จีน ลั่นจะโต้กลับและสู้ถึงที่สุด หลังสหรัฐฯตั้งกำแพงภาษี 104%

จีน ลั่นจะโต้กลับและต่อสู้ถึงที่สุด ภายหลังจากรัฐบาลนายทรัมป์ ประกาศคำสั่งเพิ่มกำแพงภาษีต่างหากอีก 50% ทำให้กำแพงภาษีอยู่ที่ 104
จากกรณีที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นร้อยละ 104 หลังทางการจีนไม่ยอมถอนกำแพงภาษีของตนเองที่ตั้งไว้ร้อยละ 34 เพื่อตอบโต้สหรัฐอเมริกาไปก่อนหน้านี้ โดยขีดเส้นตายถึงวันอังคาร
โดยตัวเลขมาจาก 104 แบ่งเป็นร้อยละ 20 จากของเก่าเมื่อเดือนมีนาคม, ร้อยละ 34 จากนโยบายภาษีต่างตอบแทน และอีก 50 จากการตอบโต้การโต้กลับของจีน ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดสำนักข่าว SCMP รายงานว่า สื่อจีนรายงานว่าทางการจะโต้กลับและต่อสู้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตามทางจีนพร้อมจะหารือเรื่องนี้กับนายทรัมป์ แต่ว่าไม่ใช่ในแบบที่ทางการสหรัฐฯทำอยู่
ขณะที่นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนระบุว่า พวกเขากำชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะเล็งสร้างชุมชนที่มีเป้าหมายร่วมกัน และให้ความสำคัญกับการทูตและประเทศเพื่อนบ้าน จัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสมและเพิ่มความสัมพันธ์ในห่วงโซ่อุปทาน
ก่อนหน้านี้นายทรัมป์ ออกมาตรการกำแพงภาษีแบบครอบจักรวาล หรือที่เรียกว่า “วันปลดแอก” โดยสินค้าทุกชิ้นที่นำเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะโดนภาษีร้อยละ 10 โดยจะเริ่มในเวลา 0.01 น.วันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมยังประกาศนโยบาย ภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ต่อหลายสิบประเทศ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลทางการค้าด้วยมากที่สุด โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในอัตราครึ่งหนึ่ง จากอัตราภาษีที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะเริ่มในวันที่ 9 เม.ย.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทรัมป์” เอาจริง สั่งตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจีน 104% หลังจีนไม่ยอมถอย
- วิปรัฐบาล แถลงเลื่อน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ออกไปก่อน พิจารณาภาษีทรัมป์
- “ทรัมป์” ขู่ “จีน” แปะภาษีนำเข้าอีก 50% หากไม่ยอมถอย รวม 104%