เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เกาะพีพี ตามเช็คบิลถึงตัว หลังเพจดังแฉภาพฝรั่งปาร์ตี้เบียร์เย้ยกฎ คนขับเรือยอมรับผิด โดนปรับ 1 หมื่นบาท บริษัทเช่าเรือเจอหนังสือเตือน คอมเมนต์ใต้ข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ เทียบกรณี “ทราย” ตั้งคำถามถึงการทำงานเจ้าหน้าที่
กระแสดราม่าการอนุรักษ์ธรรมชาติทะเลไทยยังไม่หมด กรณีภาพหลุดนักท่องเที่ยวต่างชาติเปิดปาร์ตี้เบียร์เย้ยกฎกลางอ่าวปิเละ เกาะพีพีเล จะยังไม่จบลงง่ายๆ แม้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จะทำงานรวดเร็ว ตามตัวคนเรือผู้จัดหาเบียร์มาบริการนักท่องเที่ยวกรุ๊ปเหมาลำเจอ พร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 10,000 บาท ฐานละเมิดกฎหมายอุทยานฯ และส่งหนังสือเตือนบริษัทเช่าเรือไปแล้วก็ตาม
แต่ไฟดราม่ากลับถูกจุดขึ้นอีกระลอก คราวนี้ไม่ใช่แค่เรื่องพฤติกรรมนักท่องเที่ยวหรือการลงโทษคนเรือ แต่ลุกลามไปถึงการตั้งคำถามถึงมาตรฐานการทำงานของเจ้าหน้าที่ และย้อนเกล็ดไปถึงประเด็นร้อนในอดีตที่เกี่ยวข้องกับ ทราย สก๊อต อดีตที่ปรึกษาอธิบดีอุทยานฯ ที่เคยเจอกระแสดราม่าทำเกินกว่าเหตุ หลังไล่นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับบ้าน หลังโดนทักว่า “หนีห่าว” ซึ่งทรายพิจารณาว่าเป็นคำพูดเหยียดหยามคนไทย
ชนวนดราม่ารอบใหม่นี้ปะทุขึ้นใต้โพสต์ข่าวเหตุการณ์ดังกล่าวของเพจเฟซบุ๊ก เรื่องเล่าเช้านี้ เมื่อมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่จุดประกายการถกเถียงอย่างกว้างขวาง ด้วยข้อความว่า “แล้วบอกว่าทรายทำเกินกว่าเหตุก็คุณไม่ทำอะไรเลย”
คอมเมนต์ดังกล่าวเปรียบเทียบการจัดการกรณีเกาะพีพีครั้งนี้ ที่หลายคนอาจมองว่าเกิดขึ้นหลังมีกระแสกดดันจากโซเชียล กับเหตุการณ์ในอดีต ที่ทราย สก๊อต เคยออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะคล้ายกัน แล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์จากบางฝ่ายว่า ทำเกินกว่าเหตุ คอมเมนต์ดังกล่าวจึงเหมือนเป็นการตั้งคำถามย้อนกลับไปยังผู้มีอำนาจหรือผู้ที่เคยวิจารณ์ทรายว่า หากการกระทำของทรายถือว่าเกินเหตุ แล้วการที่เจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยจนกระทั่งมีภาพข่าวออกมานั้น ถือว่าเหมาะสมแล้วหรือ
ภาพฉาวสะเทือนพีพี! ฝรั่งปาร์ตี้เบียร์ คนเรือเจอดี สารภาพเป็นคนจัดหา
สำหรับปมดราม่าคดี ฝรั่งปาร์ตี้เบียร์กลางลากูน เกาะพีพี นายแสงสุรี ซองทอง หัวหน้าอุทยานฯ ต้องสั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่เร่งแกะรอย ติดตามหาเรือนำเที่ยวลำที่ปรากฏในภาพ เพื่อนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมาย
ปฏิบัติการติดตามเป็นไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุด วันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตามเรือสปีดโบ๊ทลำดังกล่าว พร้อมทั้งตัวคนขับเรือ ซึ่งเป็นชาวอำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา มาสอบสวนได้สำเร็จ
เบื้องหน้าเจ้าหน้าที่ คนเรือยอมเปิดปากสารภาพแต่โดยดี ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มนั้นได้เช่าเหมาเรือของตนเข้ามาเที่ยวที่อ่าวปิเละลากูนจริง แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น คนเรือยอมรับว่า ตนเองเป็นผู้จัดหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านั้นเข้ามา แล้วนำมาแจกจ่ายให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ดื่มกินกันอย่างชื่นมื่นกลางทะเลนั่นเอง
การกระทำของคนเรือครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชฯ พ.ศ. 2563 ข้อ 6 (7) ที่ห้ามจำหน่ายหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเขตอุทยานแห่งชาติโดยเด็ดขาด บทลงโทษจึงตามมาทันที เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ดำเนินการเปรียบเทียบปรับคนเรือรายนี้เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท
ผลกระทบไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวคนเรือเท่านั้น ทางอุทยานฯ ยังได้ทำหนังสือว่ากล่าวตักเตือนไปยังบริษัทผู้ให้เช่าเรือลำดังกล่าว เพื่อให้รับทราบถึงเหตุการณ์และกำชับดูแลพนักงานให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ถึงบางอ้อ ทราย สก๊อต ทายาทสิงห์ กับ แฟนหนุ่ม มายด์ ลภัสลัล โปรไฟล์ไม่ธรรมดา
- เปิดเมนูอาหาร ทราย สก๊อต กินแค่ไข่ต้ม ไม่ใช่ลูกคุณหนูเรื่องเยอะ
- ดำรงค์ เชื่อ ทราย สก๊อต เจตนาดี แต่ไม่มีอำนาจไล่ นทท. ออกประเทศ
ข่าวล่าสุด
