เคลียร์ปมร้อน สก.กนกนุช แจงยิบ สาเหตุเหตุปัดตกงบ เครื่องวัดแผ่นดินไหว 9 ล้าน ชี้โครงการไม่ชัด ไม่ใช่เครื่องเตือนภัย แต่พร้อมไฟเขียวถ้าปรับปรุง
ตอบทุกคำถาม เคลียร์ทุกประเด็นร้อน หลังเกิดไวรัลคลิป ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ของบประมาณด้านความปลอดภัยถูกนำมาแชร์ว่อนจนเกิดดราม่าว่า สภา กทม. ปัดตกงบสำคัญ ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ได้แชร์ข้อมูลจากเพจ The Reporters ที่ระบุว่า ในการประชุมสภา กทม. วันนี้ 2 เมษายน 2568 นางกนกนุช กลิ่นสังข์ สก.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณฯ ปี 68 ได้ลุกขึ้นชี้แจงถึงเบื้องหลังการ ไม่อนุมัติ งบประมาณโครงการ จ้างที่ปรึกษาประเมินกำลังต้านทานแผ่นดินไหวในอาคารสูงฯ มูลค่า 9 ล้านบาท อย่างละเอียดทุกแง่มุม
สาเหตุที่แท้ โครงการไม่ชัดเจน?
สก.กนกนุช กางเอกสารชี้แจงเหตุผลที่คณะกรรมการฯ มีมติไม่เห็นชอบโครงการดังกล่าวในขณะนั้น เนื่องจาก ข้อเสนอโครงการและ TOR ขาดความชัดเจน ไม่ระบุว่าจะนำผลการประเมินจากที่ปรึกษา (ซึ่งใช้งบเกือบ 40% ของโครงการ) ไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์เชิงปฏิบัติอย่างไร ทำให้เกิดความกังวลว่าจะไม่คุ้มค่างบประมาณภาษีประชาชน
งบฯ 3 ล้านบาท ไม่ใช่การซื้อ เครื่องเตือนภัย ที่จะแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุ แต่เป็น เครื่องวัดการสั่นสะเทือน เพื่อใช้วัดค่า หลังจาก เกิดแผ่นดินไหวแล้ว เพื่อประเมินความแข็งแรงของอาคาร ว่าต้องอพยพหรือไม่ ที่สำคัญคือเป็น เครื่องที่ต้องสั่งทำหรือประดิษฐ์ขึ้นพิเศษ ไม่ใช่เครื่องมือที่มีขายทั่วไป
หากจะทำเรื่องป้องกันแผ่นดินไหว ควรเป็นโครงการที่ครอบคลุมกว่านี้ และมีแนวทางที่ชัดเจนกว่าการจ้างที่ปรึกษาเพื่อทำรายงาน
สภาฯ ย้ำ ไม่ขวางงบปลอดภัย แต่ต้องโปร่งใส คุ้มค่า
สก.กนกนุช ยืนยันว่า สภา กทม. พร้อมสนับสนุนงบประมาณด้านความปลอดภัยเสมอ ดังที่เคยอนุมัติโครงการอื่นๆ ที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติเสนอมาจำนวนมาก แต่ทุกโครงการต้องอยู่บนพื้นฐานของความชัดเจน โปร่งใส และคุ้มค่ากับภาษีประชาชน หากโครงการนี้มีการปรับปรุงรายละเอียด วัตถุประสงค์ และผลลัพธ์ให้ชัดเจน สก. พร้อมที่จะให้ความเห็นชอบแน่นอน พร้อมวอนประชาชนทำความเข้าใจข้อเท็จจริง อย่าเพิ่งตัดสินจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรือการสื่อสารที่มุ่งโจมตีทางการเมือง
ด้าน นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ผู้เสนอโครงการดังกล่าว ได้ชี้แจงเสริมว่า วัตถุประสงค์หลักของเครื่องวัดฯ คือเพื่อประเมินความปลอดภัยอาคารสำคัญ เช่น โรงพยาบาล หลังเกิดเหตุ เพื่อประกอบการตัดสินใจอพยพ ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลโครงสร้างอาคารจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ (ที่ปรึกษา) ควบคู่ไปด้วย
พร้อมยอมรับว่าครั้งก่อนอาจสื่อสารหรืออธิบายรายละเอียดโครงการได้ไม่ดีพอ หากมีการเสนอของบประมาณในลักษณะนี้อีก จะชี้แจงให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชัชชาติ เคยของบ 60 ล้าน ‘ควบคุมการก่อสร้าง’ แต่ถูกปัดตก ย้อนฟังแล้วปวดใจ
- “อังคณา” จวก “ผู้ว่า สตง.” หลังบอกสูดหายใจลึกๆ ก้าวพร้อมกัน ปมตึกถล่
- นายกอิ๊งค์ จี้ต้องหาคำตอบทั้งโลก ว่าเกิดอะไรขึ้น ปมตึก สตง. ถล่ม
ข่าวล่าสุด
