ข่าว

อ่านแล้วน้ำตาซึม หมอเล่า แม่ป่วยมะเร็งปากมดลูกขอตาย แลกให้ลูกได้เกิด

อ่านแล้วน้ำตาซึม หมอเล่า เคสสุดเศร้า แม่ป่วยมะเร็งปากมดลูกขอตาย ขอไม่เข้ารักษา ไม่รับเข้าการผ่าตัด แลกให้ลูกได้เกิด

เพจเฟซบุ๊ก อรัณ ไตรตานนท์ โต๊ะทำงาน หรือ นพ.อรัณ ไตรตานนท์ ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องสุดสะเทือนใจ ระบุว่า “หมอจ๋า หนูขอหอมแก้มลูกทีเดียว แล้วปล่อยให้หนูตายก็ได้ ขอตายแทนลูกค่ะ หลายครั้งที่การเกิดของทารกตัวน้อยนำพารอยยิ้ม มาสู่ทุกคนในครอบครัว แล้วถ้าการเกิดของทารกตัวน้อยที่น่ารัก นำพาน้ำตา จากการเสี่ยงชีวิตของแม่มาด้วยหละครับ บวช เรียน พากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกินทดแทนไม่สิ้น พระคุณแม่เอย

“หมอคะ อยากหอมแก้มลูก ขอครั้งเดียวก็ได้” เป็นคำพูดที่ยังก้องอยู่ในหู จนทุกวันนี้ อยากให้เป็นเพียงแค่ความฝัน ตื่นขึ้นมาแล้ว …ทุกอย่างจบ… ไม่เกิดขึ้นจริง แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นเรื่องจริง

เกิดมาจนอายุมากป่านนี้ ลุงหมอไม่เคยคิดเลยครับ ว่าจะได้มาเจออะไรแบบนี้ที่บีบคั้นหัวใจ จริงอยู่ลุงหมอเป็นหมอสูติดูแลคนท้องโต จริงอยู่ลุงหมอเป็นหมอมะเร็งดูแลคนไข้มามากมาย แต่… ผมไม่เคยแม้แต่จะคิดว่า สองวิชาที่เรียนมานั้น จะต้องมาใช้ความรู้ในการดูแลคนท้องและเป็นมะเร็งด้วยในคนคนเดียว…

เศร้าใจเหลือเกิน การดูแลหญิงตั้งครรภ์เราควรจะมีความสนุกเฮฮา ตื่นเต้นและลุ้นๆไปด้วยกันไม่ใช่หรือ? ทำไมฟ้าต้องส่งเรื่องราวแสนเศร้าแบบนี้มาด้วยหละ เจ็บปวดเพียงใดหนอ หากคนที่รักที่สุด ที่ตั้งตาจะได้พบเจอแค่เพียงชั่วครู่ แล้วต้องจากกันนิรันดร… มันช่างหดหู่เกินจะบรรยายจริงๆ

วันเกิดลูก คือวันตายแม่ ที่เขาว่านั้นจริงมาก ไม่มีแม่คนไหน อยากคลอดลูกออกมา แล้วเฝ้ามองลูกเติบโต…เป็นนางฟ้า มองจากบนฟากฟ้าหรอกครับ ทุกคนอยากให้นม อยากเห็นหน้า อยากใช้ทุกวินาทีอยู่กับลูกน้อย อยากพาไปเข้าโรงเรียน อยากซักผ้าให้ทุกวัน อยากเลือกเสื้อผ้าที่น่ารักให้ลูกใส่ อยากป้อนข้าว อยากเห็นลูกหัดเดิน อยากดูแลในทุกห้วงของความห่วงใย อยากได้ยินน้ำเสียงละมุน ที่เรียกคำว่า “แม่”

แม่ทุกคนอย่างอยู่ในทุกเหตุการณ์สำคัญของลูกน้อยจริงไหมครับ? แต่โลกของเรา อาจจะมีคุณแม่บางคนที่โชคร้าย ไม่ได้รับพรศักดิ์สิทธิ์ให้ทำหน้าที่นั้น เธออาจจะไม่มีโอกาสทำในสิ่งที่อยากทำให้ลูก เหมือนคุณแม่คนอื่นๆ

ฤดูหนาวในเดือนธันวาคม 2554 ที่แสนเศร้า ระหว่างนั่งตรวจคนไข้ไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งผมได้เจอผู้หญิงอายุราว 32 ปี เป็นคนจังหวัดสระแก้ว ย้ายมาทำงานแถวๆบางพลี สามีเธอเป็นหัวหน้าฝ่ายผลิตอุปกรณ์อะไรสักอย่าง ย้ายมาจากนิคมอุตสาหกรรม 304

สามีย้ายมาช่วยนายจ้างบุกเบิกเนื่องจากเปิดโรงงานใหม่ เป็นคนดี ขยันทำงาน รู้เรื่องเครื่องจักรกลจึงได้โอกาสเติบโตจนเป็นหัวหน้างาน เธอจึงย้ายมาอยู่ด้วย ได้เป็นพนักงานจัดซื้อแต่งงานกันมา 5 ปี จึงตั้งครรภ์ ดีใจกันมาก เพราะวันที่รู้ว่าท้องเป็นวันเกิดของสามีพอดี ระหว่างฉลองฮาเฮ ตามประสาชาวโรงงานแสนสุขขี เธออาเจียนบ่อยจึงไปหาหมอ หมอก็เก่งส่งตรวจฉี่ เฉลยออกมาว่า..ตั้งครรภ์

กรี๊ดกันทั้งบ้าน โอ้โห นายช่างได้ของของขวัญวันเกิด เป็นสัตว์สองเท้า น่ารักเนอะ ก็ฝากครรภ์กันตามปกติ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ อยู่มาวันหนึ่งช่วงอายุครรภ์ 16 สัปดาห์ เธอนอนเล่น ในเช้าวันเสาร์ ดูทีวี แต่… อยู่ดีๆก็มีเลือดออกช่องคลอด ไม่มีอาการปวดท้อง ไม่มีปัญหาอื่นเลย มีแต่เลือดออกอย่างเดียว

ทุกคนตกใจกันมาก จึงรีบไป รพ. กระโดดขึ้นท้ายรถกระบะโฟร์วิว บังเอิญวันนั้นลุงหมอนั่งตรวจพอดีครับ จังหวะเหมาะจึงได้พบกัน ผมแอบลัดขั้นตอน ขอตรวจอัลตราซาวนด์ดูหน่อย ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติครับ ทารกเป็นชาย รกก็ปกติ เลือดมาจากไหนนะ?

ต่อมาก็ขอตรวจภายในครับ ใส่อุปกรณ์หน้าตาคล้ายปากเป็ดเข้าไปดูในช่องคลอด น้ำตาไหลเลยครับ มะเร็งปากมดลูก!!! ลุงหมอเห็นก้อนเนื้องอกโตขึ้นจากปากมดลูก ราว ๆ 2-3 ซม. หน้าตาคล้ายผักบรอกโคลี ผิวขรุขระ มีเลือดไหลออกมาจากก้อนเนื้องอกนี้แบบซึมๆครับ เลือดออกช้ามากๆ ด้วยความที่เป็นหมอครับ เห็นแบบนี้ผมวินิจฉัยทันที นี่คือมะเร็งปากมดลูกแน่ ๆ 100%

ใจหายครับ รู้สึกอึ้ง ไม่รู้จะบอกคนไข้ว่าอย่างไร การบอกรักด้วยข่าวร้าย เป็นสิ่งที่ลุงหมอเกลียดมากครับ ด้วยความเป็นแพทย์จึงต้องเงียบไว้ก่อนอะครับ บอกคนไข้ตรงๆเพียงแค่ว่ามีก้อนที่ปากมดลูก ขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ เนื่องจากเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง การตัดนี่เราเรียกว่า biopsy ไบ-อ๊อพ-ซี่

โลกนี้ช่างโหดร้าย รอผลตรวจ ราวสองสัปดาห์ เฉลยมาว่าเธอเป็นมะเร็งจริงๆครับ แต่… นี่คนไข้ของผมกำลังท้องอยู่นะ ทำไมเทวดาไม่ช่วยเธอหละ!!! ผมตรวจภายในอย่างรอบคอบ และส่งตรวจสุขภาพชุดใหญ่ ปรากฏว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก จริงๆครับ

ระยะที่1ช่วงปลายครับ ( IB2 ) เรียกว่า ระยะที่หนึ่ง ซึ่งการรักษาผมแนะนำเธอผ่าตัดโดยเร็ว และแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ก่อนการผ่าตัด คือทำแท้งนั่นแหละครับ เพื่อเอาชีวิตรอดก่อนทารกคงไม่ได้แล้วครับ เคสนี้

พูดตามตรงนะครับวิธีการรักษารายนี้ค่อนข้างซับซ้อน แพทย์อาจจะต้องยุติการตั้งครรภ์/ทำแท้งด่วน แล้วรีบนัดผ่าตัดเพื่อรักษามะเร็ง เพื่อเซฟชีวิตของแม่ก่อนที่มะเร็งจะลุกลาม

แพทย์อาจจะต้องส่งตัวไปฉายแสง ทั้ง ๆที่มีทารกอยู่ในมดลูกเพื่อรักษาโรคแต่ผลที่ตามมาก็คือทารกจะเสียชีวิตในครรภ์ทันทีครับ

เศร้าทุกวิธีครับ ไม่อยากเลือกสักทางเลยครับ เคสนี้ผมไม่กล้าดูแลเองครับ หดหู่มากๆ ผมเขียนใบส่งตัวไปรักษาในกรุงเทพ ที่ รพ. ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ชั้นนำครับ ขอฝากชีวิตไว้กับอาจารย์แพทย์ก็แล้วกันนะครับ

วันนั้นคนไข้ร้องไห้ราวกับ หัวใจแตกสลาย ลูกคือแก้วตาดวงใจของเธอ เธอร้องไห้จนสลบไปเลยครับ น่าเวทนาเหลือเกิน เราคงไม่อาจจะเข้าใจความรู้สึกของเธอได้หรอกครับ แต่ผมคิดว่าคงทุกข์ทรมานใจอย่างสุดแสน คล้ายกับหอกหรือดาบ กรีดลงบนหัวใจในวันที่พบรักที่กำลังมีความรักอันแสนบริสุทธิ์ของเธอ ในท้องอันอบอุ่น คืออีกชีวิตที่เฝ้ารอ

เธอไม่ยอมยื่นมือมารับจดหมายส่งตัวจากผม แม้ว่าจดหมายนี้จะทำให้เธอไปเจอแพทย์ที่เก่งกาจที่สุดของประเทศไทยก็ตาม เธอไม่ยอมยื่นมือมารับจดหมายส่งตัวจากผม แม้ว่าจดหมายนี้จะทำให้เธอได้รับการรักษาแบบไม่ต้องชำระเงินแม้แต่บาทเดียว เธอไม่ยอมยื่นมือมารับจดหมายส่งตัวจากผม ทำไมหละครับ ? เพราะจดหมายนี้ คือใบสั่งฆ่าลูกนั่นเอง โถ… เวทนาสุดบรรยาย

เพื่อนๆที่กำลังอ่านอยู่นี้ ท่านที่เคยเป็นแม่คน คงพอเข้าใจนะครับว่าจดหมายนี้จะนำไปสู่การทำลายชีวิตน้อยๆที่เธอรัก แม้ว่าจะเป็นจดหมายที่จะช่วยชีวิตเธอ แต่เธอก็ไม่ยอมยื่นมือมารับ สามีที่กำลังตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ ภายในใจคงสุดแสนทรมานไม่ต่างกันเลย แต่คงต้องทำตัวให้เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งให้ภรรยา เป็นที่พึ่งให้แก้วตาดวงใจ ที่ไม่มีโอกาสตะโกนเรียกชื่อพ่ออีกแล้วหัวใจของครอบครัวนี้จะชอกช้ำเพียงใดหนอ ผมก็คงดูแลได้เพียงเท่านี้ครับ เนื่องจากเกินความสามารถที่ลุงหมอจะช่วยได้

สามีที่กำลังตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้ ยกมือไหว้แบบมือสั่นๆ แล้วก็ยื่นมืออันอ่อนกำลังมารับจดหมายไปจากมือผม เมื่อทั้งสองเดินออกจากห้องตรวจไป ผมก็แอบยกมือไหว้ขอพรจากฟ้าขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองครอบครัวนี้ด้วยเถอะ

แต่เรื่องราวไม่จบเพียงเท่านั้น สองสัปดาห์ต่อมา สามีภรรยาคู่เดิม กลับเข้ามาขอพบผมอีกครั้งครั้งนี้ไม่มีน้ำตาให้เห็น แต่กลับมีรอยยิ้มที่สดใส คุณแม่ยื่นซองจดหมายที่คุ้นตามาให้ผม คืนใส่มือ “หมอคะ หนูไม่ไปรักษาค่ะ ขอฝากครรภ์ต่อ ขอคลอดลูกแล้วยอมตายค่ะ หนูขอให้คุณหมอช่วยทำให้หนูได้หอมแก้มลูกนะคะ ครั้งเดียวก็ได้ค่ะ จากนั้นหนูจะตายหนูก็ยอม”

บีบหัวใจมากครับ… ผมนิ่งอึ้ง งง ไปหมด ที่ได้ฟัง “คำขอตาย” เหตุการณ์ทำนองนี้ผมเจอบ่อยๆแต่เคสนี้ผมอึ้ง พูดไม่ออก จริงๆอยากจะร้องไห้ให้หายอึดอัดจริงๆ ครับแต่ สติ ทำให้นิ่งเงียบ

ผมกระซิบคุณพยาบาลว่า ฝากส่งคนไข้ข้างนอกที่รอผม ไปตรวจกับคุณหมอท่านอื่น ผมคงต้องใช้เวลาในการสนทนากับเคสนี้นานแน่ ๆ กล่อมอยู่นานครับ เพื่อให้เขายอมเอาเด็กออกจะได้รอดชีวิต…

ผมใช้ทักษะในการสนทนาใช้กลวิธีทุกอย่าง งัดทุกมุข ที่ผมคิดออก ทั้งตลก ทั้งแนวดรามา ไม่ว่าจะพูดหรือทำอย่างไร ก็ไม่อาจจะทำให้เธอเปลี่ยนใจ เธอยังคงยืนยัน “คำขอตาย” สุดท้ายผมเองที่ยอมแพ้ ผมยอมตามใจเธอก็แล้วกันครับ

ความรักของแม่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนครับ ไม่รู้จะเทียบกับท้องฟ้าหรือมหาสมุทรดีครับ ท้องฟ้าหรือมหาสมุทรยังมีจุดสิ้นสุด แต่ความรักจากแม่นี้ หาที่สิ้นสุดไม่เจอจริงๆ ความรัก ที่ยอมตายแทนกันได้ มันมีอยู่บนโลกนี้จริงๆหรือนี่ ผมซาบซึ้งใจมาก

สำหรับผม มันคือเรื่องเศร้าที่สุดแสนจะงดงาม ผมมองไปที่สามีภรรยาคู่นี้ ในแววตา ผมเห็นความสุข กับ ความหวัง ผมพยักหน้าเบาๆ เพื่อจะสื่อว่า โอเค ผมออกแรงฉีกจดหมายส่งตัว ดังลั่น กระดาษที่จะปลิดชีพทารกน้อย ขาดสิ้นแล้วครับ ผมฉีกมันต่อหน้าสามีภรรยาคู่นี้ เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่า เอาวะ! ถ้าเธอพร้อม ฉันก็พร้อม! เรามาสู้ไปด้วยกันนะครับ

จากนั้นเราก็ได้เจอกันในวันนัดฝากครรภ์ตามปกติ ผมให้การรักษาเธอตามอาการ และแนะนำการปฏิบัติตัว สุขศึกษาทั่วๆไป โดยไม่พูดถึงเรื่องมะเร็งปากมดลูกกับเธออีก ไม่รู้จะพูดทำไม สิ่งที่เราทำ ผมไม่แน่ใจว่ามันถูก หรือผิด แต่ขอแนะนำว่า อย่าทำตามเลยครับ มันไม่ค่อยถูกต้องตามหลักวิชาแพทย์

แต่สิ่งที่ผมทำนี้ ผมมั่นใจอย่างเดียวเลยครับ คือผลลัพธ์ที่ได้ คนไข้รายนี้เธอดูมีความสุขเหลือเกิน สุขจนล้นหัวใจ ผมสัมผัสได้จากแววตา

สรุปเราตัดสินใจผ่าตัดคลอด ช่วงอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ เนื่องจากเกรงว่าการคลอดเอง ในรายนี้อาจจะทำให้ปากมดลูกมีปัญหาใหญ่ ฉีกขาด มะเร็งกระจายเข้าเส้นเลือด

เป็นเด็กผู้ชายครับ อ้วนปุ๊กเลยครับ แก้มฟูน่าหยิก หลังผ่าตัดคลอดคุณพยาบาลพาน้องมาให้คุณแม่ดูว่าน้องเพศอะไรและผูกป้ายข้อมือให้น้องทันที ผมบอกคุณพยาบาลว่า “พาน้องมาให้คุณแม่หอมแก้มหน่อยครับ”

คุณแม่ที่นอนอยู่บนเตียง ได้รับการบล็อกหลัง เธอไม่สลบ จึงมีสติรู้และได้ยินทุกอย่าง ผมแอบชะโงกหน้าไปมองเธอ เธอจูบแก้มลูกชายตัวน้อยที่กำลังร้องไห้เสียงดัง ด้วยความรักใคร่ เสียงจูบ ดังจุ๊บๆๆๆๆๆ ชื่นใจจังเลยครับ จุ๊บนี้แลกด้วยชีวิตของแม่เลยนะลูก น้ำตาของคุณพยาบาลผู้ดูแลกันมา ไหลออกมาด้วยความเอ็นดู พร้อมพลังแห่งความหวัง คุณพยาบาลมีรอยยิ้มภายใต้หน้ากากอนามัย ส่งกำลังใจให้เธอ ด้วยคำสั้นๆที่แสนอบอุ่น “สู้เพื่อลูกนะคะ อย่ายอมแพ้นะคะ”

ขอบคุณฟ้าที่ประทานพร มอบเด็กชายที่แข็งแรงมาให้คุณแม่ หลังคลอดคุณแม่กับคุณลูกแข็งแรงดี มาติดตามอาการ กันตามปกติ รอจังหวะเหมาะผมจึงพูดเรื่องมะเร็งปากมดลูกอีกครั้งหลังคลอดราวสองเดือนมดลูกกลับมามีขนาดปกติ รอบนี้ผมประเมินระยะของมะเร็งปากมดลูกน่าจะเป็นระยะที่ 2 ครับ ระยะรุนแรงขึ้นครับ จากระยะ1 เป็นระยะ2

เราได้ส่งตัวเธอไปรักษาที่ รพ. โรงเรียนแพทย์อีกครั้ง เธอได้รับการรักษาโดยรังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัดอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน เพียงแต่ว่าการรักษาช้าไปหลายเดือน เนื่องจากอยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ รอน้องคลอดออกมาก่อน

เวลาผ่านไปเร็ว อย่าเสียเวลาไปกับความทุกข์นานนัก ตั้งหลักให้ไวไว ใช้ทุกวินาทีที่มีค่าเพื่อคนที่เรารักดีกว่านะครับ เห็นด้วยไหม? ไม่ต้องตอบก็ได้นะครับ ฝากไว้ให้คิดถึงกันนะ

คุณแม่ตั้งครรภ์พบมีมะเร็งปากมดลูก คุณหมอแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ เพื่อจะได้รีบรักษาชีวิตของแม่ คุณแม่ขอตั้งครรภ์ต่อไป ไม่ยอมเอาเด็กออก อยากให้ลูกเกิดมาดูโลก ลูกคือแก้วตาดวงใจ แม้จะเสี่ยงต่อการต้องเสียชีวิตแม่ เนื่องจากการรักษาต้องเลื่อนให้ช้าออกไป รอรักษาหลังคลอด

โถ…แม่จ๋า เหลืออีกตั้งหลายเดือนคำว่า ยอมตายแทนลูกยังน้อยไป

จดหมายส่งตัวที่ผมเขียนด้วยความตั้งใจ แต่เราฉีกมันทิ้งถังขยะไปด้วยใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วย รัก
จดหมายรักเปิดอ่านเมื่อไหร่ก็ชื่นใจ

ผมขอใช้พื้นที่นี้เติมเต็ม คำว่าความรัก ให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ล่าสุดเด็กอ้วนคนนี้ วิ่งได้แล้ว เรียกแม่ได้แล้วนะครับ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx