติดตาม The Thaiger บน Google News: