ไข้กลับ นายก แพทองธาร หน้าซีด ฝืนถกปัญหายาเสพติด ต้องยกเลิกคิวกะทันหัน

นายกรัฐมนตรี อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร มีอาการอ่อนเพลีย เสียงเนือยขณะประชุมแก้ปัญหายาเสพติด ต้องยกเลิกคิวดูของกลางยาบ้า แจ้งสื่อ ไข้กลับแต่ยังไหว
บรรยากาศการประชุมแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 เมษายน 2568 ดูเหมือนจะมีเรื่องให้เจ้าหน้าที่และผู้ร่วมประชุมต้องจับตามอง เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานการประชุม แสดงท่าทีอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด
สื่อมวลชน รายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุม น.ส.แพทองธาร มีอาการอ่อนแรงลง ทีมงานต้องประสานหายามาให้รับประทาน รวมถึงเตรียมเครื่องดื่มเกลือแร่ไว้ให้จิบ และมีการใช้ยาดมเป็นระยะ ๆ ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตกโปรยปรายตลอดบ่าย
ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีหญิงกล่าวถ้อยแถลงและมอบนโยบายแก่ที่ประชุมนั้น ผู้ร่วมสังเกตการณ์พบว่าน้ำเสียงของ น.ส.แพทองธาร ดูเนือยลงกว่าปกติ คาดว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจากอาการป่วยไข้สูงที่เพิ่งทุเลาลงไปไม่นาน ประกอบกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดอาการไข้กลับกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ทีมงานของนายกรัฐมนตรีตัดสินใจประสานงานด่วน เรียกทีมแพทย์และพยาบาลซึ่งประจำอยู่กับรถพยาบาลฉุกเฉิน ให้เข้ามาตรวจดูอาการของ น.ส.แพทองธาร ทันทีหลังเสร็จสิ้นการประชุม มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและวัดความดันโลหิตอย่างเร่งด่วน
ผลจากการประเมินอาการ ทำให้กำหนดการเดิมที่ น.ส.แพทองธาร จะเดินทางไปดูของกลางยาบ้า จำนวน 5,566,000 เม็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่เพิ่งจับกุมมาได้ ต้องถูกยกเลิกไปอย่างกะทันหัน
ภายหลังการตรวจร่างกาย น.ส.แพทองธาร ได้แจ้งต่อผู้สื่อข่าวที่รอทำข่าวด้วยตนเองสั้น ๆ ว่า ไข้กลับ ตอนนี้อาการดีขึ้น ยังไหวอยู่ เป็นการยืนยันว่าแม้จะมีอาการป่วยกำเริบ แต่ยังคงสามารถปฏิบัติภารกิจต่อไปได้
ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา ภาพของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ได้ถูกเผยแพร่ผ่านไอจีสตอรี่โดย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี พร้อมข้อความว่า “ใครเตือนไม่ฟัง ร่างกายเตือนแล้วไม่ไหว”
สาเหตุของการแอดมิตครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่ น.ส.แพทองธาร มีอาการไข้ขึ้นสูง หลังเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ แพทย์จึงแนะนำให้พักรักษาตัวเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด ส่งผลให้กำหนดการและภารกิจต่าง ๆ ของนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล ในวันนี้ (28 เม.ย. 68) ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน
ไข้กลับ อันตรายไหม?
ไข้กลับซ้ำ (Relapsing Fever) เป็นภาวะที่ร่างกายมีไข้สูงเป็นระยะ ๆ โดยไข้จะเกิดขึ้นและหายไปเป็นรอบ ๆ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งการติดเชื้อและความผิดปกติทางพันธุกรรม
สาเหตุของไข้กลับซ้ำ
1. การติดเชื้อแบคทีเรียสกุลบอร์เรเลีย (Borrelia)
- เกิดจากการถูกเห็บนิ่มหรือเหาลำตัวกัด ซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
- อาการจะเริ่มด้วยไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย ไข้จะเป็นอยู่ประมาณ 3-5 วัน แล้วหายไป 1-2 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาเป็นใหม่
2. ความผิดปกติทางพันธุกรรม
- เช่น โรค TRAPS (Tumor Necrosis Factor Receptor-Associated Periodic Syndrome) ซึ่งเป็นโรคไข้กลับซ้ำที่เกิดจากความบกพร่องของพันธุกรรม ทำให้เกิดการอักเสบในหลายระบบของร่างกาย
- อาการรวมถึงไข้สูงเป็น ๆ หาย ๆ ต่อเนื่องกันประมาณ 2-3 สัปดาห์ ร่วมกับอาการทางระบบทางเดินอาหาร
3. กลุ่มอาการ PFAPA
- พบในเด็กเล็ก โดยมีอาการไข้สูงเป็นๆ หายๆ ร่วมกับเจ็บคอ แผลในปาก และต่อมน้ำเหลืองโต
- เป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบซึ่งไม่ได้มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ
การวินิจฉัยและการรักษา
การวินิจฉัยขึ้นอยู่กับประวัติอาการ การตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อแบคทีเรีย หรือการตรวจทางพันธุกรรมในกรณีที่สงสัยโรคทางพันธุกรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกอิ๊งค์ พร้อมลุยเต็มที่ ครม.สัญจร จ.นครพนม แม้เพิ่งหายป่วย
- เปิดภาพ “นายกอิ๊งค์” นอนโรงพยาบาล สามีเตือนแล้ว ไม่ฟัง ร่างพัง
- “นายกอิ๊งค์” ป่วยเข้าแอดมิทโรงพยาบาล หลังเสร็จภารกิจเยือนกัมพูชา
ติดตาม Thaiger The บน Google News: