ภัยเงียบ เด็กแค่ 9 ขวบป่วยไขมันพอกตับ เพราะอาหารที่กิน

เคสอันตราย เด็ก 9 ขวบ อ้วนมาก BMI พุ่ง 32.1 เบื่ออาหาร แถมคลื่นไส้ แพทย์พบไขมันพอกตับเยอะ ส่งผลให้ตับอักเสบ เตือนภัยเงียบแม้ไม่มีโรคประจำตัว หมอแนะปรับพฤติกรรมด่วน
ใครว่าเป็นเด็กห่างไกลโรค เพจเฟซบุ๊ก Tensia แชร์ปัญหาสุขภาพที่หลายคนคาดไม่ถึงของเด็กวัย 9 ขวบ อ้วนมาตั้งแต่อายุยังน้อย มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) 32.1 มีอาการเบื่ออาหารและคลื่นไส้ ตรวจพบค่าตับขึ้นสูง แถมคนไข้ไม่มีโรคประจำตัว และไม่พบความผิดปกติใด ๆ นอกจากไขมันพอกตับเยอะ และเริ่มตับแข็ง
เด็กคนดังกล่าวอ้วนมากมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนอายุ 5 ขวบ มาตรวจที่โรงพยาบาล คาดว่าอัลตราซาวด์ พบว่า ค่าตับสูงขึ้น แพทย์จึงให้ปรับอาหารการกินครั้งใหญ่ ให้กินแบบ Mediterrenean หรือการทานโดยเน้นผัก ธัญพืช คาร์บเชิงซ้อน และลดคาร์บลง แต่ทางบ้านให้ความร่วมมือไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมาตรวจตามนัดเพื่อติดตามอาการ
จนกระทั่งเด็กชายเริ่มมีอาการปวดท้องทางขวา เบื่ออาหาร และคลื่นไส้ แต่ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ จึงมาตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์จึงได้ทำ CT หรือตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อหาสาเหตุของการปวดท้อง ปรากฏว่าไม่พบอะไรนอกจากตับมีสีจาง คล้ายมีอะไรแทรกอยู่ เมื่ออัลตราซาวด์ก็พบว่าเนื้อตับมีการสะท้อนเสียงได้มากขึ้น จึงส่งผู้ป่วยต่อไปยังแผนกทางเดินอาหารเด็ก

ต่อมา แพทย์ได้ตรวจหาสาเหตุทั้งหมด ตั้งแต่โรคแพ้ภูมิตัวเอง (ANA, anti-SMC), โรคพันธุกรรมบางชนิด (alpha1–antitrypsin level, ceruloplasmin) รวมทั้งไวรัสตับอักเสบ ฯลฯ แต่สุดท้ายก็ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ เพราะเด็ก 9 ขวบ มีภาวะอ้วนมาก หมอจึงสงสัยเรื่องไขมันพอกตับจากเมตาบอลิซึมผิดปกติมากที่สุด (Metabolic dysfunction associate fatty liver disease: MAFLD)
เมื่อแพทย์ตรวจด้วยชิ้นเนื้อตับ พบว่าเซลล์ตับเต็มไปด้วยไขมันแทรกเต็มไปหมด และที่น่าสยองคือมีลักษณะของพังผืดระดับหนึ่งแล้ว ตรวจไฟโบรสแกน (fibroscan) หรือการหาภาวะพังผืดในเนื้อตับและตรวจวัดปริมาณไขมันสะสมในตับ พบว่าตับเริ่มมีความแข็งเพิ่มขึ้นแล้ว สรุปคือเด็กชายไม่มีโรคประจำตัว มีแต่ภาวะอ้วนมาก จึงทำให้มีตับอักเสบจากไขมันพอกตับ และเริ่มมีอาการตับแข็ง
จากนั้น เด็กชายคนดังกล่าวได้รับการดูแลรักษา แก้อาการอาเจียน และส่งต่อไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านตับและโภชนาการ เพื่อวางแผนระยะยาว
เพจ Tensia เผยว่า “แม้เคสนี้จะค่อนข้างสุดโต่ง แต่มันน่ากลัวตรงที่เป็นข้อยืนยันว่า ต่อให้ยังเด็กอยู่ ถ้าอ้วนมากเกินไป ร่างกายเริ่มเปลี่ยนแล้ว ไม่จำเป็นต้องรออายุมากไขมันพอกตับบางคนเริ่มมีแล้ว ถึงจะไม่ถึงขั้นตับแข็งก็เถอะ” พร้อมทิ้งท้ายไว้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ช่วงอายุได้ ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไปดีที่สุด
ภัยเงียบจาก ‘ไขมันพอกตับ’ รู้ทัน ป้องกันได้
ไขมันพอกตับ ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่าโรคนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มคนอ้วน หรือผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม หากปล่อยทิ้งไว้ ไม่ดูแล อาจลุกลามกลายเป็นโรคร้ายแรงอย่าง ได้แก่ ตับแข็ง หรือ มะเร็งตับ
ข้อมูลจาก โรงพยาบาลศิครินทร์ เผยว่า ไขมันพอกตับเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น โรคประจำตัว พันธุกรรม และพฤติกรรมการกิน ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยมีดังนี้
1. การดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปจะถูกแปรรูปเป็นสารพิษและทำลายเซลล์ตับ และขวางการเผาผลาญไขมันในตับ ทำให้ไขมันสะสมจนกลายเป็นไขมันพอกตับ และอาจกลายเป็นโรคตับแข็ง มะเร็งตับได้
2. โรคประจำตัว หรือ ภาวะแทรกซ้อน เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ไขมันไปสะสมในตับ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญ เป็นต้น
3. พฤติกรรมการกิน ซึ่งอาหารการกินเป็นอีกหนึ่งปัจจุยที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการทานอาหารที่ไม่ถูกหลักดภชนาการอาจทำให้เสี่ยงอันตรายมากขึ้น ควนหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้
- อาหารแปรรูป หรือ อาหารที่มีไขมันสูงส่งผลเสียต่อตับ เช่น โซเดียม หรือน้ำตาล
- เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม หรือกาแฟ
- อาหารไขมันสูง หรือ ของทอด ของมัน รวมทั้งขนมหวาน และขนมขบเคี้ยว
ข้อมูลจาก : Tensia และ โรงพยาบาลศิครินทร์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นักโภชนาการญี่ปุ่น เตือนมื้อเย็น กิน 2 อย่างนี้มากไป เสี่ยงไขมันพอกตับ
- ไขมันพอกตับ อันตรายกว่าที่คิด เสี่ยงโรคร้ายเรื้อรัง รู้วิธีป้องกัน ก่อนสายไป
- เปิด 5 เมนู ตัวการโรค ไขมันพอกตับ ได้ยินชื่อมีอึ้ง มีแต่อาหารคู่คนไทย