อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายยุน ซอกยอล พร้อมภริยา และสัตว์เลี้ยง 11 ตัว ย้ายเข้าอยู่ อพาร์ทเมนท์ หลังพ้นตำแหน่ง คาด รปภ.อารักขาเข้ม 5 ปี
จากสูงสุดคืนสู่สามัญ อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายยุน ซอกยอล พร้อมด้วยภริยา นางคิม กอนฮี ได้ย้ายกลับเข้าพำนักที่อพาร์ตเมนต์หรูส่วนตัว โครงการ Acrovista ในย่านคังนัม ทางตอนใต้ของกรุงโซลแล้วอย่างเป็นทางการ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา นับเป็นการกลับสู่ชีวิตสามัญชนอีกครั้ง หลังจากต้องพ้นจากตำแหน่งผู้นำประเทศ จากกรณีความพยายามประกาศใช้กฎอัยการศึกที่ล้มเหลวและสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคม
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า อดีตผู้นำและภริยาได้นำสัตว์เลี้ยงที่เป็นสุนัขและแมวรวม 11 ตัว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าทั้งคู่ให้ความรักและดูแลอย่างใกล้ชิด ย้ายเข้ามายังที่พักใหม่ขนาด 164 ตารางเมตรด้วย โดยโครงการ Acrovista เป็นอาคารสูง 37 ชั้น มีกว่า 750 ครัวเรือน ตั้งอยู่ใกล้กับสำนักงานอัยการที่นายยุนเคยทำงานในอดีต
ตามสิทธิ์ของอดีตประธานาธิบดี นายยุนจะได้รับการอารักขาจากหน่วยงานความมั่นคงเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งมีรายงานว่าอาจมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันมากถึง 50 นาย ประจำการในบริเวณที่พัก อย่างไรก็ตาม การย้ายกลับมาครั้งนี้ได้สร้างปฏิกิริยาที่หลากหลายจากผู้อยู่อาศัยในอาคารเดียวกัน
บางส่วนได้ขึ้นป้ายผ้าต้อนรับการกลับมา ขณะที่บางส่วนแสดงความกังวลว่า ที่พักอาจกลายเป็นจุดรวมตัวของกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มต่อต้าน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของชุมชน
ในระหว่างดำรงตำแหน่ง นายยุน ซอกยอล เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลักดันกฎหมายห้ามการบริโภคเนื้อสุนัขจนสำเร็จ และภาพลักษณ์การเป็นคนรักสัตว์ โดยรับเลี้ยงสุนัขและแมวจนมีจำนวนเพิ่มจาก 7 ตัว เป็น 11 ตัว รวมถึงสุนัขอดีตสุนัขบริการ
สำหรับโครงการ Acrovista นั้น ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่เดิมของห้างสรรพสินค้าซัมพุง ซึ่งเกิดเหตุการณ์ถล่มครั้งใหญ่เมื่อปี 2538 (1995) ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 502 ราย นับเป็นโศกนาฏกรรมครั้งรุนแรงในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้
ขึ้นศาลคดี “กบฏ” เสี่ยงโทษจำคุกตลอดชีวิต
หลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ไม่นาน ยุน ซอกยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก็ต้องเตรียมขึ้นศาลครั้งแรกในวันจันทร์นี้ (15 เม.ย.) ในข้อหานำการก่อการกบฏ หลังประกาศใช้กฎอัยการศึกโดยมิชอบเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นชนวนให้นำไปสู่การถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งเมื่อ 10 วันก่อน ตามรายงานจากศาลแขวงกรุงโซล (Seoul Central District Court)
ศาลนัดเปิดการพิจารณาคดีเวลา 10.00 น. โดยยุนในฐานะจำเลยต้องเข้าร่วมฟังการไต่สวนด้วยตนเอง ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง อดีตผู้นำวัย 63 ปีรายนี้ อาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือแม้กระทั่งโทษประหารชีวิตตามที่กฎหมายเกาหลีใต้มาตราเกี่ยวกับ “การกบฏ” บัญญัติไว้
เจ้าหน้าที่ศาลระบุว่า ได้จัดเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดรอบศาล เพื่อรับมือกับกลุ่มผู้สนับสนุนและผู้ประท้วงที่อาจรวมตัวกัน โดยยุนจะเดินทางเข้าศาลผ่านทางที่จอดรถชั้นใต้ดินเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสื่อและประชาชน ทั้งนี้สื่อมวลชนไม่ได้รับอนุญาตให้บันทึกภาพในห้องพิจารณาคดีก่อนเริ่มกระบวนการ
ในช่วงเริ่มต้นของการพิจารณาคดี ยุนจะต้องกล่าวยืนยันชื่อ วันเกิด อาชีพ และที่อยู่ของตนตามขั้นตอนทางกฎหมาย ก่อนที่ฝ่ายอัยการจะยื่นคำฟ้องอย่างเป็นทางการ ซึ่งยุนคาดว่าจะให้การปฏิเสธ และอาจยื่นคำร้องขอให้มีโอกาสแถลงต่อศาลด้วยตนเอง
คดีนี้ได้รับความสนใจจากทั่วประเทศ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจทหารแทรกแซงสถาบันนิติบัญญัติ โดยวันจันทร์นี้ พยาน 2 รายสำคัญที่จะขึ้นเบิกความ ได้แก่ โช ซองฮยอน ผู้บัญชาการหน่วยรักษาความปลอดภัยแห่งกรุงโซล (First Security Group) และคิม ฮยองกี หัวหน้าหน่วยรบพิเศษที่ 1 (First Special Forces Battalion)
ทั้งสองเป็นผู้ที่เคยเบิกความต่อศาลรัฐธรรมนูญในระหว่างการไต่สวนถอดถอน ว่าได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารระดับสูงในขณะนั้น ให้นำกำลังทหารเข้ายึดอาคารรัฐสภา และ “ลากตัว” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรออกมา ภายหลังยุนประกาศกฎอัยการศึกในคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2567
ยุนถือเป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 5 ของเกาหลีใต้ที่ต้องขึ้นศาลในคดีอาญา หลังจากอดีตผู้นำหลายคน เช่น พัค กึนเฮ และอี มยองบัก เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชันมาแล้วในอดีต
การพิจารณาคดีนี้นับเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของกระบวนการยุติธรรมในเกาหลีใต้ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของประเทศในการตรวจสอบและจำกัดอำนาจของผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดอย่างโปร่งใสและไม่ลอยนวลพ้นผิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! ศาลพิพากษาปลด “ยุนซอกยอล” พ้นตำแหน่ง เตรียมเลือกตั้งใหม่
- เกาหลีใต้ เคาะเลือกตั้ง 3 มิ.ย. หาผู้นำคนใหม่ หลัง “ยุนซอกยอล” พ้นเก้าอี้
- ไซต์อุโมงค์รถไฟใต้ดิน เกาหลีใต้ ถล่ม ติดใต้ซาก-สูญหาย 2 ราย
ภาพจาก : The Straits Times
ข่าวล่าสุด
