ข่าว

หมอดู ‘พิธา’ แม่นมาก เคยเตือนแล้ว ทรัมป์คัมแบ็ก ไทยเจอขึ้นภาษีการค้า

ย้อนคำสัมภาษณ์ “พิธา” เตือนล่วงหน้า หาก “ทรัมป์” หวนคืนเก้าอี้ ห่วงไทยเสี่ยงเจอมาตรการกีดกันการค้า – ถูกมองเป็น “หลังบ้านจีน”

จากกรณี นโยบายภาษีกีดกันทางการค้า ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ “โดนัลด์ ทรัมป์” ดันมาตรการ “ภาษีตอบโต้” (Retaliatory Tariff) ประเทศทั่วโลก มีผลตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2025 โดยไทยถูกพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 37% จนเกิดกระแสชาวเน็ตแห่แชร์ บทสัมภาษณ์เก่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ที่เคยเตือนไว้แล้วว่าทรัมป์จะเดินหมากบนกระดานแบบนี้

ในการร่วมพูดคุยในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ คุณพิธาได้ คาดการณ์ถึงผลกระทบเชิงเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หาก “ทรัมป์” ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง โดยระบุว่า

“สิ่งที่ไทยต้องระวังคือ เราติดอันดับประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับ 12 ของโลก ซึ่งตอนปี 2016 สมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง เราโดนไปหนัก ตัวเลขค้าขายกับสหรัฐฯ หายไปกว่า 10%”

คุณพิธายังยกตัวอย่างกรณี เวียดนาม ซึ่งเคยถูกทรัมป์พุ่งเป้าหาว่าแทรกแซงค่าเงินหยวนเพื่อส่งออกเกินดุล โดยพ่วงชื่อ ประเทศไทย ไว้ในกลุ่มประเทศที่สหรัฐฯ กำลังจับตา เขาจึงแนะนำให้รัฐบาลไทย โดยเฉพาะ คุณพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ เตรียมวางแผนรับมือเชิงยุทธศาสตร์ไว้ล่วงหน้า

“การค้าระหว่างประเทศของไทย 20% อยู่ในอาเซียน 40% อยู่ในเอเชีย และอีก 40% คือระดับโลก ถ้าทรัมป์กลับมา เราต้องคิดให้ครบว่าจะทำการค้ากับอาเซียน จีน อินเดีย สหรัฐฯ และยุโรปอย่างไร”

อีกข้อกังวลสำคัญที่พิธาเน้นย้ำ คือภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่อาจถูกมองว่าเป็น “Backdoor of China” หรือ “ประตูหลังให้จีน” หากไม่มีการจัดสมดุลด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างรอบคอบ

“ถ้าสหรัฐฯ มองไทยว่าเป็นตัวแทนจีน หรือมีบทบาทในการช่วยเหลือจีนทางเศรษฐกิจ อาจมีการใช้มาตรการกดดันเราทางการค้า ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการเติบโตของ GDP ไทยได้”

บทสัมภาษณ์ดังกล่าว กลับมาได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจากทรัมป์กลับมานั่งตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ อีกครั้ง แล้วขึ้นภาษีที่ว่าจริงๆ แรงกดดันต่อประเทศคู่ค้าอย่างไทยต้องผชิญความเสี่ยงจากนโยบายภาษี “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First)

ทั้งนี้ การที่สหรัฐฯ เพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยถึง 36% นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า จะทำให้สินค้าของไทยมีราคาสูงขึ้นในตลาดสหรัฐฯ ลดความสามารถในการแข่งขัน จนยอดการส่งออกลดลง ​

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าภาษีดังกล่าวอาจทำให้การเติบโตของ GDP ไทยลดลงถึง 1.2 จุดเปอร์เซ็นต์ จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% ซึ่งหมายความว่า GDP อาจเติบโตเพียง 1.3% ในปี 2568 ​

ตอนนี้รัฐบาลไทยได้จัดตั้งทีมเจรจาเพื่อหารือกับสหรัฐฯ ในการลดผลกระทบจากภาษีดังกล่าว โดยมีการพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าและขยายตลาดการค้ากับประเทศอื่นๆ

เพื่อปรับสมดุลการค้า ไทยมีแผนที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เช่น ผลิตภัณฑ์เกษตร พลังงาน และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button