ไร้ความเป็นมนุษย์! ไอเตี้ย เล่าวินาทีก่อเหตุเหี้ยม หาเงินใช้หนี้ ลงมือสังหารโหด แม้ยายร้องของชีวิต เผยจะไม่ไปขอขมาศพ
จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญ คุณยายหนูนิล อายุ 89 ปี หาตัวไปกว่า 4 วัน หลังนั่งซ้อนท้ายวินออกไปกดเงิน โดยมีทรัพย์สินติดตัวไปเป็นเงินสดประมาณ 1 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท พร้อมพระเครื่อง แหวนทองคำน้ำหนัก 2 สลึงรวมมูลค่าประมาณ 250,000 บาท ก่อนถูกฆ่ารัดคอ ยัดกระสอบ โยนทิ้งป่าละเมาะ ซึ่งก่อนเสียชีวิตพบว่านั่งรถจักรยานยนต์ไปกับวินมอเตอร์ไซค์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจะจับกุมนายเจริญ หรือ ไอ้เตี้ย นั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.กิตติชัย ไกนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ร่วมตั้งโต๊ะแถลงข่าว หลังการสอบปากคำ โดยนายเจริญกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่มีเงิน ไม่ได้คิดก่อเหตุหรือวางแผนมาก่อน แต่มีความคิดชั่วขณะ ปกติยายใส่สร้อยคอทองคำประจำอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่มีเงินทำให้เกิดความคิดจะหาเงินไปจ่ายหนี้สิน 10,000 บาท ที่หยิบยืมมาจ่ายค่ารถและเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ มันจนปัญญาจริงๆ ที่หาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ก่อนเกิดเหตุรับยายจากคิวแล้วขับไปยังที่เกิดเหตุ บอกยายว่าจะไปธุระก่อน ยายก็ไปแต่โดยดี พอไปถึงที่เกิดเหตุยายถามว่าพามาในป่าทำไม แต่ตนไม่ได้พูดอะไร และผลักยายให้ล้ม ยายร้องขอชีวิตพูดว่า อย่าทำ อย่าทำ
จากนั้นตนจึงเอาเชือกรัดคอจนสิ้นใจ ก่อนจะเอากระสอบปุ๋ยที่อยู่แถวที่เกิดเหตุมาจับร่างของยายใส่ไว้แล้วผูกเชือก ก่อนลากลงไปในทุ่งนา ถ้าถามว่าสงสารเขาไหม ตนไม่รู้จะพูดอย่างไรเพราะทำไปแล้ว
หลังก่อเหตุยังอยู่บ้าน 2-3 วัน เมื่อรู้ว่าทั้งญาติและตำรวจออกตามหายายจึงขับรถจักรยานยนต์ไปเกาะสมุย ไปเช่าบ้านที่เคยเช่าอยู่มาก่อน ยอมรับว่าผิดไปแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
นายเจริญ กล่าวต่อว่า ไม่รู้ว่าลูกของตนจะรู้สึกอย่างไร เพราะตนไม่ได้บอกลูก แต่ลูกน่าจะรับรู้แล้วเพราะเป็นเหตุการณ์ใหญ่
เมื่อสอบถามว่าอยากไปขอขมาศพหรือไม่ นายเจริญ บอกว่า ไม่ และไม่ขอทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยในชั้นสอบสวนจะไม่ให้ประกันตัว หลังจากนั้นจะนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฟัง “ไอ้เตี้ย” สารภาพสิ้นฆ่ายายวัย 89 ยอมรับรู้จักกัน กลัวยายไปแจ้งความ
- เปิดภาพนาทีจับกุม “ไอเตี้ย” มือเหี้ยมฆ่ายายวัย 89 เจ้าตัวสารภาพสิ้น
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
