ภารโรงป่วยจิต คุกแค่ 6 ปี ฉี่ใส่ตู้กดน้ำ ทำเหยื่อสาวติดโรคร้ายตลอดชีวิต

Danita S.เผยแพร่: 25 มี.ค. 2568 16:27 น.| อัปเดต: 25 มี.ค. 2568 17:09 น.

ภารโรงโรคจิต ก่อเหตุพิเรนท์ ฉี่ใส่ตู้กดน้ำดื่ม-ขวดน้ำของพนักงานสาวหลายราย ทำเหยื่อติดโรคทางเพศรักษาไม่หายขาด สุดท้ายเจอคุกแค่ 6 ปี สังคมประณาม โทษไม่สาสม

สืบเนื่องจากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 เมื่อหญิง 54 ปีรายหนึ่ง ได้กลิ่นเหม็นผิดปกติจากตู้กดน้ำดื่มของพนักงาน ในสำนักงานแพทย์แห่งหนึ่งบนถนน East Freeway รัฐเท็กซัส ที่เธอทำงานอยู่ ด้วยเหตุนี้ นับแต่นั้นมาเธอจึงตั้งใจว่าจะดื่มน้ำจากขวดที่เธอเตรียมมาเองเท่านั้น

ต่อมาในปลายเดือนกันยายนของปีเดียวกัน เธอเริ่มสังเกตว่า ขวดน้ำที่เธอพกมาเองก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นแปลก ๆ ด้วยเหมือนกัน สุดท้ายพนักงานหญิงผู้นี้จึงตัดสินใจซ่อนกล้องแอบถ่ายไว้ที่คอมพิวเตอร์เพื่อสืบหาความจริง และแล้วภาพจากกล้องสอดแนมก็ได้เผยให้เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมด

ภารโรงชายรายหนึ่ง นามว่า “ลูซิโอ ดิแอซ” (Lucio Diaz) แอบลักลอบเข้าไปที่ออฟฟิศตอนกลางคืน จากนั้นก็ได้ปลดซิปกางเกงและสอดอวัยวะเพศลงไปในขวดน้ำที่พนักงานหญิงผู้นี้วางทิ้งไว้บนโต๊ะ ก่อนจะปัสสาวะลงไป

ไม่เพียงแต่ภาพที่ชี้ชัด เพราะผลการตรวจเชื้อในน้ำดื่มที่ปรากฏในบันทึกของศาล ก็ชี้ให้เห็นว่า พบการปนเปื้อนปัสสาวะในขวดน้ำของเธอจริง

ในระหว่างการสอบสวน ‘ลูซิโอ ดิแอซ’ รับสารภาพกับตำรวจว่า เขาได้ปัสสาวะใส่ทั้งตู้น้ำดื่มส่วนกลาง และขวดน้ำส่วนตัวของพนักงานคลินิกมาแล้วหลายครั้ง พร้อมให้เหตุผลว่า “เพราะรู้ดีว่าคนพวกนี้จะกลับมาดื่มน้ำพวกนี้อีกในวันถัดไป” ชายผู้นี้ยังอ้างด้วยว่า ตนเองมีอาการทางจิต เพื่อหวังจะลบล้างความผิดที่ได้กระทำลงไป

อ้างอิงจากผลการตรวจทางการแพทย์ ยืนยันว่า พนักงานหญิงหลายรายในคลินิกดังกล่าว รวมถึงหญิงวัย 54 ปี ที่เป็นผู้แจ้งความกับตำรวจนั้น ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อย่างโรคเริม (herpes) และโรคหนองในเทียม (chlamydia)

ด้วยเหตุที่เชื้อไวรัส HSV-1 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเริม เป็นเชื้อโรคที่สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงอื่น ๆ ได้ ทางอัยการจึงตัดสินใจดำเนินคดีกับ ดิแอซ ในความผิดฐานทำร้ายร่ายกายอย่างรุนแรง (aggravated assault) ซึ่งในกรณีนี้คือการใช้ของเหลวในร่างกายของเขา ที่มีเชื้อไวรัส Herpes Simplex 1 แพร่ให้ผู้อื่น

กระทั่งล่าสุด ศาลมีคำตัดสินว่า ชายคนนี้มีความผิดจริงในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นอย่างรุนแรง (aggravated assault) และถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นเวลา 6 ปี

แม้การกระทำผิดจะร้ายแรง แต่ศาลกลับไม่ได้มีคำสั่งให้ขึ้นทะเบียนดิแอซเป็นผู้กระทำผิดทางเพศ (sex offender) แต่อย่างใด ความไม่เป็นธรรมในส่วนนี้ได้สร้างความกังขาให้กับหลายฝ่าย ประกอบกับที่ทนายความของ ดิแอซ ยืนยันว่าลูกความของเขา สำนึกผิดต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป และได้ยื่นข้อตกลงรับสารภาพ เพื่อขอความเมตตาจากศาลให้ลดหย่อนโทษ กระแสวิพากษ์วิจารณ์จึงยิ่งโหมความรุนแรงมากขึ้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง