ข่าวต่างประเทศ

สลด เฒ่าเดนมาร์ก ดื่มน้ำมะพร้าวเน่า เชื้อราขึ้นสมอง เสียชีวิตใน 26 ชม.

อุทาหรณ์ เฒ่าเดนมาร์กอายุ 69 ปี เสียชีวิตจากสมองตายภายใน 26 ชั่วโมง หลังดื่มน้ำมะพร้าวเน่า สุดท้ายพบในตัวผลมีเชื้อราชนิดอันตราย

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศ รายงานเหตุการณ์การเสียชีวิตของ ชายชาวเดนมาร์ก เมืองออร์ฮุส วัย 69 ปี จากภาวะสมองตายขณะรักษาตัวโรงพยาบาล หลังดื่มน้ำมะพร้าวเพียงอึกเดียวภายในเวลาเพียงหนึ่งวันเท่านั้น โดยมีภรรยาผู้เสียชีวิตเล่าว่า

ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน เจ้าตัว (ผู้เสียชีวิต) ได้ซื้อมะพร้าวที่ถูกปอกเปลือกและเจาะเปิดไว้แล้ววางทิ้งไว้บนโต๊ะในครัว กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้เสียชีวิตได้ดื่มน้ำมะพร้าวและพบว่าลักษณะรสชาติและกลิ่นแปลกกว่าปกติ จึงผ่าเปลือกออกดู ก่อนพบว่าเนื้อมะพร้าวเน่าเสียแล้ว

ต่อมาประมาณ 3 ชั่วโมงให้หลัง ผู้เสียชีวิตมีเหงื่อออกมาก คลื่นไส้ และอาเจียน ภรรยาจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลทันที โดยตอนนั้นผู้เสียชีวิตมีอาการ สับสน มึนงง เดินเซ ผิวหนังซีดและเย็น ผลตรวจ MRI ที่โรงพยาบาล และพบว่ามีภาวะสมองบวมรุนแรง ก่อนเสียเสียชีวิตหลังเข้ารักษาเพียง 26 ชั่วโมงเท่านั้น

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

ทั้งนี้ผลชันสูตรศพและการตรวจสอบมะพร้าวพบว่า ในผลมะพร้าวมีเชื้อราชนิดหนึ่งชื่อ อาร์ทิริเนียม ซัคชาริโคลา (Arthrinium saccharicola) ซึ่งเชื้อนี้สามารถสร้างสารพิษที่ชื่อว่า กรดทรี-นิโตโพรพิโอนิก (3-nitropropionic acid) ซึ่งเป็นพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง และก่อให้เกิดอาการสมองบวมอย่างรุนแรง

ด้าน นพ.โธมัส เบอร์เคลันด์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอาร์ฮุส ประเทศเดนมาร์ก ระบุว่า พิษจากสาร 3-nitropropionic acid นั้นมีฤทธิ์รุนแรงและออกฤทธิ์เร็วมาก โดยระยะแรกจะทำให้เกิดอาการในระบบทางเดินอาหาร ทั้งอาเจียนและท้องร่วง เมื่อรุนแรงขึ้นจะมีภาวะสมองเสื่อมทำให้โคม่าและเสียชีวิตในที่สุด

ขณะที่นพ.ซามูเอล ชูดูรี แพทย์เวชศาสตร์จากประเทศสิงคโปร์ เตือนว่า “มะพร้าวที่ผ่านการปอกเปลือกและเจาะเปิดไว้ล่วงหน้า จะทำให้น้ำและเนื้อมะพร้าวสัมผัสอากาศ ทำให้เน่าเสียได้เร็วมาก เพียงแค่ดื่มไปหนึ่งอึกจากมะพร้าวที่เน่า ก็อาจเกิดภาวะพิษรุนแรงถึงชีวิตได้”

ภาพจาก mirror

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

yo

นักเขียนข่าว บทความทั่วไปประเภทไลฟ์สไตล์ สำเร็จการศึกษาจากคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาปรัชญา มศก. ติดต่อได้ที่อีเมล yo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button