ทิดแย้ม ฉาวไม่เลิก ตั้งตู้รับบริจาค แต่ไม่ให้เงิน รพ.ค่าเครื่องมือแพทย์ นาน 3 ปี

โรงพยาบาลเผย ไม่ได้รับเงินบริจาคจากวัดไร่ขิงนาน 3 ปี จึงเปิดบัญชีใหม่แทน สุดท้ายพบ ตู้บริจาคในนามโรงพยาบาลยังตั้งอยู่ในวัด
วันนี้ (21 พ.ค.) มีรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินวัดไร่ขิงในคดีของ “ทิดแย้ม” ยักยอกเงินวัดหลักร้อยล้านว่า พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พบบัญชีที่เกี่ยวข้องคือมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และบัญชีซื้อเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ ซึ่งเคยเป็นบัญชีเปิดรับบริจาคของญาติโยม แต่มีผู้เกี่ยวข้องกับทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ไม่ได้รับเงินจากวัดมานานกว่า 3 ปีแล้ว
นอกจากนี้ยอดเงินในสองบัญชีดังกล่าวยังเหลือเพียงล้านกว่าบาท เจ้าหน้าที่จึงอยู่ระหว่างยื่นขอตรวจสอบรายงานเดินบัญชีจากสถาบันการเงินว่า มีการนำเงินไปใช้ประโยชน์ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เนื่องจากในอดีตโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ เคยได้รับเงินสนับสนุนเงินผ่านมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ เช่น ด้านทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ การอบรม และบัญชีสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์อยู่เป็นประจำ
ทว่าช่วงปี 64-65 ทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดน้อยลง และหยุดสนับสนุนมานานกว่า 3 ปี โรงพยาบาลจึงจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดรับเงินจากประชาชนอีกหนึ่งบัญชี โดยขาดอำนาจจากมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม ที่มีนายเเย้ม อดีตเจ้าอาวาสเป็นประธานมูลนิธิ และผู้มีอำนาจเบิกถอน พร้อมขออนุญาตจากคณะกรรมวัดไร่ขิง ตั้งตู้บริจาคเงินโรงพยาบาลอีก 1 ตู้ เพื่อรับเงิน โดยทางโรงพยาบาลจะส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดไขเงินจากตู้บริจาคเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัด แต่ก็ยังพบเห็นตู้บริจาคของมูลนิธิฯ และตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์อันเดิมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน

อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังพบการโอนเงินเข้าออกบัญชีหลายรายการอย่างน่าสงสัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่จึงอยู่กำลังตรวจสอบ ขณะที่ผู้เกี่ยวข้องในบัญชีเงินวัดทั้งหมดตำรวจได้สอบปากคำแยกเป็นพยาน และผู้ร่วมกระทำความผิดแล้ว โดยยังไม่มีการพิจารณาออกหมายจับใคร เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาฐานความผิดเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ระบบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดไร่ขิง ถูกจัดเก็บไว้อย่างค่อนข้างรัดกุม จึงสามารถตรวจสอบได้ง่าย ทว่าหลังจากนายแย้มเข้ามารับตำแหน่ง ตั้งแต่ ปี 2551 การเดินบัญชีกลับเริ่มจะมีความซับซ้อนมากขึ้น ส่วนการตรวจสอบบัญชีอื่น ๆ ของวัดนั้น พบว่ามีบางบัญชีถูกเปิดในชื่อพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพิ่มเติมอีกหลายบัญชีด้วย
ส่วนประเด็นที่นายแย้มหยิบยืมเงินเจ้าอาวาสวัดอื่น ๆ อ้างนำเงินไปวิ่งเต้นรับตำแหน่งเจ้าคณะภาค 14 นั้น ตำรวจยังไม่ได้สอบสวนแต่อย่างใด แต่ถ้าพบว่ามีการทุจริตการรับตำแหน่งหรือไปเรียกเงินจากวัดอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการกระทำความผิดจริง ก็ตรวจสอบย้อนหลัง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สีกาเก็น ยอมรับ “คอลเสียว” ทิดแย้ม จริง อ้างเรื่อง “คลิปหลุด” แบล็กเมล์เรียกเงินล้าน
- เปิดเส้นเงิน “ทิดแย้ม” โยง 4 วัดดัง คาดใช้ซื้อตำแหน่งเจ้าคณะฯ ครั้งละ 1-3 ล้าน
- ทิดแย้ม ฉาวไม่หยุด ใส่รองเท้าแตะหรูหลักหมื่น ชาวเน็ตซัด เงินใครซื้อ?
ติดตาม The Thaiger บน Google News: