หรือจะมีคดีพลิก หญิงสาวเล่าประสบการณ์วิ่งออกกำลังกายอยู่ดีๆ เจอชายวัยกลางคนพูดจาหยาบคายใส่ โทรศัพท์เรียกแฟนหนุ่ม วางแผนเผชิญหน้า ทวงคำขอโทษ ผู้เสียหายลงบันทึกประจำวัน สน.ลุมพินี ล่าสุดลบโพสต์แล้ว
หญิงสาวคนหนึ่ง โพสต์เล่าประสบการรณ์ถูกชายแปลกหน้า พูดจาลวนลาม อย่างโจ่งแจ้ง ขณะเธอกำลังวิ่งออกกำลังกายอย่างสงบในสวนเบญจกิติ เรื่องราวดังกล่าวถูกเล่าโดยเฟซบุ๊ก เพจ Mars Online และแชร์ต่อไปโดย เพจ Drama-addict
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ 20 เม.ย. 68 ผู้เสียหาย ซึ่งปกติมาวิ่งที่สวนเบญจกิติเป็นประจำ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ขณะกำลังวิ่งจ๊อกกิ้งในช่วงท้ายเพียงลำพัง บริเวณทางเชื่อมสวน เบญจกิติเดิม ได้มีชายอายุประมาณ 45-55 ปี ลักษณะผมรองทรงยาว สีดำแซมขาว สวมเสื้อกีฬาสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ และใส่หูฟัง เดิน สวนมาในระยะใกล้ และกล่าวถ้อยคำว่า “น่าเดจัง” (ข้อความตามต้นฉบับ) พร้อมกับแสดงท่าทางมีรอยยิ้ม
หลังได้ยินคำพูดดังกล่าว หญิงสาวรู้สึกตกใจและหยุดวิ่ง ก่อนตัดสินใจ เดินตามชายคนดังกล่าวไป พร้อมกับโทรศัพท์ติดต่อแฟนหนุ่มให้รีบ ตามมา
เมื่อเผชิญหน้ากัน เธอได้สอบถามถึงคำพูดที่ไม่เหมาะสมนั้น ชายคนดังกล่าวปฏิเสธในตอนแรก อ้างว่าตนเองพูดว่า “เหนื่อย” และ พยายามจะหลบหนี แต่แฟนหนุ่มของผู้เสียหายได้มาถึงและเข้าช่วย ควบคุมตัวชายคนนั้นไว้ได้ทัน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจและ เสียงดัง จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) หลายคนเข้ามาช่วย ระงับเหตุ
ผู้เสียหายระบุว่า ชายผู้ก่อเหตุพยายามบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้พูดเช่นนั้น และอ้างว่าวิ่งอยู่คนละเลน แต่ในที่สุดก็ได้ยอมยกมือไหว้ขอโทษ อย่างไรก็ตาม มี รปภ. ท่านหนึ่งได้เข้ามาพูดคุย แนะนำให้ยอมความ และให้เรื่องจบลง โดยให้เหตุผลว่า “ผู้ชายยอมยกมือไหว้ขอโทษก็ ถือว่าสำนึกแล้ว ผู้ชายไม่ได้ยกมือไหว้ง่ายๆ” ซึ่งผู้เสียหายไม่เห็นด้วย กับทัศนคติดังกล่าว และชายผู้ก่อเหตุได้อาศัยจังหวะชุลมุนเดินหนีไป
หญิงสาวผู้เสียหายยืนยันว่า การถูกคุกคามทางวาจาเป็นสิ่งที่ไม่ควร เกิดขึ้นกับบุคคลใด ไม่ว่าจะเป็นเพศใดหรือแต่งกายลักษณะใดก็ตาม และการขอโทษไม่ได้หมายความว่าจะต้องยอมให้เรื่องผ่านไป เธอจึง ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจนคร บาลลุมพินี
ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากประชาชนประสบเหตุการณ์ใน ลักษณะนี้ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยควบคุมตัวผู้ ก่อเหตุไว้ และรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้า มายังจุดเกิดเหตุและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เนื่องจาก รปภ. มีหน้าที่เพียงระงับเหตุการณ์เบื้องต้น แต่ไม่มีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เสียหายได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากนักวิ่ง ท่านอื่นและ รปภ. บางส่วนว่า เคยมีผู้หญิงคนอื่นประสบเหตุการณ์ ทำนองเดียวกันจากชายลักษณะคล้ายกันนี้มาก่อน แต่ไม่ได้มีการแจ้ง ความดำเนินคดี ทั้งนี้ ทางผู้บริหารสวนเบญจกิติได้รับทราบเรื่องดัง กล่าวแล้ว และมีรายงานว่าจะดำเนินการติดป้ายประกาศห้ามชายผู้ก่อ เหตุเข้าใช้บริการภายในสวนสาธารณะต่อไป
ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำของวันเดียวกัน เพจดราม่าแอดดิก ได้โพสต์แจ้งความคืบหน้าว่า “เคสนี้ล่าสุด โพสหายไปแล้ว และ จุขพ ก็ล๊อคโปรไฟล์ ชาวเน็ทก็ตั้งข้อสงสัยว่า ที่ จขพ บอกว่า ได้ยินชายคู่กรณีนี้พูดว่า “น่าเดจัง นั้นมีพยานหลักฐานหรือเชื่อถือได้ มากน้อยแค่ไหน เพราะตามที่ จขพ เล่าคือตอนนั้นเขาก็ใส่หูฟังอยู่ด้วย (แต่ไม่ได้เปิดเพลง) ชาวเน็ทเลยเรียกร้องให้ทาง จขพ อธิบายเรื่องพยาน หลักฐานเพิ่มเติมให้ชัดเจนหน่อย เพราะข้อกล่าวหามันหนักอยู่ ถ้าชาย ในภาพไม่ได้ทำหรือเป็นความเข้าใจผิดจริงๆมาโพสแบบนี้ยุ่งเลยนะ
ปล แต่จากที่เล่า รปภ ของสวนทำงานดีมากนะ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับแล้ว พนักงานหื่น ลวนลามสาวไต้หวัน หวังขยี้พรหมจรรย์ เจอโทษเฆี่ยนอ่วม
- อวสานมื้อกลางวัน! คุก 8 ปี ภารโรงมะกันโรคจิต ผสมขี้ในอาหารนักเรียน
- สจ๊วตหื่น ล่วงละเมิดทางเพศเพื่อนร่วมงาน ถูกรวบที่สิงคโปร์ ส่อโดนโบย
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
