ข่าว

บก.ลายจุด หนุน ทราย สก๊อต ไม่ใช่พวกสุดโต่ง โต้ปมสร้างภาพ-ป้ายสีชาวบ้าน

บ.ก.ลายจุด ยืนข้าง ทราย สก๊อต ชี้ สิ่งที่ทำไม่ใช่สุดโต่ง แค่หลักอนุรักษ์พื้นฐานเบื้องต้น ชาวเน็ตวิจารณ์ สร้างภาพ ป้ายสีให้ชาวบ้านเป็นคนเลว สวนกลับตัวบ่งชี้ คือ การกระทำที่ต่อเนื่อง

จากกรณีที่ “ทราย สก๊อต” นักอนุรักษ์หนุ่มวัย 28 ปี ตกเป็นประเด็นหลังจากนักท่องเที่ยวพูด ‘หนีฮ่าว’ พร้อมหัวเราะ เจ้าตัวมองว่าเป็นพฤติกรรมเหยียดคนไทย จึงต้องเข้าไปตักเตือน เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่าไม่สามารถทำเช่นนี้ในไทยได้ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งคนดังในแวดวงนักอนุรักษ์ต่างออกมาให้ความเห็นในมุมของตน

ล่าสุด “บ.ก.ลายจุด” หรือ “สมบัติ บุญงามอนงค์” ออกมาสนับสนุนการกระทำของ ทราย สก๊อต โดยมองถึงปัญหาที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติโดยไม่ระวัง ซึ่งอาจส่งผลต่อต่อในอนาคตได้ และอาจทำให้เกิดผลกระทบด้านภูมิอากาศ ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม และน้ำหลาก อธิบายเพิ่มว่าสิ่งที่นักอนุรักษ์หนุ่มทำนั้นไม่ได้สุดโต่ง แต่เป็นหลักการพื้นฐานในการดูแลพื้นที่อนุรักษ์

บ.ก.ลายจุด สนับสนุน การกระทำของทราย สก๊อต
ภาพจาก Facebook : สมบัติ บุญงามอนงค์

เจ้าตัว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สมบัติ บุญงามอนงค์ ระบุว่า “การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในไทยไม่ใช่เขียวปี๋ แต่คือการสร้างสมดุลที่ถูกการทำลายล้างในนามของการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติในระดับที่เกือบดำปี๋

การสัปทานป่าไม้ทำให้ภูมิอากาศ ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม น้ำหลาก เพิ่มขึ้นอย่างมโหฬาร จากประเทศส่งออกไม้มีค่า ตอนนี้เราเป็นประเทศนำเข้าไม้จากเพื่อนบ้าน เพราะไม่มีไม้ให้ใช้แล้ว

เราใช้ประโยชน์จากป่าโดยไม่ระมัดระวัง เราจุดไฟจนยับยั้งพัฒนาการของป่า เกิดไฟลุกลามในทุกปี จนกลายเป็นปัญหาต่อสุขภาพของคนในพื้นที่ ด้วยเหตุผลวิถีชีวิตหรือแม้แต่อ้างเรื่องปากท้อง ความเป็นคนเล็กคนน้อย หรือความจำเป็นของการเกษตรอุตสาหกรรมที่พ่วงต่อไปถึง GDP ของประเทศ

เมื่อก่อนชาวประมงพื้นบ้านต้องสู้กับทุนใหญ่ที่ใช้เรืออวนลาก ทำลายทั้งปลาตัวเล็กและพื้นอวนลากทำลายหญ้าทะเลตามแนวชายฝั่ง

เราปล่อยให้ระบบเครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล ขายดิบขายดีในประเทศไทยเพราะโฆษณาว่าประหยัดน้ำมัน แต่ญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้ใช้เพราะมันปล่อยมลภาวะสูงกว่าจนไม่สามารถยอมรับได้

ทราย สก๊อต - 2
ภาพจาก Facebook : ทราย – Merman Ψ

ชีวิตเล็ก ๆ ในทะเลที่เป็นห่วงโซ่พื้นฐาน ต้องอาศัยความสงบของธรรมชาติเพื่อที่มันจะแพร่พันธุ์ขยายตัวไปพร้อมกับปะการังที่เสี่ยงฟอกขาวตายจากอุณหภูมิของน้ำทะเล และจากอวน ขยะในทะเล รวมถึงกิจกรรมที่เรียกว่าการท่องเที่ยวทางทะเล ที่เรือที่ใช้น้ำมันและสมอที่ทิ้งตกใส่ปะการัง เพื่อให้นักท่องเที่ยวโดดลงไปดำน้ำดูความสวยงามของปะการังและปลาสวยงามบริเวณนั้น

ครีมทาผิวกันแดดที่เป็นมีสารทำให้เกิดเป็นพิษต่อปะการังถูกละลายไปกับทะเลที่มีความอ่อนไหวจนใกล้จะฉิบหายกันหมด จากที่มี 100 % ตอนนี้เหลือไม่ถึง 20 % ผมถามหน่อยว่าถ้าปะการังตายหมด เรือท่องเที่ยวจะพาคนลงไปดำน้ำดูขยะและปะการังที่หักและฟอกขาวตายหรือเปล่า มันสวยยังไงเหรอ แล้วตกลงใครฉิบหายไปด้วยกัน

กรณีของ #ทรายสก๊อต อาจดูเป็นความเกิน ๆ ในบางแง่มุม แต่นั่นยังสามารถอภิปรายกันได้ ส่วนสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่อนุรักษ์นั้นเรายังมีอะไรที่ต้องมีการอภิปรายกันอีกหรือ ?

เราอาจพูดถึงความไม่เห็นด้วยในเรื่องพฤติกรรมและบทบาทหน้าที่ของตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยาน ที่เราเห็นการกระทำของเขา นั่นไม่ใช่บทบาทที่ปรึกษา แต่คือมนุษย์ที่หวงแหนและเจ็บปวดจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่ขาดความรับผิดชอบ โดยอ้างความเป็นธุรกิจในชุมชน แต่มันมีปัญหากับสิ่งแวดล้อมไง ดังนั้นการปะทะกันครั้งนี้ ผมยืนสนับสนุน #ทรายสก๊อต สังคมต้องมีคนแบบนี้ เอาจริง ๆ มันไม่ได้สุดโต่งอะไรเลย มันเป็นเรื่องพื้นๆ หรือหลักการพื้นฐานในการดูแลพื้นที่อนุรักษ์ โคตรธรรมดาสามัญ ไปเรียกเขาว่าเป็นนักอนุรักษ์สุดโต่งได้อย่างไร เขาแค่ขอให้คุณท่องเที่ยวโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สุดโต่งยังไง”

ชาวเน็ตเห็นด้วย หลังบก.รายจุดสนับสนุนทราย สก๊อต
ภาพจาก Facebook : สมบัติ บุญงามอนงค์

ขณะเดียวกัน ชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความเห็นใต้โพสต์ว่า “ทำงานคนเดียว ย่อมสำเร็จยากหน่อยครับ ปกติทำงานแบบนี้ เราจะพยายามทำงานแบบมีส่วนร่วมอ่ะครับ เข้าใจข้อจำกัดและช่วยกัน การมองคนพื้นที่เป็นพี่น้อง หรือผู้ร้าย มันมีผลนะครับ โซเชียลได้ยอดไลก์ แต่ไร้ความสำเร็จ ผมว่าบอกเข้าใจดีนะ”

ด้าน บ.ก.ลายจุด ยอมรับว่าเป็นงานที่ยาก และเป็นบทเรียนสำคัญของชายหนุ่มที่เข้ามาทำงานในจุดที่มีผู้คนจำนวนมากเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนที่ได้รับประโยชน์หรือมีอำนาจหน้าที่ ๆ ต้องควบคุมและขอความร่วมมือ

“ใช่ครับ เป็นงานยาก ซึ่งนี่จะเป็นบทเรียนของชายหนุ่มที่โดดเข้ามาสู่การทำงานที่มีผู้คนจำนวนมากเกี่ยวข้อง แต่นั่นอาจไม่ใช่หน้าที่โดยลำพังของเขา มันอาจเป็นหน้าที่ของคนที่ได้รับประโยชน์หรือมีอำนาจหน้าที่ ๆ ต้องควบคุมและแสวงความร่วมมือ ทรายเขาเพียงตะโกนและโอบกอดธรรมชาติในขีดจำกัดที่เขามี”

ชาวเน็ตั้งคำถาม ทราย สก๊อต ทำเพื่อคอนเทนต์หรือไม่
ภาพจาก Facebook : สมบัติ บุญงามอนงค์

แม้จะมีความเห็นที่สนับสนุนการกระทำของทราย สก๊อต แต่ขณะเดียวกันบางส่วนมองว่าเป็นการกระทำที่สร้างภาพว่าเป็นนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้กลายเป็นคนดีของชนชั้นกลาง และพยายามป้ายสีให้ชาวบ้านและผู้ประกอบการในท้องถิ่นกลายเป็นคนเลวที่ทำลายทรัพยากร พร้อมตั้งคำถามว่าเป็นสิ่งที่น่ายกย่องหรือไม่

สมบัติ บุญงามอนงค์ เห็นต่าง พร้อมให้เหตุผลว่า “สร้างภาพคือไม่ใช่คนจริงแบบนั้นใช่มั๊ยครับ แล้วถ้าเขาคนจริงในเรื่องนั้นการกระทำของเขาคือการไม่ได้สร้างภาพถูกมั๊ย? ดังนั้นอะไรเป็นตัวบ่งชี้ความเป็นตัวจริงหรือเสแสร้ง มันไม่ใช่การมีชื่อเสียงหรือไม่แต่คือการกระทำที่ต่อเนื่องและจริงจัง”

ทราย สก๊อต
ภาพจาก Facebook : ทราย – Merman Ψ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button