ข่าวการเมือง

พอล ยื่นอุทธรณ์สู้ ม.นเรศวร หลังถูกปลดฟ้าผ่า ทั้งที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ม.112

นักวิชาการอเมริกัน พอล แชมเบอร์ส สู้กลับ หลัง ม.นเรศวร สั่งปลดฟ้าผ่าวันเดียวกับถูกถอนวีซ่า ทั้งที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ม.112 แล้ว

ความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2568 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ดร.พอล แชมเบอร์ส อาจารย์ประจำสถานประชาคมอาเซียนศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ตัดสินใจยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งยกเลิกการจ้างงานของมหาวิทยาลัยฯ อย่างเป็นทางการ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา กรณีมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ทำการเลิกจ้างนักวิชาการต่างชาติ

ในหนังสืออุทธรณ์ ดร.พอล แชมเบอร์ส ได้โต้แย้งความชอบธรรมของคำสั่งเลิกจ้างดังกล่าวอย่างหนักแน่น โดยชี้ประเด็นสำคัญว่า คำสั่งเลิกจ้างที่ออกโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ซึ่งปฏิบัติราชการแทนอธิการบดีนั้น เป็นคำสั่งที่ไม่มีอำนาจ หรือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่เกินขอบเขต

นอกเหนือจากนี้ ยังระบุว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้เปิดโอกาสให้ ดร.พอล ได้โต้แย้งหรือชี้แจงข้อเท็จจริงใด ๆ ก่อนมีการตัดสินใจ นักวิชาการชาวอเมริกันรายนี้จึงขอให้มหาวิทยาลัยนเรศวรดำเนินการเพิกถอนคำสั่งเลิกจ้าง และแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีนี้โดยละเอียด

เหตุผลในอุทธรณ์โต้แย้ง ชี้คำสั่งเกินอำนาจ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

เหตุผลในอุทธรณ์โต้แย้ง ชี้คำสั่งเกินอำนาจ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เขียนรายละเอียด สาเหตุที่ พอล ยื่นอุทธรณ์คำสั่งเลิกจ้าง ม.นเรศวร โดยโต้แย้งผู้ออกคำสั่งไม่มีอำนาจ – ไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้งตามกระบวนการ

1. คำสั่งเลิกจ้าง เป็นคำสั่งที่ไม่มีอำนาจ หรือนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของรองอธิการบดี

รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้ลงนามในคำสั่งเลิกจ้าง ดร.พอล ทั้งสองฉบับที่ออกเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 และ 24 เม.ย. 2568 แต่การออกคำสั่งดังกล่าวอาจถือว่า เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ เนื่องจากตามคำสั่งมหาวิทยาลัยที่ระบุการมอบอำนาจให้รองอธิการบดีปฏิบัติราชการแทนอธิการบดี ไม่ได้ระบุถึงอำนาจในการ “เลิกจ้าง” บุคลากร ไว้

ดังนั้น รองอธิการบดี ไม่มีอำนาจตามคำสั่งมอบหมายให้เลิกจ้างอาจารย์ได้โดยลำพัง จึงอาจทำให้คำสั่งเลิกจ้างทั้งสองฉบับนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เหตุผลที่ 1 คำสั่งเลิกจ้างเป็นคำสั่งที่ไม่มีอำนาจ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

2. คำสั่งยกเลิกการจ้างฯ ที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย และเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แม้ว่าปัจจุบัน ดร.พอล จะถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2568 และอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนการอนุญาต ฯ เนื่องด้วยถูกกล่าวหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

อย่างไรก็ตาม ดร.พอล เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความลงในเว็บไซต์ของประเทศสิงคโปร์ ISEAS – Yusof Ishak Institute ซึ่งให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าไม่ใช่ผู้เขียน ไม่ใช่ผู้โพสต์ข้อความเผยแพร่เนื้อหาในเว็บไซต์ดังกล่าว จึงไม่ใช่ผู้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา

นอกจากนี้ วันที่ 1 พ.ค. 2568 อธิบดีอัยการภาค 6 มีคำสั่งไม่ฟ้อง และอยู่ในระหว่างการส่งสำนวนความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อพิจารณาว่าจะมีคำสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1 ต่อไป จึงทำให้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการโต้แย้งสิทธิเรื่องการเพิกถอนคำสั่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร

เมื่อหน่วยงานของรัฐจะออกคำสั่งที่มีผลกระทบต่อสิทธิของบุคคล อย่างการเลิกจ้าง ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 30 กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ทราบข้อเท็จจริง ได้ชี้แจง และแสดงหลักฐานของตนก่อน คำสั่งนั้นจึงจะถือว่าชอบด้วยกฎหมาย แต่รองอธิการบดีไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และไม่ให้ ดร.พอล ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือแสดงหลักฐานใด ๆ ก่อนจะมีคำสั่งเลิกจ้างออกมา

นอกจากนี้ ข้อบังคับของมหาวิทยาลัยนเรศวรเองก็ระบุไว้ว่า พนักงานมหาวิทยาลัยจะถูกเลิกจ้างได้ต้องมีเหตุชัดเจน เช่น ขาดคุณสมบัติ หรือกระทำผิดวินัย ซึ่งในกรณีของ ดร.พอล ไม่มีหลักฐานว่าเข้าข่ายลักษณะต้องห้าม หรือเคยกระทำผิดวินัยใด ๆ อีกทั้งผู้ลงนามในคำสั่งเลิกจ้างก็มีเพียงอำนาจในการบริหารทั่วไปและตั้งคณะกรรมการสอบสวนเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจเลิกจ้างโดยตรง

การออกคำสั่งดังกล่าวทำให้ ดร.พอล ขาดโอกาสในการชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนอพยานหลักฐาน และกระบวนการโต้แย้งสิทธิทางกฎหมาย ดังนั้นคำสั่งยกเลิกการจ้างจึงเป็นคำสั่งที่เกินสมควรแก่เหตุ ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จึงเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย

เหตุผลที่ 2 คำสั่งเลิกจ้างเป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้องด้วยกฎหมาย
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

3. คำสั่งยกเลิกการจ้างฯ เหตุถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ไม่ได้เป็นเหตุสิ้นสุดสัญญา

ตามสัญญาจ้างที่ ดร.พอล ทำกับมหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 ได้ระบุชัดเจนว่าการสิ้นสุดแห่งสัญญาจะเกิดขึ้นในกรณีใดบ้าง ได้แก่ 1. เมื่อครบอายุสัญญา 2. ผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษถึงแก่กรรม 3. คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบอกเลิกสัญญาโดยแจ้งให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 เดือน ในกรณีที่ผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษไม่ผ่านผลการประเมินการปฏิบัติงานประจำปี ให้มหาวิทยาลัยนเรศวรบอกเลิกสัญญาได้ทันที

ดังนั้นคำสั่งการยกเลิกการจ้างฯ ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว จึงไม่เข้าข่ายเหตุแห่งการสิ้นสุดสัญญาตามที่ได้ระบุไว้ข้างต้น ประกอบกับผู้มีอำนาจลงนามคำสั่งดังกล่าว มิได้เปิดโอกาสให้ ดร.พอล ได้นำเสนอพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงแต่อย่างใดเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาท ดังนั้น คำสั่งการยกเลิกการจ้างฯ จึงไม่ถือว่าเป็นเหตุให้สามารถยกเลิกการจ้างงาน และสิ้นสุดตามสัญญาที่ได้ทำกับมหาวิทยาลัยนเรศวรได้

ด้วยพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้น คำสั่งของรองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ปฏิบัติราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้งสองฉบับ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้พิจารณามีคำสั่งเพิกถอน และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงชะลอการพิจารณาเกี่ยวกับการจ้างงานจนกว่ากระบวนการโต้แย้งสิทธิทางกฎหมายจะเสร็จสิ้น

เหตุผลที่ 3 ไม่ได้เป็นเหตุสิ้นสุดสัญญา
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ย้อนรอยคดี ม.112 ดร.พอล แชมเบอร์ส

มหากาพย์เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นที่ซับซ้อน ย้อนกลับไปเมื่อ ดร.พอล แชมเบอร์ส ถูกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 (กอ.รมน.ภาค 3) แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จนกระทั่งศาลจังหวัดพิษณุโลกได้อนุมัติหมายจับในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม ในชั้นพิจารณาของอัยการ อธิบดีอัยการภาค 6 ได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ดร.พอล ในทุกข้อกล่าวหา

เรื่องราวกลับพลิกผัน เมื่อคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แจ้งต่อ ดร.พอล แชมเบอร์ส ถึงคำสั่งยกเลิกการจ้างงาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับวันที่ ดร.พอล ได้รับแจ้งคำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยพอดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx