สื่อนอกแฉ สลัมพม่า กลางภูเก็ต เปิดโรงเรียนฟรี แอร์เย็นฉ่ำ รองผู้ว่าเตรียมแถลง

ยูทูบเบอร์ต่างชาติเผยคลิป “สลัมพม่า” กลางเมืองท่องเที่ยวภูเก็ต พบโรงเรียนลูกหลานแรงงานข้ามชาติ เรียนฟรี มีแอร์เย็นฉ่ำ รองผู้ว่าฯ เตรียมแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงบ่ายวันนี้
จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลังสื่อต่างชาติเผยแพร่คลิปวิดีโอเกี่ยวกับชุมชนแรงงานชาวพม่าขนาดใหญ่ใจกลางจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถูกระบุว่าเป็น สลัมต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และมีโรงเรียนสำหรับบุตรหลานแรงงานข้ามชาติที่เปิดให้เรียนฟรี พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ รวมถึงมีการเลี้ยงอาหารฟรีนั้น
ล่าสุด มีรายงานว่า ในวันนี้ 17 มีนาคม 2568 ช่วงบ่าย นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้เตรียมจัดงานแถลงข่าวอย่างเร่งด่วน ณ ห้องประชุมมุกอันดา ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าว ภายหลังสื่อต่างชาติให้ความสนใจนำเสนอข่าวนี้
สำหรับคลิปวิดีโอต้นเรื่องที่จุดประเด็นดังกล่าว เป็นผลงานของยูทูบเบอร์ชาวต่างชาติจากช่อง Ride with Gabi โดยมีชื่อคลิปว่า “ต่างชาติเปิดสลัมพม่ากลางภูเก็ต” โรงเรียนเรียนฟรีเปิดแอร์เย็นฉ่ำ ซึ่งเผยให้เห็นภาพหมู่บ้านลักษณะคล้ายสลัมที่มีชาวพม่าอาศัยอยู่ โดยมีการระบุค่าเช่าที่พักต่อเดือนอยู่ที่ 3,600 บาท และปรากฏภาพโรงเรียนที่เด็กๆ ลูกหลานชาวพม่าในจังหวัดภูเก็ตกำลังศึกษาอยู่ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 300 เมตร
ตามรายงานของยูทูบเบอร์ช่อง Ride with Gabi ระบุว่า ชุมชนนี้เป็นที่อยู่อาศัยของแรงงานชาวพม่าทั้งหมด และเด็ก ๆ ในชุมชนได้รับการศึกษาและอาหารจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง ซึ่งได้รับเงินทุนจากการบริจาคและความช่วยเหลือจากอาสาสมัครชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ได้เกิดกระแสความคิดเห็นที่หลากหลายจากชาวเน็ตจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่แสดงความกังวลและตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของชุมชนดังกล่าว อาทิ ข้อความที่ระบุถึงการปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือข้อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อเสนอแนะให้มีการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
จำนวนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาใน จ.ภูเก็ต 2568
อ้างอิงข้อมูลจาก สถานการณ์แรงงานจังหวัดภูเก็ต ประจำเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 ที่รวบรวมข้อมูลจาก สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต มีนาคม 2567 เปิดเผยว่า มีประชากรผู้มีงานทำทั้งหมดของจังหวัดภูเก็ตมี ประมาณ 340,399 คน อัตราการว่างงานค่อนข้างต่ำ โดยมีผู้ว่างงานหรือรอฤดูกาลประมาณ 3,018 คน อัตราการว่างงานที่ต่ำมักจะสัมพันธ์กับความต้องการแรงงานที่สูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มีการจ้างงานแรงงานต่างด้าว สิ่งนี้บ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่ตึงตัวโดยทั่วไปในภูเก็ต ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว
แรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียน (มีนาคม พ.ศ. 2567)
จำนวนแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมดในจังหวัดภูเก็ตคือ 103,892 คน ตัวเลขนี้รวมถึงแรงงานที่ผ่านกระบวนการขึ้นทะเบียนต่าง ๆ ภายใต้ข้อมติของรัฐบาลที่แตกต่างกัน การกล่าวถึงข้อมติของรัฐบาลที่แตกต่างกันบ่งชี้ว่ามีความพยายามเฉพาะเจาะจงในการขึ้นทะเบียนและจัดการแรงงานต่างด้าวในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นการตอบสนองต่อความต้องการแรงงานและลำดับความสำคัญเชิงนโยบายที่เปลี่ยนแปลงไป
แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา (มีนาคม พ.ศ. 2567)
แรงงานชาวเมียนมาจำนวนมากเป็นส่วนหนึ่งของแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียน โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 89,189 คน นี่เป็นตัวเลขที่ครอบคลุมล่าสุดสำหรับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาในจังหวัดภูเก็ตที่มีอยู่ในเนื้อหาที่ให้มา คิดเป็นประมาณร้อยละ 85.8 ของประชากรแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมดในจังหวัดภูเก็ตในขณะนั้น ความโดดเด่นนี้เน้นย้ำถึงการพึ่งพาแรงงานจากเมียนมาของตลาดแรงงานภูเก็ต
สถิติแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย
ตามข้อมูลที่กรมประชาสัมพันธ์ได้จากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กระทรวงแรงงาน ณ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 ประเทศไทยมีแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น 3,289,536 คน โดยในจำนวนนี้ แรงงานจากเมียนมามีจำนวน 1,198,920 คน
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ระบุว่า แรงงานต่างชาติในระบบประกันสังคมของไทยมีจำนวนกว่า 1.3 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากเมียนมา ลาว และกัมพูชา
นอกจากนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ThaiPublica ระบุว่า ณ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 แรงงานที่ได้รับอนุญาตทำงานตามมติ ครม. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 มีจำนวน 1,620,602 คน โดยในจำนวนนี้ แรงงานจากเมียนมามีจำนวน 1,364,828 คน
นายจ้างสามารถขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวยังไงบ้าง
การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยเป็นกระบวนการที่นายจ้างต้องดำเนินการเพื่อให้แรงงานต่างด้าวสามารถทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย โดยทั่วไป แรงงานต่างด้าวที่สามารถขึ้นทะเบียนได้ต้องมีนายจ้างและมีงานทำ รวมถึงแรงงานที่หลบหนีเข้าเมืองหรือมีเอกสารหมดอายุ
ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว
1. นายจ้างแจ้งข้อมูลคนต่างด้าวต่อเจ้าหน้าที่
- นายจ้างต้องแจ้งข้อมูลของแรงงานต่างด้าวต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขึ้นทะเบียนและรับแบบบัญชีรายชื่อ (Name List) ภายในวันที่กำหนด
2. ตรวจโรคต้องห้าม
- แรงงานต่างด้าวต้องเข้ารับการตรวจโรคต้องห้าม 6 โรค ภายในวันที่กำหนด
3. ซื้อประกันสุขภาพ
- แรงงานต่างด้าวต้องซื้อประกันสุขภาพตามประเภทงาน ภายในวันที่กำหนด
4. ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว
- นายจ้างต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนแรงงานต่างด้าว ภายในวันที่กำหนด
5. จัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics)
- แรงงานต่างด้าวต้องเข้ารับการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล ภายในวันที่กำหนด
6. จัดทำทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- แรงงานต่างด้าวต้องจัดทำทะเบียนประวัติและรับบัตรชมพู ภายในวันที่กำหนด
เอกสารที่ต้องใช้ในการขึ้นทะเบียน สำหรับนายจ้างบุคคลธรรมดา
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- แผนที่บ้าน
เอกสารที่ต้องใช้ในการขึ้นทะเบียน สำหรับนายจ้างนิติบุคคล
- สำเนาหนังสือรับรองบริษัท
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
- แผนที่สถานประกอบการ
สำหรับแรงงานต่างด้าว
- รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้ว จำนวน 6 รูป พื้นหลังสีขาว
- สำเนาหนังสือเดินทาง (ถ้ามี
- สำเนาวีซ่า (ถ้ามี)
- สำเนาใบอนุญาตทำงาน (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชนหรือเอกสารยืนยันตัวตนอื่นๆ ที่ประเทศต้นทางออกให้
นายจ้างสามารถยื่นคำขออนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ e-Workpermit (CLMV)
การปฏิบัติตามขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
การจ้างแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยถูกกำหนดและควบคุมโดยกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งแบ่งประเภทของแรงงานต่างด้าวตามมาตราต่าง ๆ ดังนี้
คนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย
1. มาตรา 59
- คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และประสงค์จะทำงาน ต้องยื่นขออนุญาตทำงานตามที่กำหนดในกฎหมาย
2. มาตรา 62
- คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน กฎหมายว่าด้วยปิโตรเลียม หรือกฎหมายอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องแจ้งต่อนายทะเบียนโดยไม่ชักช้า เพื่อให้ออกใบอนุญาตทำงานภายในเจ็ดวัน
คนต่างด้าวที่ทำงานในกรณีจำเป็นหรือเร่งด่วน
1. มาตรา 61
- คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อทำงานที่มีลักษณะจำเป็นหรือเร่งด่วน หรือเป็นงานเฉพาะกิจที่มีระยะเวลาทำงานไม่เกินสิบห้าวัน สามารถทำงานได้เมื่อแจ้งให้นายทะเบียนทราบ
คนต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำงานเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการเนรเทศหรือการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร
1. มาตรา 63
- คนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่สามารถส่งกลับได้ทันที อาจได้รับการผ่อนผันให้ทำงานชั่วคราวในบางประเภทงานที่กำหนด
คนต่างด้าวที่ไม่อาจผลักดันออกนอกราชอาณาจักรได้
1. มาตรา 63/1
ครอบคลุมคนต่างด้าวที่เคยมีสัญชาติไทยแต่ถูกถอนสัญชาติ, คนต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทยแต่ไม่ได้สัญชาติไทย, และคนต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน เช่น ชนกลุ่มน้อยหรือกลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพมาอยู่ในไทย
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. 2522 ซึ่งรวมถึงงานกรรมกร, งานกสิกรรม, งานก่อสร้าง, งานขายของหน้าร้าน, และอื่น ๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สื่อนอกตีข่าว แบงค์ เลสเตอร์ ดื่มเหล้าดับ จากแค่ “ท้าทาย” สู่ปมโศกนาฏกรรม
- สื่อนอกแฉ แคนาดา-สหรัฐ เคยเสนอรับ 40 อุยกูร์ในไทย ก่อนถูกส่งตัวกลับจีน
- เปิดวินาที ไซต์ก่อสร้างสะพานเกาหลีใต้ถล่ม ตาย 3 ศพ เจ็บ 6 ราย