เคลียร์ชัด พาสปอร์ตสีน้ำเงิน คืออะไร ทำไมพิเศษกว่าหนังสือประเภทอื่น หลัง “ฮอต” ไฮโซเก๊ ใช้หลอก คะน้า ริญญารัตน์ จนเชื่อสนิทใจ
แกะประเด็นร้อนต่อ หลัง “คะน้า ริญญารัตน์” เปิดใจผ่านโหนกระแสว่าเธอถูก “ฮอต” ไฮโซกำมะลอหลอกให้รักจนเสียทรัพย์ได้อย่างไร เพราะก่อนที่เจ้าตัวจะไปขอความช่วยเหลือกับ “กัน จอมพลัง” นั้น มีข้อมูลเผยว่านอกจากเธอแล้ว ยังมีหญิงสาวหลายคนที่โปรไฟล์ดี ๆ ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน
ตอนหนึ่งในรายการ “คะน้า” เล่าถึงหนึ่งในกลลวงที่ฮอตมักใช้จนเธอตายใจคือ พฤติกรรมที่ชอบใส่ชุดข้าราชการสีขาว พร้อมอ้างว่าสนิทกับนายกรัฐมนตรีและคนในวัง แถมมีการโชว์ว่ามี “พาสปอร์ตสีน้ำเงิน” ไว้ในครอบครองด้วย คะน้าจึงหลงเชื่อว่ามิจฉาชีพรายนี้เป็นข้าราชการยศใหญ่จริง
อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตท่านยังมีข้อสงสัยว่าพาสปอร์ตสีน้ำเงินที่คะน้ากล่าวถึง มีความพิเศษอย่างไร ใครสามารถถือครองได้บ้าง และแตกต่างจากพาสปอร์ตยังไง ทีมข่าวไทยเกอร์จึงขอเปิดข้อมูลพาสปอร์ตดังกล่าวแบบเคลียร์จบในบทความเดียว
หนังสือเดินทาง (Passport) คืออะไร?
หนังสือเดินทาง หรือ พาสปอร์ต คือเอกสารที่รับรองสัญชาติของผู้ถือและแสดงตน (identity) ซึ่งออกให้โดยรัฐบาลของแต่ละประเทศสำหรับใช้เดินทางระหว่างประเทศ โดยมีข้อมูลสำคัญที่ปรากฏบนหนังสือ คือ ชื่อ วันเดือนปีเกิด เพศ และสถานที่เกิดของผู้ถือหนังสือเดินทาง
ทั้งนี้หนังสือเดินทางไม่ได้ให้สิทธิ์ผู้ถือเข้าไปในประเทศอื่น และไม่ให้ความคุ้มครองหรือสิทธิอื่น ๆ ขณะอยู่ต่างประเทศ หากไม่มีข้อตกลงพิเศษ แต่ให้สิทธิ์แก่ผู้ถือในการเดินทางกลับประเทศที่ออกหนังสือให้, ความคุ้มครองจากข้อตกลงระหว่างประเทศ และสิทธิที่จะได้รับจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศผู้ออกหนังสือเดินทาง อย่างไรก็ดี หากหนังสือออกโดยประเทศหนึ่งที่อีกประเทศไม่รู้จัก ไม่มีความสัมพันธ์ หรือไม่ให้การรับรอบสถานะการเป็นประเทศ ประเทศผู้รับอาจไม่ให้บุคคลนั้น ๆ ใช้พาสสปอร์ตนั้น ๆ เข้าประเทศได้
พาสปอร์ต มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร
1. หนังสือเดินทางธรรมดา Ordinary Passport (หน้าปกสีน้ำตาล) : ออกให้สำหรับประชาชนทั่วไป หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี มี (ทั้งนี้สามารถขอหนังสือเล่มใหม่ที่มีอายุการเดินทาง 10 ปีได้ มีค่าธรรมเนียม 1,500 บาท) 66 หน้า
2. หนังสือเดินทางราชการ Official Passport (หน้าปกสีน้ำเงินเข้ม) : มีอายุไม่เกิน 5 ปี ผู้ถือต้องใช้ในราชการเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ในการเดินทางส่วนตัว มีข้อกำหนดให้ออกให้เฉพาะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่จัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภาซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ และบุคคลอื่นใดที่เดินทางเพื่อทำประโยชน์แก่ทางราชการตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุมัติ เท่านั้น
3. หนังสือเดินทางทูต Diplomatic Passport (หน้าปกสีแดงสด) : มีอายุไม่เกิน 5 ปี ไม่สามารถต่ออายุเพิ่มได้ มีข้อกำหนดออกให้เฉพาะบุคคลดังต่อไปนี้
3.1 พระบรมวงศ์และพระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
3.2 พระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้าและคู่สมรส
3.3 พระราชวงศ์และบุคคลสำคัญที่ราชเลขาธิการขอไปเป็นกรณีพิเศษ
3.4 ประธานองคมนตรี และองคมนตรี
3.5 นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี
3.6 ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา
3.7 ประธานศาลฎีกา รองประธานศาลฎีกา และประธานศาลอุทธรณ์
3.8 ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลปกครองสูงสุด
3.9 อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ
3.10 ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ
3.11 ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ
3.12 ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ ณ ส่วนราชการในต่างประเทศ คู่สมรส และบุตรในประเทศที่ประจำอยู่หรือทำการศึกษาอยู่ในประเทศอื่น แต่บุตรจะต้องอายุไม่เกิน 25 ปี
3.13 คู่สมรสที่ร่วมเดินทางไปกับบุคคลดังกล่าวในข้อ 3.2-3.8
3.14 บุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการหรือภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศ หรือภายใต้สถานการณ์พิเศษที่มีความจำเป็น หรือเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของประเทศไทย
4. หนังสือเดินทางชั่วคราว Temporary Passport (หน้าปกสีเขียว) : หนังสือเดินทางพระที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ มีอายุไม่เกิน 2 ปี
นอกจากหนังสือเดินทาง 4 ประเภทข้างต้นนั้น ยังมีเอกสารสำคัญประจำตัวเพื่อใช้แทนหนังสือเดินทาง Certificate of Identity (C.I.) ออกให้กรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางแต่หนังสือเดินทางหมดอายุ หรือสูญหาย และไม่สามารถทำหนังสือเดินทางใหม่ได้ทันตามกำหนดที่ต้องเดินทางกลับประเทศไทย
ทั้งนี้ C.I. สามารถใช้เดินทางกลับประเทศไทยได้เพียงอย่างเดียว และมีอายุใช้งาน 30 วัน หรือตามระยะเวลาที่ผู้ออกกำหนดนับจากวันที่ออก ผู้ที่ถือ C.I. อาจต้องได้รับการพิสูจน์สัญชาติไทยจากกองตรวจคนเข้าเมืองเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยด้วย
ทว่าภายหลังเพจ Drama-addict โพสต์ให้ข้อมูลเสริมว่าภาพที่ “คะน้า” ถ่ายคู่กับ “ฮอต” ในชุดขาวพร้อมสิ่งของคล้ายพาสสปอร์ตสีน้ำเงินวางข้าง ๆ นั้น ความจริงคือกล่องน้ำหอม Dylan Blue Pour Homme ของ Versace แบรนด์หรูระดับโลก ไม่ใช่หนังสือเดินทางราชการแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เราคงต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่าคำกล่าวอ้างที่เจ้าตัวมีพาสสปอร์ตสีน้ำเงินนั้นมีจริงหรือไม่ และหากเป็นความจริง ฮอตไปเอามาจากไหน เนื่องจากเท่าที่ข้อมูลปรากฏออกมา ฮอตไม่น่าใช่ข้าราชการที่มียศสูงจนได้รับหนังสือเดินทางระดับนี้แน่นอน
ทั้งนี้น้ำหอม Dylan Blue Pour Homme จะเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชายที่ให้กลิ่นสดชื่นจากพรรณไม้ โดยใช้ความสดของซิตรัส เบอร์กามอท และเกรปฟรุ้ต ให้ความรู้สึกหรูหราหนักแน่น ขณะที่ตัวกล่องถูกดีไซน์แบบเรียบ ๆ แต่โก้ด้วยเฉดสีน้ำเงินสด-ทอง พร้อมสัญลักษณ์ Medusa ตรงกลาง
อย่างไรก็ตาม ราคากลางของน้ำหอมดังกล่าวจะอยู่ที่อประมาณ 2,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำหอม หากผู้ขายรายย่อยนำมาเทแบ่งขาย ราคาก็จะปรับเปลี่ยนไป แต่โดยรวมจะไม่หนีไปจากเรทราคานี้มากนัก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ขุดประวัติ “ฮอต” ไฮโซเก๊ หุ่นหมีลวงโลก สร้างโปรไฟล์หรู ตุ๋นดาราสาววิกหมอชิต
- เปิดยอดเงิน ‘ไฮโซฮอต’ มีในบัญชี ใช้อวดสาว เยอะระดับมหาเศรษฐี
- ผบช.ไซเบอร์ ยอมรับถูก “ไฮโซฮอต” ปลอมไลน์ เตรียมเอาผิด
ข่าวล่าสุด
