จีนบังคับ พระทิเบต ต้องขออนุญาตก่อน กลับชาติมาเกิด แบบนี้ก็ได้หรอ

เรื่องจริงที่เหนือจริง จีนออกกฎหมาย “คำสั่งที่ 5” บังคับพระลามะทิเบตต้องยื่นขออนุญาตทางการก่อน “กลับชาติมาเกิด” อ้างป้องกันความวุ่นวาย-คุมอิทธิพลทะไลลามะ ด้านทิเบต-ทั่วโลกประณาม ละเมิดเสรีภาพศาสนา-แทรกแซงจิตวิญญาณ
เรื่องแปลกรอบโลกวันนี้ ขอพาไปรู้จักกับหนึ่งในกฎหมายที่อาจเรียกได้ว่าเหนือจริงที่สุดในโลก ณ ประเทศจีน ที่ซึ่งการ “กลับชาติมาเกิด” ตามความเชื่อทางศาสนา จำเป็นต้องได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลเสียก่อน
ฟังไม่ผิดครับ หากคุณเป็น ‘พระลามะ’ หรือ ‘ตุลกู’ ในพุทธศาสนานิกายทิเบต ผู้ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ได้ตามประเพณีเก่าแก่หลายร้อยปี คุณจะไม่สามารถไปเกิดใหม่ตามใจชอบได้ หากยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากทางการจีน นี่คือกฎหมายที่มีอยู่จริงภายใต้ชื่อ “มาตรการจัดการการกลับชาติมาเกิดของพระพุทธเจ้าที่มีชีวิตในพระพุทธศาสนานิกายทิเบต” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “คำสั่งสำนักงานกิจการศาสนาแห่งรัฐ ฉบับที่ 5” ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550
คำถามนี้คงดังขึ้นในใจใครหลายคน กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้กระบวนการค้นหาและรับรองการกลับชาติมาเกิดของ ‘พระพุทธเจ้าที่มีชีวิต’ ต้องผ่านขั้นตอนทางราชการที่ซับซ้อน ตั้งแต่การยื่นคำร้องโดยวัดและผู้ศรัทธา การตั้งคณะกรรมการค้นหา ไปจนถึงการอนุมัติขั้นสุดท้ายโดยหน่วยงานรัฐบาล ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงส่วนกลางในกรณีสำคัญ ๆ เรียกได้ว่าทุกย่างก้าวของการ ‘เกิดใหม่’ อยู่ภายใต้สายตาและการควบคุมของรัฐอย่างเข้มงวด
รัฐบาลจีนให้เหตุผลของการออกกฎหมายนี้ว่า เพื่อป้องกันความวุ่นวาย การทุจริต และการแทรกแซงจากต่างชาติในกระบวนการทางศาสนา โดยอ้างอิงถึงประเพณีเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง รวมถึงเพื่อรักษาความมั่นคงและเอกภาพของชาติ โดยเฉพาะการควบคุมอิทธิพลขององค์ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุดของชาวทิเบต ซึ่งรัฐบาลจีนมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
กรณีที่เป็นตัวอย่างเด่นชัดที่สุดคือกรณีของ “แพนเชนลามะที่ 11” ซึ่งหลังจากที่องค์ทะไลลามะองค์ที่ 14 รับรองเด็กชายชาวทิเบตชื่อ “เกนดุน โชกี นยีมา” ว่าเป็นแพนเชนลามะที่กลับชาติมาเกิด ทางการจีนก็เข้าจับกุมตัวเด็กชายดังกล่าวไปควบคุมไว้และแต่งตั้งเด็กชายอีกคนหนึ่งขึ้นแทน ทำให้แพนเชนลามะที่ได้รับการรับรองโดยทะไลลามะหายตัวไปจากสาธารณชนนับตั้งแต่นั้น
แน่นอนว่ากฎหมายฉบับนี้ถูกต่อต้านอย่างหนักจากชาวพุทธทิเบต โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ทะไลลามะองค์ปัจจุบัน ซึ่งทรงยืนยันมาตลอดว่า การกลับชาติมาเกิดเป็นเรื่องทางจิตวิญญาณโดยแท้ รัฐบาลที่ปกครองด้วยแนวคิดอเทวนิยม (ไม่เชื่อในพระเจ้า) ไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซง พระองค์ถึงกับเคยตรัสว่า อาจจะเลือกไม่กลับชาติมาเกิดเลย หรืออาจจะไปเกิดใหม่นอกเขตควบคุมของจีนก็ได้ หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้
ประเด็นนี้สร้างความกังวลไปทั่วโลก องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างประณามว่าเป็นการละเมิดเสรีภาพทางศาสนาอย่างร้ายแรง และเป็นความพยายามควบคุมวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชาวทิเบต รวมถึงมีความพยายามแทรกแซงกระบวนการสืบทอดตำแหน่งองค์ทะไลลามะในอนาคต ดังที่เคยเกิดกรณีความขัดแย้งในการรับรององค์ปัญจันลามะมาแล้ว
แม้จะฟังดูแปลกประหลาดเหลือเชื่อ แต่กฎหมาย “ห้ามกลับชาติมาเกิดโดยไม่ได้รับอนุญาต” นี้ คือภาพสะท้อนความพยายามของรัฐบาลจีนในการควบคุมทุกมิติของสังคม รวมถึงเรื่องความเชื่อและจิตวิญญาณที่ดูเหมือนจะอยู่ไกลเกินเอื้อมของอำนาจรัฐ เป็นความขัดแย้งสุดขั้วระหว่างอำนาจทางการเมืองกับประเพณีทางศาสนาอันเก่าแก่ ที่ยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีใครรู้ว่าบทสรุปสุดท้ายจะเป็นอย่างไร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขข้องใจ บริจาคร่างกาย ชาติหน้าเกิดมา ‘อวัยวะไม่ครบ’ จริงไหม
- ส่องคลิปไวรัล รวมกฎหมายแปลกทั่วโลก ฟังจบรู้เลย อยู่ประเทศไทยง่ายสุด
- แปลกแต่จริง สนามบินในนิวซีแลนด์จำกัดเวลา “กอดลา” เหลือแค่ 3 นาที
อ้างอิง: orcasia, time, morungexpress