ประวัติ กนกนุช กลิ่นสังข์ จาก สก.เขตดอนเมือง สู่ประธาน กมธ. งบฯ กทม.

เปิดประวัติ “สก.กนกนุช กลิ่นสังข์” สก.ดอนเมือง ผู้คร่ำหวอดการเมืองท้องถิ่น สู่ใจกลางวิจารณ์ หลังชี้แจงเหตุตัดงบเตรียมรับมือแผ่นดินไหว 9 ล้าน อ้างโครงการไม่ชัด สวนทางผู้บริหาร กทม. ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม
ความตื่นตัวของสังคมต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบถึงกรุงเทพมหานคร ชื่อของ นางกนกนุช กลิ่นสังข์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตดอนเมือง สังกัดพรรคเพื่อไทย ถูกพูดถึงจากประเด็นเปิดเผยข้อมูลการตัดงบประมาณโครงการเตรียมความพร้อมรับมือแผ่นดินไหวในอาคารสูง ที่ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณปี 2568 เป็นผู้ชี้แจงเหตุผลต่อสภาฯ
เปิดประวัติ สก.กนกนุช กลิ่นสังข์
นางกนกนุช กลิ่นสังข์ (หนุ่ย) เกิดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ปัจจุบันอายุ 66 ปี เป็นชาวกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด และเป็นที่รู้จักในฐานะนักการเมืองท้องถิ่นเขตดอนเมือง
สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

เส้นทางการเมือง สองทศวรรษบนถนนสายท้องถิ่น
นางกนกนุช ก้าวสู่สนามการเมืองท้องถิ่นในฐานะ สก.เขตดอนเมือง อย่างน้อย 3 สมัย โดยข้อมูลระบุว่าเธอเคยดำรงตำแหน่งในช่วงปี พ.ศ. 2549-2553 และ พ.ศ. 2555-2557 ก่อนจะเว้นวรรคไป และกลับมาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยเริ่มดำรงตำแหน่งปัจจุบันเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
นอกเหนือจากงานในสภาฯ นางกนกนุชเคยมีประสบการณ์บริหารในตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการตลาดนัดกรุงเทพ (พ.ศ. 2553-2555) และเคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตดอนเมือง แม้ข้อมูลผลการเลือกตั้งครั้งนั้นจะไม่ชัดเจน
นอกจากนี้ เธอยังเคยดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระฯ ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสะท้อนประสบการณ์ทางการเมืองที่หลากหลายทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ในช่วงการเปิดตัวผู้สมัคร สก. ครั้งล่าสุด มีรายงานว่าชื่อของนางกนกนุชเคยปรากฏในรายชื่อว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐด้วย ก่อนที่เธอจะลงสมัครและได้รับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย
ตลอดการทำงานในฐานะ สก.ดอนเมือง นางกนกนุชเน้นย้ำบทบาทการเป็นตัวแทนรับฟังและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ ผ่านการอัปเดตเฟซบุ๊กอย่างสม่ำเสมอ และแฮชแท็กเฟซบุ๊ก #สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตดอนเมือง #กนกนุชกลิ่นสังข์สกหนุ่ย #ดอนเมืองให้กนกนุชดูแลนะคะ

บทบาทในสภาฯ กรุงเทพมหานคร
ในสภากรุงเทพมหานคร นางกนกนุชมีบทบาทสำคัญในคณะกรรมการชุดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2565-2566 เธอได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการวิสามัญถึง 2 คณะ คือ คณะกรรมการศึกษาความคุ้มค่าในการซ่อมแซมไฟฟ้าส่องสว่าง และคณะกรรมการศึกษาการก่อสร้างโรงพยาบาลให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม.
รวมถึงตำแหน่งรองประธานฯ และกรรมการและเลขานุการในคณะกรรมการวิสามัญที่สำคัญอีกหลายชุด เช่น คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาฯ, คณะกรรมการศึกษาปรับปรุง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม., และคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2566
ในปี พ.ศ. 2567 เธอยังคงมีบทบาทในฐานะกรรมการคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางโครงการชุมชนเข้มแข็งฯ และคณะกรรมการวิสามัญศึกษาสำรวจพื้นที่สาธารณะฯ
นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2565 อีกด้วย

ชนวนเหตุตัดงบแผ่นดินไหว จุดเปลี่ยนสู่การตรวจสอบ
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ สก.กนกนุช ตกอยู่ภายใต้แสงสปอตไลต์ เกิดขึ้นในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568 ซึ่งมีการพิจารณาญัตติด่วนเกี่ยวกับความปลอดภัยของตึกสูงหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว
ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 นางกนกนุชได้ชี้แจงถึงเหตุผลในการตัดงบประมาณจำนวน 9 ล้านบาท สำหรับโครงการจ้างที่ปรึกษาประเมินความเสี่ยงอาคารสูงกรณีแผ่นดินไหว ซึ่งฝ่ายบริหาร กทม. เสนอมาตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2567
สก.กนกนุช อธิบายว่า คณะอนุกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการดังกล่าวยังขาดความชัดเจน ข้อกำหนดขอบเขตงาน (TOR) ไม่ระบุวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และไม่ได้อธิบายว่าจะนำผลการประเมินไปใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติอย่างไร ทำให้เกรงว่าจะไม่เกิดความคุ้มค่า
เธอยังตั้งข้อสังเกตถึงงบประมาณบุคลากรที่สูงถึงเกือบ 40% (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ของงบทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าตนทำหน้าที่รายงานผลการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ต่อสภาฯ และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก
อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้นจริง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความเหมาะสมในการตัดงบประมาณด้านความปลอดภัย
ขณะที่ฝ่ายบริหาร กทม. โดยรองผู้ว่าฯ และผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ยืนยันถึงความจำเป็นของโครงการ ทั้งในการใช้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความแข็งแรงอาคาร และเป้าหมายสำคัญในการติดตั้งเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนในโรงพยาบาลเพื่อประกอบการตัดสินใจอพยพผู้ป่วย





อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แจงเหตุ ตัดงบแผ่นดินไหว 9 ล้าน โครงการไม่ชัด พร้อมไฟเขียวถ้าปรับปรุง
- ย้อนรอย ที่ประชุม สก. เคยตัดงบจ้างที่ปรึกษาแผ่นดินไหว กทม. เหตุไม่จำเป็น
- ประวัติ ประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. ผู้เซ็นสัญญาสร้างตึก
อ้างอิง: bmc.go.th, พรรคเพื่อไทย