กัน จอมพลัง ยินดีเปิดทางให้ “พีช” จ่ายเงินเยียวยาลุงป้า ยอมรับมีพี่ชายต่อสายหาจริง ขอให้ถอยคนละก้าว ส่วน “เต้” ขอให้ดูแลโซนพระราม 7 เดี๋ยวตรงนี้ตนจัดการเอง
วันนี้ (20 เม.ย.) กัน จอมพลัง เดินทางมาที่โรงพยาบาลบางประกอก-รังสิต 2 เพื่อเยี่ยมอาการลุงป้าที่ถูกนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ “พีช” ขับรถ BMW ปาดหน้าจนเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บสาหัส พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนคุยกับครอบครัวผู้เสียหายเรื่องค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อย รู้สึกสงสารเพราะเท่าที่ทราบคือค่ารักษาพยาบาลพุ่งมากกว่า 134,000 บาท
ฝั่งครอบครัวจึงลำบากมาก เพราะคุยกันว่าจะไปหากู้เงินมาจ่าย ประกอบกับทางคู่กรณีเองก็ยังไม่ให้ความชัดเจนเป็นรูปธรรม ยังไม่มีการพูดคุยกับทางครอบครัวว่าจะช่วยเหลืออย่างไร หรือแนวทางไหนบ้าง ดังนั้นตนจึงตัดสินใจช่วยเหลือ ใช้เงินส่วนตัวจ่ายให้ 47,697 บาท และเงินจากมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้อีก 26,608 บาท
รวมถึงมี พ.ร.บ. ช่วยลุงป้าอีก ยอด 60,000 บาท (คนละ 30,000 บาท) ช่วยเหลือทางครอบครัวด้วย อีกทั้งทางโรงพยาบาลเองก็พร้อมยินดีช่วยเหลือหลังจากนี้ โดยในส่วนของตนได้ชำระเงินไปเมื่อช่วงเวลา 11.00 น. แต่พึ่งทราบว่าคู่กรณีเดินทางมาขอจ่ายเงินหลังจากนั้น
กัน จอมพลัง กล่าวว่า จากนี้หาก (คู่กรณี) จะมาจ่ายให้ตนก็ดีเหมือนกัน เพราะแสดงถึงความกระตือรือร้น ส่วนเรื่องจดหมายเขียนถึงคุณลุงคุณป้านั้น ตนมองว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด พร้อมขอฝากไปถึงทางนั้นโดยตรงว่า ถ้าอยากช่วยจริง ตนยินดีเปิดทางให้ ไม่ปิดโอกาสหรือติดอะไร แค่ต้องการให้ท่านแสดงการรับผิดชอบ จะส่วนไหนก็ให้มาหาทางออกร่วมกัน ยอมถอยคนละก้าว อยากให้ครอบครัวลุงป้าสบายใจ ไม่ใช่มาเอาภาพเพื่อการลดโทษ
อย่างไรก็ดี ส่วนตัวเชื่อว่า หากมีการพูดคุยเรื่องทุกอย่างจะดีขึ้น แต่ยังไม่เข้าใจว่าเขาติดอะไร รวมถึงเรื่องรถกระบะที่เสียหาย หากเป็นตนงคงซื้อรถกระบะให้ใหม่ เพราะการซ่อมก็คงไม่เหมือนเดิม แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อเรื่องการช่วยเหลือเรื่องรถแต่อย่างใด
อีกทั้งทางครอบครัวเองก็ยังมีคำถามที่ยังคาใจ และต้องการคำตอบ เช่น ถ้าลุงหยุดรถ คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขายังคิดแบบนี้อยู่หรือไม่ และหลังเกิดเหตุ ทำไมถึงไม่เรียกรถพยาบาล ทั้งที่มีคนบาดเจ็บสาหัส แถมยังมีการเหยียดอีกด้วย
หากถามถึงประเด็น “เต้ มงคลกิตติ์” โพสต์ฝากถึงตนว่าให้ถอยเถอะ นายใหญ่สั่งพี่ชายนายมาแล้ว จำบทเรียน “ทนายตั้ม” ไว้ เคยดังขีดสุด เอฟซีก็ช่วยไม่ได้คดีจะมาเพียบนั้น “กัน” ตอบว่า “ผมรู้ว่าพี่ชายรู้จักนิสัยผมดี รู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร และพี่ชายก็รู้จักนิสัยผมดีมาก ขอบคุณคุณเต้ที่ออกมาพูด อาจจะเป็นห่วงผม แต่อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงผม อยากให้พี่เต้ไปดูแลโซนพระราม 7 เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง”
ส่วนพี่ชายที่กล่าวถึงนั้น ตนยอมรับว่าได้คุยกันจริง พี่ชายเขาเป็นห่วง อยากให้สองฝ่ายถอยกันคนละก้าว ตนจึงไฝากพี่ชายกลับไป ว่า “ผมทำเพื่อประโยชน์ของเคส ถ้าหากเคสยังไม่ได้รับการเยียวยา ผมก็จะช่วยจนจบ อยากให้เข้าใจว่าครอบครัวเคสเองเขาจะรู้สึกอย่างไร และผมก็ได้ฝากกลับไปด้วยเช่นดันว่า อย่าให้เขาปากแจ๋ว” พร้อมยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้พูดหรือทำให้ผิดเป็นถูก เขาถามเพื่อหาแนวทางออกของเรื่องนี้ ด้วยความรักและความเป็นห่วง แนะนำหาทางออกให้เท่านั้น
กัน กล่าวต่อว่า ตอนนี้ครอบครัวของลุงป้ากังวลมาก เนื่องจากทางนั้นก็ลำบาก ตนจึงยืนยันว่าจะให้ทนายความช่วยไปจนคดีถึงศาล ขณะที่ลูกชายของลุง-ป้า บอกว่า รถกระบะที่ถูกชนเป็นรถของตัวเองที่ผ่อนหมดแล้ว มีแต่ พ.ร.บ. เท่านั้น ส่วนประกันชั้น 1 ไม่มี ซื้อมาตั้งแต่ปี 2558 ส่วนที่ถูกชนเสียหายนั้น มองว่า ถ้าซ่อมก็คงไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่ส่วนตัวไม่อยากเรียกร้อง ให้เขาคิดเอง
อย่างไรก็ดี วันนี้คู่กรณีติดต่อมาแล้ว แต่ตนตอบกลับไปว่าไม่สะดวก เนื่องจากยังไม่ได้เตรียมตัว แต่ถ้าในอนาคตคู่กรณีอยากติดต่อมาอีก ก็ติดต่อมาได้ ทว่าอยากให้มีการพูดคุยกันก่อน เพราะตอนนี้ทางครอบครัวยังมีความกังวลอยู่หลายเรื่อง ส่วนเรื่องอาการของผู้บาดเจ็บนั้น ป้าพ้นขีดอันตราย สามารถพูดคุยสื่อสารได้ แต่ลุงอาการยังคงโคม่า นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ไม่สามารถสื่อสารกับญาติหรือคนที่เข้าไปเยี่ยมได้ โดยทั้งคู่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เต้ มงคลกิตติ์ เบรค “กัน” ถอยเถอะน้อง ระวังเหมือนทนายตั้ม นายใหญ่สั่งแล้ว
- กันจอมพลัง แนะ หากต้องการภาพขอขมาไปลดโทษ ก็อย่าเลย ขออภัยที่รู้ทัน
- กัน เล่า เคยจับ “หมา” กลางบ่อน ถามกลับแค้นแทนพ่อหรือเรื่องตัวเอง?
ข่าวล่าสุด
