จับตาวันนี้! “นายกอิ๊งค์” หารือวิธีรับมือ โดน “ทรัมป์” ตั้งกำแพงภาษีร้อยละ 36

จับตาวันนี้ นายกอิ๊งค์ หารือวิธีรับมือ ภายหลังจากที่โดนผู้นำสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีร้อยละ 36 ยืนยันทำทุกวิถีทางป้องกันผลประโยชน์ชาติ
จากกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศนโยบาย ภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ต่อหลายสิบประเทศ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลทางการค้าด้วยมากที่สุด โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในอัตราครึ่งหนึ่ง จากอัตราภาษีที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะเริ่มในวันที่ 9 เม.ย. ส่งผลให้ไทยโดนภาษีร้อย 36 ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยประกาศว่า ในวันอังคารที่ 8 เมษายนนี้ หลังจากประชุมสรุปกับคณะกรรมการและทุกหน่วยงานอีกครั้งหนึ่ง จะสรุปแนวทางเพื่อผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญ และขอเรียนย้ำอีกครั้ง ว่ารัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อสร้างฐานเศรษฐกิจไทยให้มั่นคง แข็งแรง และเท่าทันโลก และเพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมีศักดิ์ศรีเพื่อประเทศไทยของเรา
พร้อมกันนี้มีรายงานว่าหลังจากการประชุม ครม. นายกรัฐมนตรีมีกำหนดที่จะประชุมติดตามความคืบหน้าการทำงานของคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐฯร่วมกับรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการและท่าทีในการเจรจากับสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ
ย้อนกลับไปนายกฯ ระบุว่า “รัฐบาลได้สรุปข้อเสนอเชิงนโยบายต่างๆ เช่นการเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในด้านพลังงาน อากาศยาน และ สินค้าเกษตร โดยประเทศไทยมีแผนที่จะสร้างความร่วมมือกับภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มอื่นๆ ที่มีส่วนได้เสียสำคัญในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ซึ่งมีรายละเอียดในนโยบายอีกมาก โดยขอให้มั่นใจว่าข้อเสนอเหล่านี้ ล้วนแต่คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศไทยเหนือสิ่งอื่นใด
นอกจากนี้ประเทศไทยจะมีการเจรจา เรื่องการส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯและลดเงื่อนไขการนำเข้าที่เป็นอุปสรรครวมไปถึงการปราบปราม การสวมสิทธิถิ่นกำเนิดสินค้าที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังสหรัฐฯ
ดิฉันมั่นใจว่า ข้อเสนอข้างต้นนี้ จะทำให้การเจรจากับสหรัฐฯ บรรลุผลเพื่อให้ประเทศไทยและสหรัฐ ฯ ยังคงเป็นพันธมิตรและคู่ค้าที่เป็นมิตรต่อกัน
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีอีกหลายมาตรการที่พร้อมจะรับฟังและพูดคุยเพิ่มเติมกับสหรัฐฯ และขอให้ความมั่นใจว่าข้อเสนอที่รัฐบาลเตรียมไว้ ล้วนคำนึงถึงประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญและเพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบธุรกิจของเราและคนที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจไทยทุกท่าน
ดิฉันขอให้คำมั่นว่า ทุกท่านไม่ได้โดดเดี่ยว ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาเร่งด่วนในระยะสั้น และระยะยาวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้ง SME และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการเร่งขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ อีกทั้งยังจะเป็นการกระจายความเสี่ยงของภาคธุรกิจไทย ที่เรามุ่งมั่นที่จะเจรจาการค้า ในการเปิดตลาดใหม่ๆ ในตะวันออกกลาง ยุโรป และ อินเดีย โดยจะเร่งเจรจาการค้า FTA ให้เร็วยิ่งขึ้น”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นายกฯ แถลงการณ์ท่าทีไทยต่อนโยบายสหรัฐฯ ขึ้นภาษี 36% ประชุม 8 เม.ย.นี้
- “ทรัมป์” ขู่ “จีน” แปะภาษีนำเข้าอีก 50% หากไม่ยอมถอย รวม 104%
- เปิดลิสต์ 15 สินค้าส่งออกไทย อ่วมภาษีสหรัฐ 36% มือถือ-อิเล็กฯ-ยานยนต์ สาหัส