ท่าเรือใหญ่สุด บันดาร์อับบาส อิหร่าน ยอดตายพุ่ง 25 ศพ บาดเจ็บหนัก เกือบพัน พื้นที่เกิดเหตุกลายเป็นซาก คาดสารเคมีต้นตอ เจ้าหน้าที่เร่งดับไฟ-สอบสวนหาต้นตอ
เผยความคืบหน้าล่าสุด หลังจากเกิดเหตุระเบิดท่าเรือบันดาร์อับบาสอิหร่าน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่าานมา สื่อของรัฐบาลอิหร่านรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรุนแรงที่ ท่าเรือบันดาร์อับบาส ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 25 รายแล้ว ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 700 คน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงพยายามควบคุมเพลิงให้สงบโดยสมบูรณ์
เหตุระเบิดเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากสารเคมี เกิดขึ้นในส่วนท่าเรือชาฮิด ราจาอี (Shahid Rajaee) ซึ่งเป็นศูนย์กลางตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน
รายงานของสื่อรัฐบาล ระบุว่า แรงระเบิดทำให้หน้าต่างอาคารในรัศมีหลายกิโลเมตรโดยรอบเมืองบันดาร์อับบาส ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) อันเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ แตกกระจาย เศษโลหะจากตู้คอนเทนเนอร์ฉีกขาดกระเด็น และสินค้าที่เก็บอยู่ภายในได้รับความเสียหายอย่างหนัก
องค์กรบริหารจัดการภาวะวิกฤตของอิหร่านเปิดเผยว่า จากจำนวนผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาทั้งหมด 752 ราย ยังคงมีผู้ป่วย 190 รายที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาในสถานพยาบาล
นายเอสกันดาร์ โมเมนี (Eskandar Momeni) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว 80% เมื่อถึงเช้าวันอาทิตย์ และคาดว่าปฏิบัติการดับเพลิงจะดำเนินต่อไปอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง
การปฏิบัติงานบางส่วนได้เริ่มกลับมาดำเนินการแล้วในพื้นที่ของท่าเรือชาฮิด ราจาอี ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้หรือความเสียหาย
สาเหตุยังไม่ชัดเจน เตือนอย่าเพิ่งคาดเดา
แม้จะคาดการณ์ว่าสารเคมีน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สาเหตุที่แท้จริงของการระเบิดยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด และประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเกียน (Masoud Pezeshkian) ได้สั่งการให้มีการสอบสวนแล้ว
โฆษกขององค์กรบริหารจัดการภาวะวิกฤตของประเทศ ดูเหมือนจะกล่าวโทษเหตุระเบิดเมื่อวันเสาร์ว่าเป็นผลมาจากการจัดเก็บสารเคมีในตู้คอนเทนเนอร์อย่างไม่เหมาะสมที่ท่าเรือชาฮิด ราจาอี พร้อมเสริมว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการแจ้งเตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม นางฟาเตเมห์ โมฮาเจอรานี (Fatemeh Mohajerani) โฆษกรัฐบาล ได้ออกมาเตือนไม่ให้มีการ “คาดเดาที่ยังเร็วเกินไป” โดยกล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปสาเหตุ
ไม่เกี่ยวเจรจานิวเคลียร์ ย้อนรอยเหตุร้ายในอดีต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่อิหร่านเริ่มการเจรจานิวเคลียร์รอบที่สามกับสหรัฐอเมริกาในประเทศโอมาน แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ใดๆ ว่าเหตุการณ์ทั้งสองมีความเชื่อมโยงกัน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงหลายครั้งที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและอุตสาหกรรมของอิหร่าน ซึ่งหลายครั้งถูกระบุว่าเกิดจากความประมาทเลินเล่อ
เหตุการณ์เหล่านั้นรวมถึง เหตุไฟไหม้โรงกลั่นน้ำมัน, เหตุระเบิดของก๊าซในเหมืองถ่านหิน และอุบัติเหตุระหว่างการซ่อมแซมฉุกเฉินที่ท่าเรือบันดาร์อับบาสซึ่งทำให้คนงานเสียชีวิต 1 รายในปี 2566
นอกจากนี้ อิหร่านยังเคยกล่าวโทษเหตุการณ์อื่น ๆ ว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ศัตรูตัวฉกาจ ซึ่งได้ปฏิบัติการโจมตีบนแผ่นดินอิหร่านโดยมุ่งเป้าไปที่โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเมื่อปีที่แล้วได้ทิ้งระเบิดใส่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ท่าเรืออิหร่าน ระเบิดปริศนา ดับ 14 เจ็บ 750 ท่ามกลางถกนิวเคลียร์สหรัฐฯ
- จีนพัฒนา “ระเบิดไฮโดรเจน” สร้างลูกไฟร้อน 1000 องศา ทำลายล้างนานกว่า TNT 15 เท่า
- เมียนมา หยามไทย ทิ้งระเบิดใกล้เมืองกาญจน์ ชาวบ้านหนีตายข้ามแดนพึ่งใบบุญ
ข่าวล่าสุด
