ปรบมือให้! “ประวิตร” ลุกอภิปราย เปิด 4 ประเด็นซักฟอก “นายกอิ๊งค์”

Nateetorn S.เผยแพร่: 24 มี.ค. 2568 09:36 น.| อัปเดต: 24 มี.ค. 2568 10:09 น.

383

ประวิตร ลุกอภิปราย ปิด 4 ประเด็นซักฟอก นายกอิ๊งค์ รับเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่กระฉับกระเฉงเหมือนตอนหนุ่มๆ สภาถึงกับปรบมือให้

จากที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือ เท้ง หัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะ จำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ ฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยอภิปรายวันที่ 24-25 มีนาคม 2568 เริ่มเวลา 08:00 น. วันลงมติ 26 มีนาคม 2568 เวลา 10:00 น. อาจเลื่อนเป็น 27 มีนาคม หากการอภิปรายยืดเยื้อนั้น

ภายหลังจากที่ เท้ง ณัฐพงษ์ อภิปรายเสร็จสิ้น ไฮไลท์สำคัญที่หลายคนรอคอยอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นอภิปรายต่อ โดยบิ๊กป้อม กล่าวว่า “น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจได้ บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรี

ประเด็นแรกการดำเนินนโยบายในด้านเศรษฐกิจผิดพลาดล้มเหลว วันนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเกิดปัญหาทุกข์ยาก ปัญหาปากท้องไม่ได้รับแก้ไขตามสัญญา พนักงานถูกเลิกจ้าง บริษัทห้างร้านปิดกิจการจำนวนมาก การแก้ไขไม่ตรงจุดผิดที่ ประชาชนเกิดปัญหาหนี้สิน ทั้งในระบบและนอกระบบ หนี้ครัวเรือนสูง 104%

ราคาข้าวโพด ข้าว มันสำปะหลัง พืชผลทางการเกษตร ตกต่ำ ตลาดหุ้นดำดิ่ง เศรษฐกิจไทยมืดมน รัฐบาลนิ่งเฉย ไม่มีมาตรการแก้ไข จริงๆผมพยายามเอาใจให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้สำเร็จนะครับ เพราะเห็นว่านายกเคยบริหารด้านเศรษฐกิจมาก่อน คงมีประสบการณ์ช่วยประเทศชาติได้บ้าง ปรากฎว่านายกฯไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น จน GDP ของไทยรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน และที่สำคัญตัดสินใจผิดพลาด ขาดความรู้ความเข้าใจ ตัดงบประมาณแสนล้านบาทที่ควรอัดฉีดเข้าเศรษฐกิจ แต่นายกนำเงินก้อนนี้ไปแจกเงินหมื่น ซึ่งธนาคารโลกและ IMF ได้เตือนแล้วว่าการแจกเงินหมื่นไม่ได้ผล ควรกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆแทน

ถ้านายกได้ศึกษาข้อมูลเศรษฐกิจทุกด้าน วันนี้คนไทยคงไม่ลำบากทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสเช่นนี้ ท่านจะนำพาประเทศให้รอดพ้นได้อย่างไร

ประเด็นต่อมา ผมห่วงประเทศชาติเป็นอย่างมาก จากการดำเนินการนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง คือเรื่อง MOU44 ที่วันนี้ท่านพารประเทศชาติสู่ความเสี่ยงต่อสูญเสียดินแดนและทรัพยากรทางทะเลมหาศาล ที่น่าเศร้าใจคือลูกเรือประเทศไทยที่นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะนำกลับมานี่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว ก็ยังไม่ได้กลับ ในฐานะที่ผมทำงานด้านความมั่นคงตลอดชีวิต ผมทราบดีงานด้านความมั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในหลายมิติ ผมเห็นใจที่เป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่ท่านไม่มีประสบการณ์ แต่เรื่องความมั่นคงของชาติสำคัญอย่างยิ่ง ประเทศชาติไม่ใช่เวทีที่จะให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือได้

ประเด็นที่สาม การบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะร่างกฎหมายประกอบสถาบันบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รัฐบาลพยายามจะผลักดัน มีช่องทำให้เกิดการทุจริต ขอย้ำว่ากาสิโนนำชาติไปสู่ความหายนะ อันตรายอย่างที่สุด เพราะจะทำให้สังคมอ่อนแอและเกิดธุรกิจสีเทาติดตามมาอีกมาก ซึ่งทุกวันนี้การปล่อยปะละเลย ทำให้ทุกวันนี้ประเทศไทย กลายเป็นแหล่งฟอกเงิน ธุรกิจสีเทา ปัญหายาเสพติด และพนันออนไลน์มากมายอยู่แล้ว

อีกประเด็นสำคัญคือนายกขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ท่านทำนิติกรรมอำพราง ยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ เพื่อเลี่ยงภาษี ถือเป็นการทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องในการถือหุ้นกอล์ฟอัลไพน์ ทั้งที่รู้ว่าเป็นที่ดินธรณีสงค์ ท่านไม่ควรจะนำไปแสวงผลประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้นท่านยังปล่อยปะละเลย ทำให้กระทบต่อาการปฏิบัติหน้าที่

ท่านประธานที่เคารพการที่บุคคลในครอบครัวของนายกรัฐมนตรีได้เรียกแกนนำพรรคการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า และบุคคลในครอบครัวนายกรัฐมนตรี ทำตัวมีอิทธิพลเข้าข่ายการครอบงำหรือไม่ เรื่องนี้ขอให้เป็นไปตามการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้องต่อไป ผลจะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง

ทั้งที่ผมกล่าวมา ไม่ใช่กล่าวหาด้วยอคติ แต่เป็นการกล่าวด้วยหลักฐาน สส.พรรคพลังประชารัฐ อีก 4 ท่านจะนำเสนอในรายละเอียดต่อ ขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และประชาชนที่รับฟัง ผมอาจจะพูดไม่เก่ง แต่กระฉับกระเฉงเหมือนตอนเป็นหนุ่มๆ ใช้ใจบันดาลแรงบริหารประเทศ บริหารประเทศให้สำเร็จหลายอย่าง ส่วนนายกเป็นคนหนุ่มสาวยังแข็งแรง บริหารประเทศด้วยสติปัญหาด้วยความอ่อนน้อม แต่หนักแน่นในหลักการ มากกว่าครอบครัวและพวกพ้อง ประชาชนจะยอมรับท่านเอง”

หลังจากที่ พล.อ.ประวิตร นั่งลงก็มีเสียงปรบมือให้ ก่อนที่ วันนอร์ ประธานสภาจะบอกว่าไม่ต้องปรบมือครับ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง