ข่าว

ดาวเสาร์ทุบสถิติ พบดวงจันทร์เพิ่ม 128 ดวง รวมเป็น 274 ดวง แชมป์เจ้าแห่งดวงจันทร์

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) เผยข่าวดี ดาวเสาร์ทุบสถิติ พบดวงจันทร์เพิ่มอีก 128 ดวง รวมมีทั้งสิ้น 274 ดวง ครองบัลลังก์ “เจ้าแห่งดวงจันทร์”

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ National Astronomical Research Institute of Thailand (NARIT) เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์ประกาศการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ “ดาวเสาร์” ครองตำแหน่ง ‘ดาวเคราะห์ที่มีดวงจันทร์มากที่สุดในระบบสุริยะ’ อย่างเป็นทางการ หลังค้นพบดวงจันทร์บริวารเพิ่มขึ้นอีกถึง 128 ดวง ส่งผลให้ดาวเสาร์มีดวงจันทร์ในครอบครองรวมทั้งสิ้น 274 ดวง ทิ้งห่างอันดับสองอย่างดาวพฤหัสบดีที่มีเพียง 95 ดวง

การค้นพบครั้งประวัติศาสตร์นี้ นำทีมโดย “เอ็ดเวิร์ด แอชตัน” (Edward Ashton) นักดาราศาสตร์จาก Institute for Astronomy and Astrophysics สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ชื่อดังแห่งไต้หวัน ทีมวิจัยชุดเดียวกับที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการค้นพบดวงจันทร์ใหม่ของดาวเสาร์ถึง 64 ดวง เมื่อปี 2023 โดยในครั้งนี้ ทีมวิจัยได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง ด้วยการค้นพบดวงจันทร์น้องใหม่เพิ่มอีกถึง 128 ดวง ตอกย้ำความเป็น ‘ราชาแห่งดวงจันทร์’ ของดาวเสาร์ในระบบสุริยะจักรวาล

ดวงจันทร์ที่ค้นพบใหม่ทั้ง 128 ดวงนี้ ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘ดวงจันทร์ที่ผิดปกติ’ (irregular moons) เนื่องจากมีวงโคจรที่อยู่ห่างจากดาวเสาร์มาก และมีลักษณะวงโคจรเป็นวงรีอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างจากดวงจันทร์ขนาดใหญ่ที่มีวงโคจรเป็นระเบียบกว่า

ดาวเสาร์ มีดวงจันทร์เพิ่ม
ภาพจาก : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน เอ็ดเวิร์ด แอชตัน เคยตีพิมพ์งานวิจัยที่ตั้งสมมติฐานอันน่าทึ่งว่า การชนกันของดวงจันทร์ดาวเสาร์ เมื่อราว 100 ล้านปีก่อน อาจเป็นต้นกำเนิดของกลุ่มดวงจันทร์ที่ผิดปกติเหล่านี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าดวงจันทร์ขนาดเล็กจำนวนมากของดาวเสาร์ อาจเคยเป็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่มาก่อน ก่อนที่จะถูกพุ่งชนจนแตกกระจายเป็นดาวเล็กดาวน้อย

อย่างไรก็ตาม การค้นพบดวงจันทร์ใหม่อีก 128 ดวงในครั้งนี้ ทำให้ เอ็ดเวิร์ด แอชตัน ต้องปรับแก้สมมติฐานใหม่ เนื่องจากลักษณะการกระจายตัวของดวงจันทร์บางกลุ่ม มีความซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายได้ด้วยการชนกันเพียงครั้งเดียว เขาจึงเชื่อว่า กลุ่มดวงจันทร์ที่ผิดปกติเหล่านี้ อาจเป็นผลมาจากการชนกันหลายครั้ง ทั้งจากเศษซากดวงจันทร์ที่กระจายออกมาชนกันเอง และเศษซากที่กระเด็นไปชนกับดวงจันทร์ดวงอื่น ๆ ที่โคจรอยู่รอบดาวเสาร์อยู่แล้ว จนเกิดเป็นกลุ่มดวงจันทร์ที่มีความซับซ้อนและวุ่นวายอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน

การตั้งชื่อ “ดวงจันทร์” ดาวเสาร์

ดวงจันทร์ขนาดใหญ่ของดาวเสาร์ที่ถูกค้นพบในยุคแรก ๆ มักถูกตั้งชื่อตาม ยักษ์ไททัน ในเทพปกรณัมกรีกโบราณ แต่เมื่อจำนวนดวงจันทร์ของดาวเสาร์เพิ่มขึ้น นักดาราศาสตร์จึงจำเป็นต้องขยายขอบเขตการตั้งชื่อ ไปใช้ชื่อเทพเจ้าจากตำนานของชนชาติอื่น ๆ เช่น ตำนานของชาวกอล (Gaul) ตำนานของชาวนอร์ส (Norse) และตำนานของชาวอินูอิตในแคนาดา (Canadian Inuit) และล่าสุด ดวงจันทร์ใหม่ทั้ง 128 ดวงนี้ อาจจะต้องถูกตั้งชื่อตามตำนานเทพเจ้าของชาวไวกิ้ง (Viking)

ดวงจันทร์ขนาดใหญ่ของดาวเสาร์ เช่น ไททัน (Titan) ไมมัส (Mimas) และรีอา (Rhea) มีมวลมากพอที่จะก่อตัวเป็นรูปทรงกลมได้ แต่ดวงจันทร์ขนาดเล็กที่ค้นพบใหม่ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่มีรูปร่างคล้ายมันฝรั่ง และไม่มีความสมมาตร คล้ายกับดวงจันทร์โฟบอส (Phobos) และดีมอส (Deimos) ของดาวอังคาร

อย่างไรก็ตาม รายงานการวิจัยฉบับนี้ ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ และยังอยู่ในขั้นตอนของการเผยแพร่ในเว็บไซต์ arXiv ซึ่งหมายความว่า ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการ peer review หรือการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขาเดียวกัน

ถึงอย่างนั้น การค้นพบดวงจันทร์ใหม่จำนวนมหาศาลของดาวเสาร์ในครั้งนี้ ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการทำความเข้าใจระบบสุริยะจักรวาล และกระบวนการก่อกำเนิดดวงจันทร์ ตอกย้ำให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความซับซ้อนของดาวเสาร์ในระบบสุริยะจักรวาล

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button