การเงินเศรษฐกิจ

ปธ.สภาลูกจ้างฯ ยันใช้งบประกันสังคม 4.9 ล้าน ผลิตเสื้อ-หมวกแจก คุ้มค่า

พนัส ไทยล้วน ยืนยันใช้งบประกันสังคม 4.9 ล้าน ผลิตเสื้อ-หมวก แจกวันแรงงานแห่งชาติคุ้มค่า ลั่นเสียดายทำไม หนึ่งปีมีครั้งเดียว

วานนี้ (29 เม.ย.) นายพนัส ไทยล้วน ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานจัดงานวันแรงงานแห่งชาติประจำปี 2568 กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่าใช้งบประมาณจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) 4.9 ล้านบาทในการผลิตผลิตเสื้อและหมวกแจกคนมาร่วมงานในวันที่ 1 พ.ค. ว่า “จะเสียดายไปทำไม” ในเมื่อนำมาจัดงานแค่ปีละหนึ่งครั้ง

อีกทั้งเงินจากประกันสังคมก็มาจากผู้ประกันตนส่งเข้ากองทุนทุกเดือน โดยเสื้อและหมวกก็นำมาแจกคนงานที่มาร่วมงาน ซึ่งเป็นผู้ประกันตนอยู่แล้ว ไม่ได้นำไปขายที่ไหน เสื้อและหมวกปีนี้ขอไปอย่างละ 20,000 ชุด แต่ได้มาแค่ 10,000 ชุด ส่วนเงินสนับสนุนการจัดงานก็ได้เพียง 300,000 บาท

อย่างไรก็ดี ในวันที่ 1 พ.ค. สภาองค์การลูกจ้าง 20 สภา สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจและแรงงานนอกระบบ จะตั้งริ้วขบวนเคลื่อนจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินไปยังเวทีจัดกิจกรรมที่ลานคนเมือง โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี-รมว.มหาดไทย เป็นตัวแทนนายกฯ รับข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ 9 ข้อ

ภาพจาก พนัส ไทยล้วน

9 ข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ 2568

1. ให้รัฐบาลเร่งรัดการรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว ค.ศ.1948 และฉบับที่ 98 ว่าด้วยเรื่องสิทธิในการรวมตัวและการร่วมเจรจาต่อรอง ค.ศ.1949 ข้อ

2. ให้รัฐบาลตราพ.ร.บ. หรือประกาศเป็นกฎกระทรวงให้มีการจัดตั้งกองทุนประกันความเสี่ยง เพื่อเป็นหลักประกันในการทำงานของลูกจ้าง

3. ให้รัฐบาลยกเว้นการจัดเก็บภาษีเงินได้จากเงินก้อนสุดท้ายที่นายจ้างจ่ายให้กับลูกจ้าง เมื่อพ้นสภาพการเป็นลูกจ้างในทุกกรณี ทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจในวงเงิน 1 ล้านบาท

4. ให้พนักงานรัฐวิสาหกิจสามารถอยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นระบบเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข และมีลักษณะการจ่ายเงินร่วม (co-payment) เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองทางสังคมของประเทศไทยอย่างเป็นธรรม

5. ให้รัฐบาลปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันสังคม ดังนี้ ปรับฐานการรับเงินบำนาญ ให้มีรายรับไม่น้อยกว่า 5,000 บาท กรณีที่ผู้ประกันตนเกษียณอายุ และรับเงินบำนาญแล้ว เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้มีสิทธิรับเงินบำนาญต่อไป, กรณีผู้ประกันตนพ้นสภาพจากมาตรา 33 และสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 การคิดคำนวณเงินบำนาญขอให้ใช้ฐานค่าจ้างจากมาตรา 33 และ เมื่อผู้ประกันตนรับบำนาญแล้ว ให้คงสิทธิรักษาพยาบาลตลอดชีวิต

กรณีผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงและเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็งทุกชนิด ให้ครอบคลุมถึงการใช้ยารักษาพยาบาลตามที่แพทย์แนะนำ และขยายอายุผู้เริ่มเข้าเป็นผู้ประกันตนจากเดิม 15-60 ปี เป็น 15-70 ปี เพื่อให้เข้ากับสังคมผู้สูงอายุ

6. ให้รัฐบาลโดยกระทรวงแรงงาน ดำเนินการให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างเหมาค่าแรง ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ม.11/1 อย่างเคร่งครัด

7. ให้รัฐบาลยกระดับกองความปลอดภัยแรงงาน เป็น กรมความปลอดภัยแรงงาน

8. ให้รมว.แรงงาน ดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงฉบับที่ 7 ลงวันที่ 22 ส.ค.พ.ศ.2541 กฎกระทรวงฉบับที่ 8 ลงวันที่ 14 ก.ย. พ.ศ. 2541 และกฎกระทรวงฉบับที่ 13 ลงวันที่ 27 ม.ค. พ.ศ.2543 ซึ่งทั้ง 3 ฉบับออกตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มีข้อความตัดสิทธิลูกจ้างรายเดือนที่ทำงานล่วงเวลาไม่ให้ได้รับค่าล่วงเวลา 1.5 เท่า เช่นเดียวกับพนักงานรายวัน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้รับทราบ และรับว่าจะดำเนินแก้ไขมาก่อนแล้ว

9. ให้ รมว.แรงงาน แต่งตั้งคณะทำงานติดตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2568

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 votes
Article Rating
Notify of
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

yo

นักเขียนข่าว บทความทั่วไปประเภทไลฟ์สไตล์ สำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา มศก. ติดต่อได้ที่อีเมล yo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x