ข่าว

เข้าสู่วันที่ 13! เจ้าหน้าที่กู้ได้อีก 1 ร่าง ยอดตายตึกถล่มขยับเป็น 22 ศพ

เข้าสู่วันที่ 13 กับปฏิบัติการตามหาผู้รอดชีวิตเหตุตึก สตง. ถล่ม โดยล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ศพ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขยับเป็น 22 ศพ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ปฏิบัติภารกิจตามหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง. ถล่ม ซึ่งวันนี้ถือเป็นปฏบัติการวันที่ 13 พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ศพ ทำให้ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 22 ศพ ส่วนผู้สูญหาย จำนวน 72 ราย

ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้รับศพผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย, มีชิ้นส่วนมนุษย์ 14 ชิ้น สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลแล้ว 18 ราย คืนศพให้แก่ญาติแล้ว 14 ราย

นอกจากนี้ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า วันนี้เข้ามาพบ พิสูจน์หลักฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ รวมถึง สำนักงานสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และ ดีเอสไอ เพื่อปรึกษาหารือกันแล้ววันนี้จะเข้าไปที่หน้าไซด์งาน และจะนัดวางแผนในการเข้าเก็บตัวอย่างภายในอาคารสตง. โดยเป็นไปตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้เข้าใจตรงกันในเรื่องของการเก็บพยานหลักฐานทั้งหมด

และวันนี้จะยังไม่มีการเก็บพยานหลักฐาน เพราะช่วงเวลา 11 โมงเป็นต้นไปทางกรุงเทพมหานครจะมีการใช้เครื่องจักรหนักในการทำงาน อาจจะเป็นการรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และจะมีการกำหนดระยะเวลาในการเข้าพื้นที่ และเก็บตัวอย่าง และพยานหลักฐานได้ ตั้งแต่ 8 โมงถึง 11 โมง โดยหลังจากที่ประชุม และได้ข้อสรุปแล้วจะวางแผนในการเข้าพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่าง

พร้อมบอกว่าทางกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ยังยืนหลักในเรื่องของการตรวจวัสดุ ที่อยู่ในมาตรฐานบังคับ ของมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยจะเข้าไปเก็บตัวอย่างของเหล็ก เนื่องจากเข้าไปวันแรกสามารถเก็บตัวอย่างได้แค่ประมาณหนึ่ง และหลังจากนี้จะเข้าไปตรวจสอบในจุดอื่นๆ และเก็บตัวอย่างเหล็กไปตรวจสอบ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button