เกาะร้าง มีแต่เพนกวินก็ไม่รอด โดน “ทรัมป์” ตั้งกำแพงภาษี 10%

เป็นเพนกวินก็ไม่รอด หลังพบว่าเกาะแม็คดอนัลด์และเกาะเฮิร์ด สองพื้นที่ออสเตรเลียที่ไม่มีคนอยู่อาศัย ก็โดนตั้งกำแพงภาษี 10%
จากกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาตรการกำแพงภาษีแบบครอบจักรวาล โดยสินค้าทุกชิ้นที่นำเข้าสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะโดนภาษีร้อยละ 10 โดยจะเริ่มในเวลา 0.01 น.วันเสาร์ที่ 5 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนี้ยัง ประกาศนโยบาย ภาษีต่างตอบแทน (reciprocal tariff) ต่อหลายสิบประเทศ ที่สหรัฐฯ ขาดดุลทางการค้าด้วยมากที่สุด โดยจะเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศเหล่านี้ในอัตราครึ่งหนึ่ง จากอัตราภาษีที่ประเทศเหล่านี้ตั้งไว้ต่อสินค้าจากสหรัฐฯ โดยจะเริ่มในวันที่ 9 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดเว็บไซต์ เดอะการ์เดียน รายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีเกาะเฮิร์ดและหมู่เกาะแมกดอนัลด์อยู่ในรายชื่อพื้นที่โดนภาษี 10% ด้วย อย่างไรก็ตามทั้งสองเกาะนั้นเป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัยมีเพียงแต่เพนกวินและสัตว์เท่านั้น และไม่มีคนเดินไปทางเยี่ยมชมนานกว่า 10 ปีแล้ว
สาเหตุที่ชื่อของทั้งสองเกาะไปปรากฎอยู่ในกำแพงภาษีทรัมป์นั้น เป็นเพราะว่าทั้งสองเกาะเป็นอาณาเขตของประเทศออสเตรเลีย
ขณะนายแอนโทนี แอลบานีส นายกออสเตรเลีย กล่าวถึงการตั้งกำแพงภาษีในครั้งนี้ว่า ไม่ที่ไหนที่ปลอดภัยจากภาษี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทรัมป์” สั่งตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลก ไทยอ่วมโดน 36%
- ทรัมป์ขึ้นภาษีไทย 36% แนะทางรอดส่งออก ฝ่าพายุเศรษฐกิจเขย่าการค้าโลก
- นายกอิ๊งค์ ออกแถลง ท่าทีประเทศไทย หลังโดนทรัมป์โขกภาษี 36%
ติดตาม The Thaiger บน Google News: