ทำไมการส่งคำสั่งในการเทรดจึงสำคัญที่สุด

อย่างที่ทราบกันดี การมีกลยุทธ์การเทรดที่แข็งแกร่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต่อให้กลยุทธ์จะดีแค่ไหนก็ไร้ความหมายอยู่ดี ถ้าไม่มีการส่งคำสั่งที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ เพราะในการเทรด “จังหวะ” คือหัวใจสำคัญ เนื่องจากราคาเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที รวมถึงความล่าช้าเพียงเสี้ยววินาทีอาจทำให้พลาดโอกาสดีๆ หรือเผชิญกับการขาดทุนที่ไม่คาดคิดได้เลย
ดังนั้น ความสำเร็จของเทรดเดอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ที่เก่งเท่านั้น แต่ระบบส่งคำสั่งที่รวดเร็วและเสถียรนับว่ามีบทบาทสำคัญ โดยบทความนี้จะอธิบายว่าทำไมการส่งคำสั่งถึงสำคัญ และระบบที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดได้อย่างไร
การส่งคำสั่งคืออะไรในการเทรด?
การส่งคำสั่งในการเทรด คือ กระบวนการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาและเวลาที่ต้องการ เกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์กดส่งคำสั่ง คำสั่งจะส่งผ่านโบรกเกอร์ไปยังตลาดอย่างเหมาะสม กล่าวได้ว่ากระบวนการนี้จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับระบบของโบรกเกอร์ ซึ่งมีผลต่อการได้ราคาที่ต้องการหรือเจอปัญหาราคาคลาดเคลื่อน (Slippage) และต้นทุนการเทรดที่สูงขึ้น ประเภทการส่งคำสั่งมีดังนี้:
- Market Execution: ส่งคำสั่งตามราคาที่ดีที่สุด ณ ขณะนั้น
- Instant Execution: ส่งคำสั่งในราคาที่กำหนด ถ้าราคานั้นไม่มีจะถูกปฏิเสธ
- Limit & Stop Orders: คำสั่งจะถูกดำเนินการเมื่อราคาแตะถึงราคาที่กำหนด
การเลือกประเภทการส่งคำสั่งและความเร็วของระบบส่งคำสั่งส่งผลต่อผลลัพธ์การเทรดโดยตรง ดังนั้นการส่งคำสั่งที่รวดเร็วถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการซื้อขายอีกด้วย ดูเพิ่มเติม
ทุกเสี้ยววินาทีมีความหมาย
ในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว ราคาสามารถเปลี่ยนได้ในเสี้ยววินาที ดังนั้นความล่าช้าเพียงแค่เสี้ยววินาทีอาจเป็นตัวตัดสินว่านักเทรดจะได้ราคาที่ต้องการหรือพลาดโอกาสจะเสียโอกาสเหล่านั้นไป โดยเฉพาะการเทรดช่วงข่าวออก (News Trading) ที่ตลาดจะตอบสนองต่อทิศทางในข่าวสำคัญแทบจะทันที หากระบบส่งคำสั่งไม่เร็วพอ โอกาสอาจหลุดลอยไปก่อนที่คำสั่งจะดำเนินการส่ง
ได้รับราคาที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
การส่งคำสั่งที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่การส่งคำสั่งให้ได้เท่านั้น แต่ต้องมั่นใจว่าได้ราคาที่ดีที่สุดด้วย ซึ่งระบบส่งคำสั่งที่ดีจะช่วยให้:
- เกิดราคาคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด ได้ราคาตามที่คาดไว้
- ได้สเปรดแคบ ช่วยลดต้นทุนการเทรดจากค่าสเปรดที่น้อย
- ส่งคำสั่งได้เร็วทันราคาตลาดก่อนการเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นก่อนการส่งคำสั่ง
ดังนั้น ถ้าระบบส่งคำสั่งไม่มีประสิทธิภาพ อาจทำให้เกิดราคาคลาดเคลื่อนได้มาก ส่งผลให้ได้ราคาที่แย่กว่าที่ต้องการ และเมื่อสะสมกันบ่อยครั้งก็จะกระทบกับกำไรโดยรวมในระยะยาว สมัครเลย
ในขณะที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญเพียงค่าสเปรดและค่าคอมมิชชัน แต่ความจริงแล้ว “ต้นทุนแฝง” จากการส่งคำสั่งที่ไม่มีประสิทธิภาพก็เป็นอีกหนึ่งต้นทุนสำคัญ หากใช้เวลาในการดำเนินการคำสั่งซื้อขายนานเกินไปราคาตลาดอาจเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้:
- ต้นทุนการเทรดสูงขึ้นจากราคาที่คาดเคลื่อน
- พลาดโอกาสทำกำไรเพราะราคาเปลี่ยนไป
- เสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วงตลาดผันผวน
การเลือกโบรกเกอร์ที่มีต้นทุนต่ำและระบบส่งคำสั่งที่เสถียร จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเทรดเดอร์ทุกคนว่าจะได้ราคาที่ดีที่สุดในการเทรดทุกครั้ง
ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
เมื่อคำสั่งซื้อขายดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้ เทรดเดอร์ก็จะมีสมาธิและมีวินัยในการเทรดให้เป็นไปตามแผน แต่ถ้าระบบส่งคำสั่งมีปัญหา เช่น คำสั่งไม่แม่นยำ หรือโดนปฏิเสธคำสั่งบ่อยๆ อาจทำให้เกิดอารมณ์เชิงลบในการเทรดได้ เช่น:
- รู้สึกหงุดหงิด เพราะ Stop Loss หรือ Take Profit ไม่ทำงานตามที่ตั้งไว้
- ขาดความมั่นใจ เพราะคำสั่งโดนปฏิเสธหรือแจ้งราคาใหม่บ่อย
- ตัดสินใจผิดพลาด เพราะการส่งคำสั่งไม่เสถียร
การมีระบบส่งคำสั่งที่มั่นคงและรวดเร็ว จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถยึดมั่นตามแผนการเทรดได้ดี ควบคุมอารมณ์ได้มากขึ้นแม้ในช่วงที่ตลาดผันผวน