ชื่นชม! หนุ่มเข็นของเก่า เก็บเงินแสนได้ ส่งคืนตำรวจ เจ้าของเงินรับเข้าทำงานทันที

ชื่นชม “น้ำฝน” หนุ่มเข็นของเก่า เก็บเงินแสนได้ ส่งคืนตำรวจ เจ้าของเงินรับเข้าทำงานทันที เจ้าตัวเล่ายายสอนว่าไม่ใช่ของเรา ต่อให้เป็นเงินล้านก็คืน
นายบุญกอง มั่นเมืองปัก หรือน้ำฝน อายุ 28 ปี ปั่นจักรยานพ่วงรถเข็นของเก่า เข้ามาแจ้งความกับ สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ว่า บอกว่าตนเก็บเงินสดเป็นธนบัตร 1,000 บาท ได้ 1 ปึก ไม่ทราบว่าเป็นเงินของใคร จึงอยากให้ตำรวจช่วยตามหาเจ้าของ โดยเก็บได้อยู่ริมถนนกลางใหญ่-น้ำโสม หน้า บ.เมืองไทยแคปปิตอล สาขา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ตำรวจได้ทำการนับธนบัตรพบว่าเป็นจำนวน 100,000 บาท จึงได้ทำการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ก่อนที่จะพานายน้ำฝนไปทำการชี้จุดที่เก็บเงินสดได้ เพื่อจะได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน และทำการตรวจเช็กกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสว่าใครเป็นเจ้าของ
ระหว่างนั้นมีนางปิยะนุช ศรีทอง หรืออุ๊ อายุ 41 ปี ทำธุรกิจรับซื้อยางพารา ได้ขับรถกระบะมากับครอบครัวที่จุดเกิดเหตุ เพื่อมาตามหาเงินสดที่ทำหล่นหายไว้เช่นกัน จึงได้เชิญตัวทั้งหมดไปทำการสอบสวน และพิสูจน์ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่โรงพัก
ทางนางปิยะนุช ยืนยันได้ว่าเงินสดจำนวนดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร และทำตกไว้ในลักษณะไหน เมื่อพิสูจน์ได้แน่ชัดแล้ว จึงมอบเงินทั้งหมดคือแก่นางปิยะนุช
นางปิยะนุช เล่าให้ฟังอีกว่า แต่จากที่ไปเห็นสภาพบ้านแล้ว น้องเขาน่าสงสารมาก ต้องเก็บของเก่าขาย 10 วันเอาไปขายทีหนึ่ง ได้เงินมาไม่ถึง 500 – 600 บาท ถามชาวบ้านก็บอกน้องเป็นคนดี อยู่กับยาย 2 คน น้องน้ำฝนต้องหาเลี้ยงยายเพียงลำพัง น้องไม่มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
หลังจากนี้จะปรึกษากับครอบครัว จะหาทางช่วยเหลือน้องเพิ่มอีก อยากจะจ้างเขาไปดูแลสวนยาง หรือมาทำงานอยู่ที่ลายรับซื้อยาง คนดีดีแบบนี้หายาก เป็นการตอบแทนน้อง และส่งเสริมน้องให้มีรายได้เลี้ยงยายในอนาคต
ในเวลาต่อมาพ.ต.อ.ชัยศักดิ์ บูรณะบัญญัติ ผกก. สภ.กลางใหญ่ ได้เชิญนายน้ำฝน เพื่อมารับทราบข่าวดี โดยสามีภรรยาเจ้าของกิจการลานรับซื้อยางพารา และตกลงกันว่าจะรับนายน้ำฝน เข้าทำงานประจำที่ลานรับซื้อยาง
นายน้ำฝน เล่าว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ไม่ค่อยมีคนว่าจ้าง เวลาไม่มีคนจ้าง ตนก็จะปั่นจักรยานยนต์พ่วงรถเข็น 2 ล้อ ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เพื่อหาเก็บขยะรีไซเคิลไว้ขาย และทำมายังไม่ถึง 1 ปี
จักรยานตนได้เงินหมื่นดิจิตอลวอลเล็ตจากรัฐบาล แล้วไปซื้อมาในราคา 2,600 บาท เพราะอยากมีรายได้มาจุลเจือครอบครัว เมื่อก่อนตนจะเดินเก็บขยะ ถ้าวันไหนไม่มีใครจ้าง แล้วก็มีรถมารับซื้อที่บ้าน 10 วันถึง 15 วัน ถึงจะรวบรวมขาย
ส่วนเงินที่ตนเก็บได้เอามาแจ้งตำรวจติดตามหาเจ้าของและไม่เอาไปเป็นของตัวเองนั้น เพราะไม่ใช่ของเรา และเราไม่อยากได้ เพราะว่ายายเป็นคนสอนตนไว้ ถึงเก็บเงินได้เป็นล้านบาท ก็จะนำมาแจ้งความตามหาเจ้าของเช่นเดิม เพราะว่ามันไม่ใช่เงินของเรา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ชื่นชม! “หมอจารุบุตร” ใช้เวลา 5 ปี รักษาลุงป่วยเก๊าท์ มือ-เท้าผิดรูป จนหายดีปกติ
- สื่อญี่ปุ่นยกย่อง พยาบาลไทย ช่วยชีวิตชาวญี่ปุ่นหมดสติกลางสถานี