อินโดนีเซีย ยึดเรือบรรทุกยาเสพติดเกือบ 2 ตัน มูลค่า1.5 หมื่นล้านบาท จับชาวไทย-เมียนมา 5 ราย

อินโดนีเซียยึดเรือบรรทุกยาเสพติดเกือบ 2 ตัน มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท จับชาวไทย-เมียนมา 5 ราย
จาการ์ตา, 16 พฤษภาคม – กองทัพเรืออินโดนีเซียแถลงยึดเรือบรรทุกยาเสพติดมูลค่ามหาศาลเกือบ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งบรรทุกยาไอซ์กับโคเคนรวมเกือบ 2 ตันไว้ได้บริเวณน่านน้ำเกาะสุมาตรา พร้อมจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวไทย 1 ราย และชาวเมียนมาอีก 4 ราย
เรือลำดังกล่าวติดธงชาติไทย พยายามหลบหนีโดยปิดไฟ เร่งความเร็วขณะแล่นอยู่ในเขตทะเลของจังหวัดรีเยา (Riau Islands) บริเวณ ตันจุงบาลาย การีมุน เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการสกัดจับและควบคุมเรือไว้ได้สำเร็จ
จากการตรวจค้นภายในเรือ เจ้าหน้าที่พบกระสอบสีเหลือง สีขาวเกือบ 100 ใบ บรรจุยาเสพติดเป็นจำนวนมหาศาล ได้แก่ โคเคน 1.2 ตัน และ เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) อีก 705 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านล้านรูเปียห์ หรือราว 15,000 ล้านบาท
เรือและผู้ต้องหาทั้งหมดถูกนำตัวไปยังฐานทัพเรือที่ตันจุงบาลาย การีมุน ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นทางและปลายทางของเรือ ยกเว้นเพียงสัญชาติของลูกเรือที่ถูกจับกุมเท่านั้น
เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนว่าเรือลำนี้รับยามาจากที่ใด กำลังจะมุ่งหน้าไปที่ใด
ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งใน การยึดยาเสพติดครั้งใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซียซึ่งถือว่ามีกฎหมายต่อต้านยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
รายงานปี 2024 ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่า ในปี 2023 มีการยึดยาไอซ์รวมถึง 190 ตัน ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งส่วนใหญ่ลักลอบผ่านอ่าวไทย โดยอาศัยช่องโหว่ด้านการบังคับใช้กฎหมาย
พื้นที่ “สามเหลี่ยมทองคำ” ที่ประกอบด้วยพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา จรดชายแดนไทยและลาว ถูกระบุว่าเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่ที่กลุ่มอาชญากรในเอเชียใช้เป็นฐานผลิต ก่อนส่งต่อไปยังประเทศอย่างญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์
ทั้งนี้ การยึดยาเสพติดครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นเพียง 2 ปีหลังจากกรณีพบโคเคนหนัก 179 กิโลกรัมในน่านน้ำใกล้ท่าเรือเมรัค บนเกาะชวา เมื่อปี 2022 ซึ่งเคยเป็นการยึดยาโคเคนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินโดนีเซีย ณ ขณะนั้น ตามรายงานของ UN
ติดตาม The Thaiger บน Google News: