ลูกค้าโวย กินปลาร้านดังเชียงใหม่ เจอเศษเซรามิก ฟันแตก เจ้าของร้านปัดรับผิดชอบ

yoเผยแพร่: 24 มี.ค. 2568 14:30 น.| อัปเดต: 24 มี.ค. 2568 15:02 น.

135

ลูกค้าโวย กินปลาร้านดังเชียงใหม่ เจอเศษเซรามิก ฟันแตก เจ้าของร้านปัดรับผิดชอบ

หนุ่มเซ็ง เผลอเคี้ยวเศษเซรามิกในเนื้อปลาซาบะจนฟันแตก เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังเชียงใหม่ ท้าให้แจ้งความเรียกค่าเสียหาย โยนผิดให้ซัพพลายเออร์

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Steve Suranant ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายเศษเซรามิกขนาดประมาณ 1 นิ้วที่ปะปนอยู่ในเนื้อปลาซาบะ และภาพฟันที่แตกหักของตนเอง เพื่อร้องเรียนร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ หลังพบเศษเซรามิกในอาหารที่สั่ง และไม่ได้รับการแสดงความรับผิดชอบจากเจ้าของร้านเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา

เมื่อแจ้งเรื่องกับพนักงาน เจ้าของร้านกลับปฏิเสธความรับผิดชอบ โดยอ้างว่าเศษเซรามิกไม่ใช่ภาชนะของทางร้าน และโยนความผิดให้กับซัพพลายเออร์ที่ส่งปลามาให้ พร้อมกับตั้งข้อสงสัยว่าผู้โพสต์อาจไปทำฟันมาก่อนหน้านี้แล้วหรือไม่

ข้อเสนอเดียวที่เจ้าของร้านหยิบยื่นให้คือ การไม่คิดค่าปลาซาบะจานดังกล่าว ทว่าหนุ่มเจ้าของโพสต์ยินดีจ่ายค่าอาหารทั้งหมด แต่ขอให้ทางร้านช่วยรับผิดชอบค่าทำฟันแทน โดยเจ้าของร้านกลับตอบว่า “ค่าทำฟันมันแพง จ่ายไม่ไหว ไปแจ้งความได้เลย” ผู้เสียหายจึงไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันรุ่งขึ้น แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ หากต้องการให้ร้านชดใช้ค่าเสียหาย ก็ต้องเป็นคดีแพ่ง

ต่อมา ในวันที่ 21 มีนาคม ผู้เสียหายเข้ารับการรักษาฟันที่แตก โดยมีค่าใช้จ่าย 1,200 บาท แพทย์แจ้งว่าโชคดีที่เศษเซรามิกไม่โดนส่วนสำคัญของฟัน ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้เสียหายกลับไปที่ร้านอีกครั้งเพื่อเจรจาเรื่องค่าเสียหาย เพราะค่าทำฟันไม่ได้สูงมาก แต่เจ้าของร้านยังคงปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นความผิดของซัพพลายเออร์ และกล่าวว่า “ยิ่งคุยเดี๋ยวก็ยิ่งทะเลาะกันอีก” เจ้าของโพสต์จึงถามกลับว่า “ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณจะทำอย่างไร” ก่อนได้รับคำตอบว่า “ก็ทำอะไรไม่ได้”

ผู้โพสต์ระบุว่าตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ตนไม่ได้รับการกล่าวคำขอโทษจากทางร้าน และเมื่อเล่าให้เพื่อนที่เป็นลูกค้าประจำก็รู้สึกผิดหวังกับท่าทีของเจ้าของร้านเช่นกัน จึงตัดสินใจยุติการเป็นลูกค้าของร้านอาหารเครือดังกล่าวทันที พร้อมแท็กหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รับทราบ ได้แก่ สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดเชียงใหม่, ผู้บริโภค, และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง