สหรัฐฯ แจงทำไมตั้งกำแพงภาษี 10% เกาะที่มีแต่เพนกวินและแมวน้ำ

ทางการสหรัฐฯ แจงทำไมตั้งกำแพงภาษี 10% เกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกดอนัลด์ เกาะที่มีแต่เพนกวินและแมวน้ำ ชี้ต้องการปิดช่องโหว่
จากกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาตรการกำแพงภาษีแบบครอบจักรวาล โดยสินค้าทุกชิ้นที่นำเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะโดนภาษีร้อยละ 10 โดยจะเริ่มในเวลา 0.01 น.วันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนี้ยัง ประกาศนโยบาย ภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ต่อหลายสิบประเทศ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลทางการค้าด้วยมากที่สุด โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในอัตราครึ่งหนึ่ง จากอัตราภาษีที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะเริ่มในวันที่ 9 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวนั้นพบว่ามีเกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกดอนัลด์อยู่ในรายชื่อพื้นที่โดนภาษี 10% ด้วย อย่างไรก็ตามทั้งเกาะนั้นเป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยมีเพียงแต่เพนกวินและสัตว์เท่านั้น และไม่มีคนเดินไปทางเยี่ยมชมนานกว่า 10 ปีแล้ว จนเป็นกระแสฮือฮาตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด สำนักข่าว BBC รายงานถึงประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติมหลัง ฮาวเวิร์ด ลุทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ให้สัมภาษณ์ว่าถ้าหากเขาปล่อยให้มีช่องว่าง ประเทศเหล่านี้ก็จะใช้ช่องว่างนั้นการเก็งกำไรอเมริกาผ่านประเทศเหล่านั้นมาหาเรา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รู้เรื่องนี้ดีและจะเขาเบื่อและต้องการจะซ่อมแซมเรื่องนี้
อย่าไงก็ตาม ดอน ฟาร์เรล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและการท่องเที่ยวออสเตรเลีย มองว่าเป็นความผิดพลาด และเป็นกระบวนการที่เร่งรีบจากทางสหรัฐฯ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เกาะร้าง มีแต่เพนกวินก็ไม่รอด โดน “ทรัมป์” ตั้งกำแพงภาษี 10%
- นายกฯ แถลงการณ์ท่าทีไทยต่อนโยบายสหรัฐฯ ขึ้นภาษี 36% ประชุม 8 เม.ย.นี้
- “ทรัมป์” ขู่ “จีน” แปะภาษีนำเข้าอีก 50% หากไม่ยอมถอย รวม 104%