“บิ๊กอ๊อด” สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เปิดหน้าแลก มาดามแป้ง นายกสมาคมฟุตบอลหญิง ร่อนหนังสือสอบถาม ลั่นขอหลักฐานรับเงินเดือน 32 ล้านที่กล่าวหาทั้งน้ำตานองวันแถลงเคลียร์หนี้ สยามกีฬา บวกดอกเบี้ยเกิน 360 ล้าน
จากกรณีที่ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงสรุปภาพรวมหลังเข้ามาบริหารงานในฐานะนายกฯ สมาคมลูกหนังหญิงคนแรกในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งไม่นานนี้เกิดการแพ้คดีฟ้องร้องกันในชั้นศาลซึ่งสดๆ ร้อนๆ ทางศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ สมาคมฟุตบอลฯ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นวงเงินกว่า 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยตั้งแต่มีคำสั่ง
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของกระกาศฟ้องไล่เบี้ยของมาดามแป้งกับทีมงานสมาคมฟุตบอลและสภากรรมการชุดเก่าทั้งหมดที่เป็นจำเลยในคดีดังกล่าว โดยหลังจากฟ้องไล่เบี้ยแล้วประมุขลูกหนังหญิงยังพาดพิง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกฯ สมาคมบอลคนเก่าที่เป็นคู่กรณีกันอยู่ในตอนนี้อีกว่า ได้แหกธรรมเนียมปฏิบัติด้วยการเป็นนายกสมาคมคนแรกที่รับเงินเดือนแม้ต่อมาจะอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวบริจาคคืนให้กับสมาคมแล้วก็ตาม แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหกลักฐานที่สามารถตรวจสอบได้ใดๆ ทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้ล่าสุด พล.ต.อ.สมยศ อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงมีการชี้แจงรายละเอียดในประเด็นนี้อีกครั้งโดยเป็นหนังสือถึง “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในวันนี้ (14 มี.ค.) โดยมีใจความว่า
เรียน นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามที่ คุณนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์และคณะ ได้แถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ซึ่งปรากฏข่าวของผมเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ โดยได้กล่าวอ้างว่าผมรับเงินเดือนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เดือนละ 1 ล้านบาท มูลค่ารวม 32 ล้านบาท ซึ่งอ้างว่าคืนกลับมาเป็นเงินบริจาคแล้ว แต่ยังหาหลักฐานไม่เจอนั้น
เพื่อความชัดเจนในข้อมูล “บิ๊กอ๊อด” สมยศ อดีตนายกบอลฯ ขอความอนุเคราะห์ มาดามแป้ง-สมาคมฟุตบอลไทยชุดปัจจุบัน ดังนี้
1. ขอทราบรายละเอียดการรับเงินเดือนจากสมาคมฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด จำนวนรวม 32,000,000 บาท ตามที่ท่านการอ้างในการแถลงข่าวและขอรับเอกสารหลักฐานที่มีการจ่ายเงินเดือนให้ผม รวมถึงเอกสารการจ่ายเงินให้กระผม นอกเหนือจากเงินเดือนในช่วงระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ
2. ขอคัดถ่ายเอกสารสำเนาหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ปีภาษี 2559 – 2566 ของผมที่ออกโดยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ในช่วงระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งบายกสมาสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ซึ่งผมได้มีหนังสือขอรับเอกสารจากท่านไป เมื่อ 14 มกราคม 2568 และมีหนังสือขอทราบความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากสมาคมฯ แต่อย่างใด
3. ผมได้บริจาคเงินที่ได้รับจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ให้แก่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นเช็คหลายครั้ง อาทิ ในปี 2560 เดือนมิถุนายน จำนวน 1,020,000 บาท, เดือนตุลาคมจำนวน 170,000 บาท, เดือนพฤศจิกายน 2560 จำนวน 170,000 บาท, ปี 2561 เดือนสิงหาคม 1,600,000 บาท, เดือนตุลาคม 3,600,000 บาท ฯลฯ เป็นต้น จึงขอทราบรายละเอียดและขอรับเอกสารการบริจาคเงินของผมให้แก่สมาคมฯ ทุกๆ ครั้งจากท่านด้วย
ก่อนหน้านี้ 12 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา บิ๊กอ๊อด สมยศ ให้สัมภาษณ์หลังมีการแถลงจากฟากฝั่งของนายกบอลคนปัจจุบัน โดยระบุตนเองอยู่ระหว่างกำลังรวบรวมข้อมูลและชี้แจงเป็นข้อๆ ไป ยืนยันไม่ได้ดูการไลฟ์แถลงข่าวจากมาดามแป้งแต่มาทราบข่าวภายหลัง โดยประเด็นที่มาดามแป้งแถลงและพาดพิงมาถึงนั้นกำลังรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมลำดับเหตุการณ์ก่อนจะมีการชี้แจง
ขณะเดียวกันหลังทำหนังสือส่งให้มาดามแป้งที่เป็นคู่กรณีปมฟ้องไล่เบี้ยนั้น พล.ต.อ. สมยศยืนกรานเช่นเดิมว่าตนเองได้ยื่นหนังสือถึงมาดามแป้งจริงเพื่อขอหลักฐานเกี่ยวกับเงินเดือนที่ถูกกล่าวอ้าง เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ตนได้รับค่าตอบแทนและค่าเบี้ยประชุมตามระเบียบของสมาคมฯ รวมถึงเงินเดือนจากบริษัท ไทยลีก จำกัด แต่จำนวนเงินน้อยกว่าที่นายกสมาคมฯ กล่าวอ้างจำนวนมาก โดยยืนยันว่าตัวเลข 32 ล้านบาทไม่เป็นความจริง
อีกทั้งค่าตอบแทนที่ได้รับจากสมาคมฯ ได้มอบคืนให้สมาคมฯ เป็นรูปแบบการบริจาคตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา แต่ไม่ทราบว่าข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ว่าได้รับเงินเดือนเดือนละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 32 ล้านบาทนั้น มาจากที่ใดและเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนใด จึงจำเป็นต้องทำหนังสือขอคัดถ่ายเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมทวงถามเอกสารที่เคยร้องขอไปก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ โดยขอให้สมาคมฯ จัดส่งเอกสารให้ตนภายใน 7 วัน.
ทั้งนี้ในส่วนของคดีพิพาทระหว่างสยามสปอร์ตกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้บทสรุปว่า สมาคมต้องจ่ายเงินพร้อมดอกเบี้ยให้อีกฝ่ายเป็นค่าชดใช้ทั้งสิ้น 360 ล้านบาท หลังมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นตั้งแต่ยุค พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เป็นนายกสมาคมฯ แต่มามีคำพิพากษาในยุคของมาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ที่เพิ่งบริหารงานมาครบ 1 ปีหับอีกเพียง 19 วัน
อ้างอิงจากการแถลงไปเมื่อ 3 วันก่อน มาดามแป้งระบุได้ตัดสินใจขอเรียนพบนายระวิ โหลทอง เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งจะไปหาทางออกร่วมกัน ขณะเดียวกันต้องเจรจากับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ในเครือทรู คอร์ปอเรชันฯ ที่เป็นงูกินหางกันอยู่ด้วย โดยนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในฐานะผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย คนแรกของทวีปเอเชียและคนที่ 7 ของโลก ยืนกรานสมาคมฯ จะเดินหน้าฟ้องร้องไล่เบี้ยกับทีมงานสมาคมฟุตบอลชุดเก่า โดยต้องการทำให้ถูกต้องในอันดับแรก คือ นำข้อเสนอเข้าที่ประชุมสภากรรมการอย่างเร่งด่วน.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สรุป มาดามแป้ง รับทั้งน้ำตา จ่ายสยามกีฬา 500 ล้าน จ่อพบระวิ-ฟ้องสมยศ
- สมยศ เลิกตั้งโต๊ะแถลง ยื่นหนังสือถึงมาดามแป้ง ขอหลักฐานรับเงินเดือน 32 ล้าน
- มาดามแป้ง แฉ สมยศ รับเดือนละ 1 ล้าน บอกบริจาคคืนยังหาไม่เจอ
ข่าวล่าสุด
