ข่าว

ไม่ถอย! ‘ทราย สก๊อต’ ยัน ทำตามกฎ ไม่ใช่ครึ่งๆ กลางๆ ตรงไหนเกินหน้าที่

เปิดใจกลางรายการดัง ทราย สก๊อต ทายาทสิงห์รุ่น 4 หลังถูกปลดพ้นที่ปรึกษาอุทยานฯ ยืนหยัดทำตามกฎ ถามหาทางเลือกอื่น? ครึ่งทางของถูกกฎหมาย คือ ผิดกฎหมาย

หลังออกคำสั่งฟ้าผ่าจาก นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ปลด นายกรกนก โจลัตสาห์กุล หรือที่รู้จักในนาม ทราย สก๊อต ทายาทรุ่นที่ 4 แห่งตระกูลภิรมย์ภักดี พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีฯ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่ยอมปรับปรุงแม้ได้รับการตักเตือน ล่าสุด วันที่ 21 เม.ย. 68 ทราย สก๊อต ได้เปิดเผยมุมมองและจุดยืนของตนเองผ่านรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ เผยให้เห็นเบื้องหลังความคิดและแนวทางการทำงาน ที่อาจเป็นภาพสะท้อนความท้าทายในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของไทยในยุคปัจจุบัน

บนเก้าอี้ของผู้ถูกปลด ทราย สก๊อต ไม่ได้เลือกจะเงียบ แต่ตอบทุกคำถามด้วยความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ได้กระทำล้วนเป็นไปตามหน้าที่ ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอุทยาน ที่ไม่ได้มีพื้นที่ให้กับการประนีประนอมระหว่างถูกกับผิด

ทราย สก๊อต เริ่มต้นชี้แจงถึงการทำงานที่ผ่านมาว่า ตนเชื่อมั่นว่าได้ทำหน้าที่อย่างเหมาะสมครบถ้วนแล้ว ในช่วงแรก เขารู้สึกว่ากรมอุทยานฯ ยังมีมุมที่ยืดหยุ่นได้ภายใต้กรอบของกฎหมาย แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป การทำงานที่เข้มงวดในการบังคับใช้กฎระเบียบของเขา อาจถูกมองจากผู้บริหารว่า แรงเกินไป

“ตอนนั้นผมทำกับอุทยานได้เพราะผมรู้สึกว่าเขายังมีหลายมุมที่ยังยืดกับกดที่ที่มันเป็นกฎหมาย แต่ช่วงหลัง ๆ ที่เขาเห็นว่าผมทำแรงเกินไป… คือถ้าเกิดเราไม่ทำแบบนี้ ไม่เตือนนักท่องเที่ยวให้ทำให้ถูกกฎ ออปชั่นอีกอันหนึ่งคืออะไรอะครับ ปล่อยให้เกิดขึ้นเหรอ มันก็ไม่ได้ถูกกฎหมายนะครับ”

กรมอุทยานข้างในเน่าเฟะ
กรรมกรข่าว คุยนอกจอ

ประเด็นนี้ทำให้ทรายตั้งคำถามกลับไปยังสังคมและผู้มีอำนาจว่า หากไม่ดำเนินการเช่นนี้ ไม่ตักเตือนนักท่องเที่ยวหรือผู้ฝ่าฝืนให้ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด แล้วทางเลือกอื่นคืออะไร คือ การปล่อยให้การกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นต่อไปอย่างนั้นหรือ? ซึ่งนั่นย่อมไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอุทยานฯ

“ถ้านี่เป็นทิศทางของการเป็นผู้นำ ณ ตอนนี้ ของ อุทยานฯ ผมว่ามันไม่เหมาะสมสำหรับผมที่จะไปอยู่ในนั้น เพราะมันไม่ได้เป็นทิศทางที่มันถูกต้องในการอนุรักษ์ หรือการรักษษกฎอุทยานครับ….”

ทราย สก๊อต เน้นย้ำถึงหลักการสำคัญว่า สำหรับเขาแล้ว ครึ่งทางของสิ่งที่ถูกกฎหมาย ก็คือสิ่งที่ผิดกฎหมาย นั่นเอง มันไม่มีพื้นที่สีเทาสำหรับการละเมิดกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นเพื่อปกป้องทรัพยากรของชาติ

ทราย สก๊อต ยืนยัน ทำตามหน้าที่ เจ้าหน้าที่เก่า ๆ ไม่เด็ดขาด
กรรมกรข่าว คุยนอกจอ

จุดยืนที่แน่วแน่ดังกล่าวนำไปสู่การตั้งคำถามถึงทิศทางการบริหารงานของกรมอุทยานฯ ในปัจจุบัน ทราย สก๊อต กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า หากแนวทางที่ถูกมองว่าเหมาะสมในสายตาผู้บริหาร ณ ตอนนี้ คือการผ่อนปรนหรือลดระดับความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎ

นั่นอาจไม่ใช่ทิศทางที่ถูกต้องสำหรับการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็คง ไม่เหมาะสมที่ตัวเขาจะเข้าไปมีส่วนร่วมในจุดนั้น เพราะมันสวนทางกับหลักการอนุรักษ์และเจตนารมณ์ของกฎหมายอุทยานฯ ที่เขาเชื่อมั่น

ชาวเน็ตคอมเมนต์ ทราย
กรรมกรข่าว คุยนอกจอ

“อะไรคืออปชั่นของการทำถูกกฎ ครึ่งทางของถูกกฎหมายก็คือผิดกฎหมายอะครับ… ผมแค่พยายามจะรักษาเกียรติ ศักดิ์ศรี ของทรัพยากรไทย ของกฎอุทยานไทย ของคนที่มาเที่ยวประเทศไทย ผมไม่เข้าใจว่าการที่ผมทำในสิ่งที่ ทำตามเจตนารมย์ของกรมอุทยาน ทำให้ผมทำเกินหน้าที่ตรงไหน เพราะว่าสิ่งที่มันเคยเกิดขึ้น มันไม่ได้ทำตามนี้เหรอ นี่คือสิ่งที่เขาพยายามจะบอกเราเหรอว่า เหตุผลที่มันทำให้ดูแรง เพราะเราไม่เคยทำมันมาเลย”

ทราย สก๊อต ยังสะท้อนมุมมองต่อคำวิจารณ์ที่ว่า การทำงานของเขาดู แรง หรือ เกินหน้าที่ อาจเป็นเพราะสังคมและแม้ แต่บุคลากรในองค์กรเอง ยังไม่คุ้นชินกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเท่าเทียมหรือไม่

เขาถามว่า สิ่งที่เขาพยายามทำ คือ การรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของทรัพยากรธรรมชาติไทย กฎอุทยานไทย และภาพลักษณ์ที่ดีของผู้ที่มาเยือนประเทศไทย ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกรมอุทยานฯ อย่างแท้จริง

เหตุใดการยืนหยัดทำสิ่งที่ควรจะเป็นบรรทัดฐานอยู่แล้ว จึงกลายเป็นเรื่องที่ดูเหมือน เกินเลย หรือสร้างปัญหาไปได้ หรือนี่คือการยอมรับทางอ้อมว่า ที่ผ่านมาเราอาจละเลยการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้มาโดยตลอด?

“สิ่งที่ผมพูดมันไม่ควรเป็นเรื่องใหม่ จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่มันเก่าแล้ว” 

สุดท้าย ทราย สก๊อต ทิ้งท้ายไว้ให้ขบคิดว่า สิ่งที่เขาพูดและพยายามผลักดันนั้น ไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องใหม่ แต่แท้จริงแล้ว มันคือเรื่องพื้นฐานที่ควรปฏิบัติและเป็นที่เข้าใจกันมานานแล้ว มุมมองของเขาจึงเปรียบเสมือนเสียงสะท้อนถึงช่องว่างและความท้าทายในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ท่ามกลางความคาดหวังที่หลากหลาย และปรัชญาการอนุรักษ์ที่อาจต้องการการทบทวนและปรับจูนเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button