พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ เผย เตรียมออกหมายเรียก “ดิว อริสรา” หากข้อมูลครบ ขอเวลาดูพยานหลักฐาน ยันต้องให้ความเป็นธรรม
วันนี้ (20 มี.ค.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณี เมย์-วาสนา อินทะแส หรือ มาดามเมนี่ มอบหมายให้ทนายอรรถชัย แจ้งอรุณ เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมในคดียักยอกทรัพย์ 62 ล้านของ “ดิว อริสรา” ว่า ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงต้องสอบหลายประเด็นเพื่อให้เกิดความชัดเจน
ส่วนกระแสการออกหมายเรียกดาราสาวนั้น ตนยืนยันว่ายังไม่มีการออกแต่อย่างใด เนื่องจากลักษณะของคดียักยอกทรัพย์นั้นต้องใช้ระยะเวลาในการสืบ-สอบสวน แถมต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกอีกด้วย และเบื้องต้นเท่าที่ฟังข้อเท็จจริงนั้น ตอนนี้เข้าข่ายแค่ยักยอกทรัพย์ ข้อหาอื่นยังไม่พบ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าคดีนี้จะเป็นแพ่งหรืออาญา ต้องดูรายละเอียดก่อน หากเจ้าตัวเอาของไปและเปลี่ยนแปลงเป็นทรัพย์สินตัวเองหรือผู้อื่นโดนทุจริต จะเป็นยักยอก ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
อย่างไรก็ดี ทราบมาว่า “ดิว” จะส่งทนายมาเข้าพบพนักงานสอบสวนในเวลา 11.00 น. แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะมาแจ้งในประเด็นไหน รู้เพียงติดต่อมาเข้าพบตำรวจเท่านั้น
ขณะที่ทรัพย์สินของ “มาดามเมนี่” ตกไปอยู่กับบุคคลที่ 3 จะมีความหรือไม่นั้น พ.ต.อ.เอนก ตอบว่าหากความผิดเดิมเป็นเรื่องยักยอกและสิ่งของนั้นตกไปอยู่กับบุคคลที่ 3 ต้องตรวจสอบก่อนว่าคน ๆ นั้นมีส่วนรู้เห็นก่อนหรือไม่ หากรู้และพฤติกรรมซ่อนเร้นก็จะเข้าข่ายรับของโจร อยู่ที่เจตนาว่าเมื่อรู้แล้วแสดงความบริสุทธิ์ใจอย่างไร แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องตรวจสอบก่อนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับบุคคลที่ 3 นั้น ๆ
แต่ถ้าสามารถพิสูจน์ทรัพย์สินได้ว่ามาจากการกระทำความผิด ตำรวจสามารถยึดได้เลย และหากผู้ที่ครอบครงทรัพย์สินตอนนี้ทราบว่าของเป็นทรัพย์ของมาดามเมนี่ ก็สามารถนำมาคืนกับเจ้าหน้าที่ได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องความเสียหาย ก็ต้องไปฟ้องไล่เบี้ยกับ “ดิว”
หากถามต่อว่าจำเป็นต้องเชิญ ดิว มาให้ปากคำหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้อยู่ไต้หวันนั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ถูกกล่าวหา หากตรวจสอบพบการกระทำผิด-ออกหมายเรียกแล้ว แต่ยังไม่มาพบเจ้าหน้าที่ ก็จะเข้าข่ายหลบหนี อย่างไรก็ดี ต้องดูมูลเหตุก่อน เจ้าตัวอาจติดภารกิจจนยังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา และข้อสังเกตเรื่องการทำธุรกิจสีเทาของดิวนั้น เบื้องต้นตนขอโฟกัสตรวจสอบคดีที่มาดามแจ้งเข้ามาก่อน
ส่วนข้อกังวลใจว่าทรัพย์สินจะตามกลับมายากและกระแสข่าวว่ามีสร้อยเพชร 26 ล้านตกไปอยู่กับ รัฐมนตรี พ. นั้น ตนยืนยันว่าตำรวจไม่ลำบากใจในการทำคดี หากรู้ว่าทรัพย์สินอยู่ที่ใดก็ต้องเรียกบุคคลนั้นมา ไม่จำกัดว่าเป็นใคร และเคสนี้ทรัพย์สินเป็นสิ่งของ ไม่ใช่เส้นทางการเงิน เป็นเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องแจ้งข้อมูลว่าของไปตกอยู่ที่ใครบ้าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนชีวิตหรู ดิว อริสรา ซื้อกำไลหรูยกเซ็ต เตือนสติ อย่าใช้เงินคนอื่น
- เพิ่งเฉลย! เพนท์เฮ้าส์หรู 700 ล้าน ดิว อริสรา ไม่ได้ซื้อ เช่าอยู่เดือนละ 8 แสน
- ดิว อริสรา ส่งทนายแจง ตร. ไม่ได้ตั้งใจหนีไปไต้หวัน ยันจะรีบกลับมาเคลียร์
ข่าวล่าสุด
