หมอสูติฯ ล่วงละเมิดคนไข้หญิง อ้าง ‘ทดสอบการตอบสนองทางเพศ’ ไม่เสร็จกิจไม่รู้ผลตรวจ

หมอสูติฯ โรงพยาบาลดัง ล่วงละเมิดทางเพศ คนไข้หญิง อ้าง “ทดสอบการตอบสนองทางเพศ” ถ้าไม่ถึงจุดสุดยอดอาจมีผลต่อการวินิจฉัย นักการเมืองหญิงจวกยับ “แพทยสภาไม่สนคุณธรรม”
เมื่อวันที่ 13 พฤษถวาคม 2568 สื่อจีน ได้มีการรายงานข่าว ระบุว่า แพทย์ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน อาศัยช่วงเวลาปฏิบัติหน้าที่ในห้องฉุกเฉินก่อเหตุ “ล่วงละเมิดทางเพศคนไข้” เมื่อปี 2021 โดยอ้างว่า เป็นการ “ทดสอบการตอบสนองทางเพศ” ทั้งยังบอกกับคนไข้อีกว่า “ถ้าไปไม่ถึงจุดสุดยอด ผลการตรวจอาจคลาดเคลื่อนได้” สุดท้ายศาลตัดสินจำคุก 3 ปี หมอสูติฯ แถ แค่ใช้นิ้วสอดใส่ ไม่ได้ข่มขืน
ล่าสุดมีกระแสข่าวออกมาว่า หมอสูติฯ รายนี้ ถูกลงโทษทางวินัย และปัจจุบันได้ไปทำงานที่คลินิกสูตินรีเวชแห่งหนึ่งในเมืองเถาหยวน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2021 (พ.ศ. 2564) ซึ่งเป็นช่วงที่ไต้หวันกำลังอยู่ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโควิด-19 ระดับ 3 โดย นายแพทย์แซ่หวง ซึ่งในขณะนั้นเป็นแพทย์ประจำบ้านปีที่ 3 แผนกสูตินรีเวชของโรงพยาบาล NTU และกำลังปฏิบัติหน้าที่ในห้องฉุกเฉิน ได้ทำการล่วงละเมิดผู้ป่วยหญิงรายหนึ่งที่เข้ารับการรักษาด้วยอาการปวดท้องและมีไข้ (วินิจฉัยเบื้องต้นว่าอาจมีภาวะไข่ตกผิดปกติ หรือ luteal rupture)
ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายของวันถัดมาหลังจากเข้ารับการรักษา นายแพทย์หวงได้พาเธอไปยังห้องตรวจสูตินรีเวชตามลำพัง เมื่อเธอเริ่มสอบถามคำถามส่วนตัวเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ เขากลับฉวยโอกาสเสนอทำ “การทดสอบการตอบสนองทางเพศ” โดยอ้างว่า “ผมคิดว่าคุณก็เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเพศสัมพันธ์นะ ผมจะตรวจดูว่าอุ้งเชิงกรานของคุณมีการอักเสบหรือไม่ ถ้าอวัยวะเพศถูกกระตุ้นแล้วยังไม่หดเกร็ง แสดงว่ามีการอักเสบในอุ้งเชิงกราน” จากนั้นได้สั่งให้เธอถอดกางเกงในและขึ้นนอนบนเตียงตรวจ
เธอระบุว่า นายแพทย์หวงได้สวมถุงมือและใช้นิ้วสอดเข้าไปในช่องคลอดของเธอ โดยไม่มีพยาบาลอยู่ด้วยตามระเบียบ และระหว่างนั้นยังพูดจาในลักษณะที่ไม่เหมาะสมว่า “ถ้าใกล้จะถึงจุดสุดยอด ให้บอกผมนะ จะได้ไม่เขิน” และ “รู้สึกตรงไหนบ้าง ให้บอกผม” จนกระทั่งเธอทนไม่ไหวและร้องขอให้หยุด เขาจึงยุติการกระทำ
หมอหวง อ้างต่อว่า ตรวจพบของเหลวผิดปกติ และขอทำการ “ทดสอบการตอบสนองทางเพศ” ซ้ำอีกครั้ง พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “ถ้าไม่ถึงจุดสุดยอด อาจมีผลต่อการวินิจฉัยโรคได้” คนไข้สาวพยายามขัดขืน แต่นายแพทย์หวง พยายามถามเหตุผลที่เธอปฏิเสธ ก่อนจะกล่าวขอโทษและขอร้องไม่ให้เธอนำเรื่องนี้ไปพูดต่อภายนอก ถึงขั้นสั่งอาหารเย็นมาให้เธอเพื่อปิดปาก ภายหลังผู้เสียหายรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้ไม่ชอบมาพากลอย่างยิ่ง จึงได้ขอให้แฟนหนุ่มช่วยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
คำสารภาพและคำแก้ตัวในชั้นศาล
ในชั้นศาล นายแพทย์หวงยอมรับว่าได้ใช้นิ้วสัมผัสและสอดเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายจริง แต่ปฏิเสธข้อหาข่มขืน โดยอ้างว่า ผู้เสียหายเป็นคนบอกเองว่ามักมีอาการปวดท้องเวลามีเพศสัมพันธ์ เขาจึงทำการตรวจภายในเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติทางเพศเท่านั้น
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอ้างถึงภาวะขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะอุทิศตนทำงานในสายสูตินรีเวช และห้องฉุกเฉินก็มักจะไม่มีพยาบาลร่วมตรวจ เมื่อตนช่วยตรวจแต่กลับถูกเข้าใจผิด จึงยอมขอโทษเพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น
ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี – แพทยสภาถูกตั้งคำถาม
อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติกรรมของนายแพทย์หวงนั้นมีความผิดชัดเจน และไม่มีท่าทีสำนึกผิด จึงตัดสินลงโทษ จำคุกเป็นเวลา 3 ปี ในข้อหา “ร่วมประเวณีโดยอาศัยโอกาสจากการเป็นผู้ดูแลรักษา” (ซึ่งในทางกฎหมายไต้หวันอาจหมายถึงการล่วงละเมิดทางเพศผู้ป่วยภายใต้การดูแล) โดยคดีนี้ยังสามารถอุทธรณ์ได้
ส่วนประเด็นเรื่องการเปิดเผยชื่อของนายแพทย์หวงต่อสาธารณะหรือไม่นั้น กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของไต้หวันระบุว่า จะให้สำนักงานสาธารณสุขในท้องถิ่นเป็นผู้ประเมินบทลงโทษทางวินัยก่อน ส่วนการเปิดเผยชื่อนั้น กรมการแพทย์และกรมคุ้มครองสวัสดิภาพจะร่วมกันหารือเพื่อแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
นักการเมืองหญิง จวกยับ “วิชาชีพแพทย์ ไม่สนคุณธรรมหรือ?”
เรื่องอื้อฉาวนี้ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม โดย นางอู๋ ซินไต้ เลขาธิการพรรค Taiwan Statebuilding Party (พรรคไต้หวันก้าวหน้า) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง โดยระบุว่า จากข้อมูลที่ตนทราบ นายแพทย์หวงคนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแพทย์ประจำบ้านของโรงพยาบาล NTU แล้ว แต่ยังคงถือใบอนุญาตเป็นแพทย์สูตินรีเวช และที่สำคัญคือไม่มีท่าทีสำนึกผิดแต่อย่างใด
นางอู๋ ซินไต้ ตั้งคำถามอย่างเผ็ดร้อนว่า “คนแบบนี้ยังได้รับใบอนุญาตเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อีกเหรอ? วิชาชีพแพทย์ตรวจสอบแค่เทคนิคกับความรู้ แต่ไม่ตรวจสอบเรื่องคุณธรรมจริยธรรมเลยหรือ?” เธอยังได้กล่าวด้วยความท้อแท้ใจว่า “แค่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คดีแพทย์สูตินรีเวชลวนลามหรือข่มขืนคนไข้ที่มีคำตัดสินจากศาลออกมาแล้วก็มีตั้งหลายคดี แต่ก็ไม่เห็นว่าสมาคมแพทย์จะออกมาจัดการอะไรเลย หรือมันยากเย็นเกินไปที่จะทำให้ผู้หญิงในไต้หวันมั่นใจได้ว่า เมื่อไปหาหมอแล้วจะไม่ต้องเจอกับอาชญากร?”
กรณีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญที่สะท้อนถึงปัญหาจริยธรรมในวิชาชีพ และความปลอดภัยของผู้ป่วย ซึ่งสังคมกำลังจับตามองการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มุกใหม่มิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นหมอสูติ ทักไลน์หาแม่ ขอดูภาพแผลหลังคลอด
- เน็ตไอดอลไต้หวัน เล่าปมทำปัจจุบันไม่กล้าเจอหมอสูติฯ ชาย
- หมอสูติ เตือนผู้ชายใช้ “ขอบตาแพะ” ทำแฟนสาวเสี่ยง ‘มดลูกอักเสบ-ติดเชื้อ’
อ้างอิงจาก : ctwant
ติดตาม The Thaiger บน Google News: