หนุ่ม 30 ผมร่วงหนัก คิดว่าเครียด-กรรมพันธุ์หัวล้าน สุดท้ายช็อก ป่วย “ซิฟิลิส”

หนุ่มอายุ 30 ผมร่วงหนัก คิดว่าเครียด-กรรมพันธุ์ สุดท้ายพบป่วย “ซิฟิลิส” แนะอย่าชะล่าใจ อาจไม่ใช่แค่หัวล้านธรรมดา
เว็บไซต์ ETtoday รายงานเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ถึงเคสชายหนุ่มวัย 30 ปี ชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้จัดการในบริษัทเอกชน เดินทางไปพบแพทย์ด้วยอาการผมร่วงอย่างหนักจนเห็นหนังศีรษะ ชายรายนี้เข้าใจว่าอาจเป็นผลจากความเครียดสะสมจากการทำงาน หรือไม่ก็เป็นกรรมพันธุ์ เพราะพ่อของเขาก็ศีรษะล้าน แต่หลังการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด กลับพบว่าเขากำลังป่วยเป็น “ซิฟิลิสระยะที่ 2”
ดร.เค่อ เหวยลี่ ผู้อำนวยการแผนกผิวหนัง โรงพยาบาลเฉิงชิง เมืองไถจง เปิดเผยว่า คนไข้รายนี้มีผมหนามาตลอด แต่เริ่มมีอาการผมร่วงอย่างชัดเจนภายในระยะเวลา 2-3 เดือน และมีผื่นลักษณะเฉพาะกระจายตามร่างกาย โดยไม่คัน เมื่อตรวจเลือดอย่างละเอียดก็พบการติดเชื้อซิฟิลิส ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในระยะที่สองของโรคมักพบอาการ “ผมร่วงเป็นหย่อมๆ” ร่วมกับผื่นผิวหนัง ซึ่งผู้ป่วยมักเข้าใจผิดว่าเกิดจากปัญหาทั่วไป
แพทย์จึงให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและวิตามินอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเสริมแร่ธาตุ “สังกะสี” ซึ่งพบว่าผู้ป่วยมีระดับต่ำกว่ามาตรฐาน โดยใช้เวลาเพียง 3 เดือน อาการต่าง ๆ จึงค่อย ๆ ดีขึ้น ผื่นหาย เส้นผมเริ่มงอกกลับมา
ดร.เค่อ เตือนว่า อาการผมร่วงอาจไม่ใช่แค่เรื่องกรรมพันธุ์หรือความเครียดเสมอไป อาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่างโดยไม่รู้ตัว หากปล่อยไว้โดยไม่ตรวจสอบ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ ทางที่ดีหากมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น
สำหรับอาการของโรคซิฟิลิส แบ่งได้เป็น 4 ระยะ ระยะแรก หลังติดเชื้อ ประมาณ 10-90 วัน เฉลี่ย 3 สัปดาห์ มีแผลริมแข็งลักษณะเป็นแผลเดี่ยว ขอบนูน ไม่เจ็บ มักเกิดบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือปาก แผลจะหายไปเองภายใน 3-6 สัปดาห์ แม้ไม่ได้รักษา
ระยะที่สอง หลังแผลหาย ประมาณ 2-8 สัปดาห์ ผื่นขึ้นตามร่างกาย มักไม่มีอาการคัน โดยเฉพาะที่ฝ่ามือฝ่าเท้า ผมร่วงเป็นหย่อม แบบ “moth-eaten alopecia” มีไข้ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อาการจะหายไปเองใน 3-12 สัปดาห์ แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย
ระยะแฝง ไม่มีอาการทางร่างกาย แต่เชื้อยังอยู่ในร่างกาย แบ่งเป็นระยะแฝงต้น ภายใน 1 ปีหลังติดเชื้อ ระยะแฝงปลาย เกิน 1 ปีหลังติดเชื้อ ช่วงนี้ผู้ป่วยอาจยังแพร่เชื้อได้ หากเป็นช่วงต้น
ระยะสุดท้าย เกิดขึ้นหลังจากติดเชื้อหลายปี (10–30 ปี) หากไม่รักษา อาการรุนแรงมาก อาจถึงชีวิต ทำลายหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาทส่วนกลาง (neurosyphilis) เกิดก้อนเนื้อตาย ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ สมอง ผิวหนัง อัมพาต ตาบอด หรือเสียชีวิตได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แพทย์อึ้ง พบเด็กหญิงอายุ 15 ปี ติดเชื้อ “ซิฟิลิส” พอซักประวัติเสร็จร้องอ้
- รู้จัก โรคซิฟิลิส ผ่านตัวละคร “ดอกรัก” ในละคร บ่วงใบบุญ ช่อง 8
- สหรัฐฯสอบวุ่น หญิง 5 คน ซิฟิลิสขึ้นตา หลังมีเพศสัมพันธ์กับชายคนเดียวกัน