รวบตัวหญิงบราซิล วางยาพิษแฟนใหม่ของแฟนเก่าและลูกในไข่อีสเตอร์ เด็กดับ 2 ศพ

มีการจับกุมหญิงบราซิลรายหนึ่ง ฐานพยายามฆ่าแฟนใหม่ของแฟนเก่า รวมถึงลูกๆ ของพวกเขา ด้วยการวางยาพิษในไข่อีสเตอร์
สิ่งที่ควรจะเป็นการเฉลิมฉลองของครอบครัวอย่างมีความสุข กลับกลายเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าสะพรึงกลัวสำหรับหญิงสาวชาวบราซิลคนหนึ่งที่สูญเสียลูกทั้งสองคนไปจากไข่ช็อกโกแลตมีพิษ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าส่งมาจากแฟนเก่าที่ถูกทอดทิ้งของคู่ครองของเธอ
เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา พนักงานส่งของได้นำพัสดุที่ไม่ระบุชื่อมาส่งที่บ้านของ มิเรียม ลีรา ในอิมเปียทริซ ทางตอนเหนือของบราซิล โดยพัสดุดังกล่าวมีไข่ช็อกโกแลตและโน้ตที่เขียนว่า “ด้วยรัก ถึง มิเรียม ลีรา สุขสันต์วันอีสเตอร์” ด้วยความเข้าใจว่าเป็นเพียงของขวัญที่น่ารักจากเพื่อนหรือญาติ มิเรียมจึงแบ่งขนมช็อกโกแลตให้ลูกๆ ของเธอ คือ หลุยส์ เฟอร์นันโด วัย 7 ขวบ และเอเวอลิน เฟอร์นันดา วัย 13 ปี
แต่กลายเป็นว่าไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง ลูกชายของเธอเริ่มรู้สึกไม่สบาย และก่อนวันนั้นจะสิ้นสุดลง ทั้งสามคนก็อยู่ในห้องฉุกเฉิน และกำลังต่อสู่เพื่อเอาชีวิตรอดอย่างสุดกำลัง
แม้ว่าแพทย์จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ หลุยส์ เฟอร์นันโด ก็เสียชีวิตจากภาวะอวัยวะล้มเหลวหลายระบบเมื่อวันที่ 17 เมษายน และน้องสาวของเขาก็เสียชีวิตอย่างน่าเศร้าในอีก 5 วันต่อมา เนื่องจากภาวะช็อกจากการไหลเวียนโลหิตผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับภาวะอวัยวะล้มเหลวหลายระบบ
มิเรียม ที่ต้องนอนโคม่าอยู่หลายวัน บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอไม่รู้ว่าจะเอาชนะการสูญเสียลูกทั้งสองคนได้อย่างไร แต่เธอหวังว่าความปรารถนาที่จะเห็นความยุติธรรมจะช่วยให้เธอดำเนินต่อไปได้
ทางด้านตำรวจบราซิลได้จับกุมผู้ต้องสงสัยสำหรับการวางยาพิษในครั้งนี้ เป็หญิงที่ชื่อว่า จอร์เดเลีย เปเรย์ร่า บาร์โบซา ที่เดินทางด้วยรถไฟมาหลายร้อยไมล์พร้อมด้วยแผนการสุดชั่วร้ายที่จะฆ่า มิเรียม ที่ถูกกล่าวหาว่าไปแย่งแฟนเก่าของเธอไป ซึ่งทางตำรวจมีหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด ที่มีภาพของบาร์โบซาที่ซื้อไข่อีสเตอร์จากร้านสะดวกซื้อ
นักสืบคดีฆาตกรรม อลานา ลิมา ได้กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า “ในระหว่างการสืบสวน โดยเฉพาะหลังจากได้ภาพวงจรปิดได้ เราได้ทราบเส้นทางที่ผู้ต้องสงสัยใช้ตั้งแต่มาถึงเมือง จนไปถึงตอนที่เธอซื้อไข่อีสเตอร์”
“ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมีบันทึกเวลาที่เธออยู่ที่โรงแรมและตั๋วที่เรายึดมาจากเธอได้ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการสืบสวน”
ตำรวจได้จับกุม บาร์โบซา ขณะลงจากรถบัสในเมือง ซานตา อิเนส ห่างจากเมืองอิมเพทริซ ประมาณ 240 ไมล์ พร้อมหลักฐาน วิกผม 2 ชิ้น รวมไปถึงเศษช็อกโกแลตในกระเป๋าเก็บความร้อน และตั๋วรถบัสจากเมืองอิมเพทริซ ก่อนที่จะพบหลักฐานว่าเธอได้เดินทางไปเมืองที่เหยื่อพักอาศัย จากภาพกล้องวงจรปิด ที่เธอปลอมตัวเป็นสาวข้ามเพศที่กำลังจองห้องพักในโรงแรมและซื้อไข่ช็อกโกแลตจากร้านค้าในเวลาต่อมา
บาร์โบซา รับสารภาพว่าเธอซื้อไข่อีสเตอร์ แต่ปฏิเสธไม่ได้วางยาพิษที่จะทำร้ายมิเรียม และครอบครัว แม้ว่าการสืบสวนจะยังดำเนินต่อไป แต่จากแหล่งข่าวของตำรวจระบุว่า หลักฐานที่รวบรวมได้นั้นชี้ไปที่เธอ ที่มีแรงจูงใจที่จะก่ออาชญากรรมร้ายแรงด้วยความหึงหวงและอยากแก้แค้น ซึ่งเธอโทษว่า มิเรียม ขโมยสามีของเธอไป และมีรายงานว่าอดีตแฟนของ มิเรียม เคยคบหากับ บาร์โบซา ประมาณ 3 เดือน
ขณะที่ มิเรียม ได้บอกว่า เมื่อไม่นานมานี้ เธอได้รับสายโทรศัพท์ลึงลับที่ถามว่าเธอได้รับของขวัญหรือยัง แต่เธอไม่คาดคิดว่าคนร้ายต้องการทำจะทำร้ายเธอและลูกๆ
“ตอนที่พัสดุมาถึง พวกเขาก็โทรมาหาฉัน พวกเขาถามว่าฉันได้รับมันรึยัง ฉันบอกไแค่ว่าได้รับแล้ว และไม่ได้พยายามสืบหาว่ามันมาจากไหน ฉันไม่คิดเลยว่าจะถูกวางยาพิษ”
ตัวอย่างไข่อีสเตอร์ที่เป็นหลักฐานสำคัญ ถูกส่งไปวิเคราะห์ที่สถาบันอาชญาวิทยา และได้กำหนดเส้นทางของผมการตรวจในอีก 10 วัน นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้รับการขอให้เก็บตัวอย่างเลือดจากเหยื่อและของที่พบจากผู้ต้องสงสัยนอกเหนือไปจากรายงานชันสูตรพลิกศพของลูกคนโต ที่อาจพิสูจน์ได้ว่าไข่อีสเตอร์มียาพิษอยู่
อ้างอิง : www.odditycentral.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เผยรายละเอียดคนร้าย ขับรถพุ่งชนคนในแคนาดา ตาย 11 ศพ ชีวิตเศร้า
- 56 ปีที่รอคอย ทหารผ่านศึกมะกัน บินข้ามโลก คืนสมุดบันทึก ทหารเวียดกง
- ประมูลเดือด 13.38 ล้าน จดหมายเขียนบน ไททานิค ชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ ก่อนอับปาง
ติดตาม Thaiger The บน Google News: