ผลทดสอบค่า SPF ครีมกันแดด อินฟลูเอนเซอร์ หลายแบรนด์ค่าไม่ตรงฉลาก

ผลทดสอบค่า SPF ครีมกันแดด แบรนด์อินฟลูเอนเซอร์ คนดังในโลกออนไลน์ ยอดผู้ติดตามเกิน 1 แสนคน 20 รุ่น/ยี่ห้อ ด้าน Ingu ชี้แจง
เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมกับ นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค แถลง ผลทดสอบค่า SPF ครีมกันแดด ซึ่งรวบรวมรายชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว จากผู้มีชื่อเสียงหรือผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่มีการโฆษณาต่อผู้บริโภค
โดยการทดสอบครั้งนี้ส่งตัวอย่างวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และเทียบข้อมูลโดยอ้างอิงตามประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่องการแสดงค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดดของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด พ.ศ.2560ภายใต้ พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558
โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภคกล่าวว่า การสำรวจเฝ้าระวังในครั้งนี้ เราเลือกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวโดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่ผู้มีชื่อเสียงหรือผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางโลกออนไลน์ บางคนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค บางคนเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ของสารที่มีการโฆษณาต่อผู้บริโภคและสารที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภค เพราะความเชื่อใจจึงทำให้ผู้บริโภคอาจละเลยการตรวจสอบเรื่องคุณภาพความปลอดภัยของตัวผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ และที่เราเลือกกลุ่มครีมกันแดดก็เนื่องจากเป็นสินค้าราคาค่อนข้างสูง และต้องใช้บ่อยในสภาพอากาศของเมืองไทย ผู้บริโภคจึงควรได้มีข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า
“เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้ารวมถึงป้องกันสิทธิผู้บริโภค จึงต้องมีกฎหมายออกมากำกับดูแล ทางสภาองค์กรของผู้บริโภค จึงเตรียมจัดทำ “ร่างจริยธรรมของอินฟลูเอนเซอร์” เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ต้องปรับตัวตามมาตรฐานทางจริยธรรมที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเนื้อหาใดได้รับการสนับสนุน การนำเสนอข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง และการใส่ใจผลกระทบระยะยาวต่อผู้ติดตามและสังคมโดยรวม” โสภณ กล่าว
ด้าน ทัศนีย์ แน่นอุดร บรรณาธิการนิตยสารฉลาดซื้อ และรองผู้อำนวยการ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า นิตยสารฉลาดซื้อสุ่มเก็บตัวอย่างสินค้าครีมกันแดดจากบุคคลมีชื่อเสียงหรือผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) จำนวน 20 รายการ โดยคัดเลือกจากผลิตภัณฑ์ที่มีอินฟลูเอนเซอร์เป็นเจ้าของหรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ ที่มียอดผู้ติดตามเกิน 1 แสนคนและความนิยมของตัวผลิตภัณฑ์ โดยสั่งซื้อจากร้านค้าออฟฟิเชียลรวม 20 ตัวอย่าง ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Tiktok shop 10 ตัวอย่าง, Shopee 9 ตัวอย่าง, Karmart (เว็บไซต์) 1 ตัวอย่างในช่วงระหว่างวันที่ 15-28 ม.ค.68 และส่งตัวอย่างวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล
จากนั้นเปรียบเทียบผลทดสอบ การแสดงค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดดของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดดโดยอ้างอิงตามประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง การแสดงค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดดของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด พ.ศ.2560 ซึ่งตัวอย่างที่สุ่มทดสอบมีการแสดงฉลากแสดงยี่ห้อ ดังนี้
-BEMIND HYA BRIGHT BODY SUNSCREEN บีมายด์ ไฮยา ไบรท์ บอดี้ ซันสกรีน
-NANGNGAM SUNSCREEN Lifting & Whitening นางงาม ซันสกรีน เซรั่ม ลิฟติ้ง แอนด์ ไวท์เทนนิ่ง
-Cho Blur & Cover Foundation โช เบลอ แอนด์ คัฟเวอร์ ฟาวเดชั่น
-THA BY NONGCHAT Acne ฑาบายน้องฉัตร แอคเน่ ซันสกรีน
-Elite CARE Reflected Snow Sunscreen อีลิทแคร์ รีเฟลค สโนว ซันสกรีน
-INGU Super-Light Soothing Sunscreen อิงกุ ซูเปอร์-ไลท์ ซูธธิ่ง ซันสกรีน
-INGU Aqua Defense Hybrid Sunscreen อิงกุ อควา ดีเฟนซ์ ไฮบริด ซันสกรีน
-eve’s HYBRID PROTECTOR SUN GELอีฟส์ ไฮบริด โพรเทคเตอร์ ซัน เจล
-BESTLOVE DAILY UV PROTECTION เบสท์เลิฟ เดลี่ ยูวี โพรเทคชั่น
-MOLECULOGY STARTER SUNSCREEN โมเลกุลโลจี้ สตาร์ทเตอร์ ซันสกรีน
-SIBLING DAILY AQUA SHIELD ALL UV SUNSCREEN ซิบลิ้ง เดลี่ อควา ชิลด์ ออล ยูวี ซันสกรีน
-BEMIND INORGANIC SUNSCREEN CERAMIDE SERUM บีมายด์ อินออร์แกนิก ซันสกรีน เซราไมด์ เซรั่ม
-BEMIND BEBASE ORGANIC SUNSCREEN บีมายด์ บีเบส ออร์แกนิก ซันสกรีน
-Cho PERFECT ALL IN 1 CC CREAM โซ เพอร์เฟค ออล อิน วัน ซีซี ครีม
-DR.MOM High Defence Sunscreen Natural ดอกเตอร์มัม ไฮ ดิเฟนซ์ ซันสกรีน เนเชอรัล
-Cho SKIN ORGANIC HYBRID SUNSCREEN SERUM โช ออร์แกนิค ไฮบริด ซันสกรีน เซรั่ม
-SEWA ULTRA HYBRID SUNSCREEN เซวา อัลตร้า ไฮบริด ซันสกรีน
-ROSEGOLD MIKU SUNLESS MILKY AQUA+ โรสโกลด์ มิกุ ซันเลส มิลกี้ อะควา พลัส
-EVE’S SMOOTH SUNSCREEN อีฟส์ สมูธ ซันสกรีน
-Smith TOTAL SUNSCREEN with Elix-IR & Liposhield HEV สมิทธิ์ โทเทิล ซันสกรีน
จากการทดสอบพบว่า
- ผลิตภัณฑ์มีการแสดงฉลากค่าประสิทธิภาพ SPF50 จำนวน 6 ตัวอย่างและ SPF50+ จำนวน 14 ตัวอย่าง (การแสดงค่า SPF50 หรือ SPF50+ หมายความว่าต้องมีค่า SPF ตั้งแต่ 50 ขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับของประสิทธิภาพในเกณฑ์สูงมาก)
- ผลิตภัณฑ์มีการแสดงค่า PA+++ จำนวน 2 ตัวอย่าง และ ค่า PA++++ จำนวน 18 ตัวอย่าง ( PA คือ ค่าความสามารถในการป้องกันรังสียูวีเอ โดยการแสดงค่า PA ที่มีเครื่องหมายบวก 3-4 ตัว หมายถึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีเอที่สูงขึ้น โดย PA+++ คือ มีค่า UVAPF อยู่ระหว่าง 8-<16 เป็นการแสดงประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีเอในระดับสูง และ PA++++ คือ มีค่า UVAPF อยู่ที่ตั้งแต่ 16 ขึ้นไป หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีเอในระดับสูงมาก)
ผลทดสอบค่าประสิทธิภาพ SPF พบว่า 15 ตัวอย่างแสดงฉลากค่า SPF ตรงตามผลทดสอบ โดยมี 5 ตัวอย่างที่มีค่า SPF ไม่ตรงกับที่แสดงไว้บนฉลาก ได้แก่
- INGU Super-Light Soothing Sunscreen อิงกุ ซูเปอร์-ไลท์ ซูธธิ่ง ซันสกรีน ผลทดสอบได้ 45.3 (ประสิทธิภาพสูง)
- Elite CARE Reflected Snow Sunscreen อีลิทแคร์ รีเฟลค สโนว ซันสกรีน ผลทดสอบได้ 29.2 (ประสิทธิภาพปานกลาง)
- BESTLOVE DAILY UV PROTECTION เบสท์เลิฟ เดลี่ ยูวี โพรเทคชั่น ผลทดสอบได้ 23.6 (ประสิทธิภาพปานกลาง)
- EVE’S SMOOTH SUNSCREEN อีฟส์ สมูธ ซันสกรีน ผลทดสอบได้ 11.4 และ Smith TOTAL SUNSCREEN with Elix-IR & Liposhield HEV สมิทธิ์ โทเทิล ซันสกรีน ผลทดสอบได้ 8.4 (ประสิทธิภาพต่ำ) สามารถดูเรื่องเกณฑ์การแสดงประสิทธิภาพได้ที่ หมายเหตุ)
ผลทดสอบ ค่าความสามารถในการป้องกันรังสียูวีเอ หรือ ค่า PA พบว่า 16 ตัวอย่างแสดงฉลาก PA ตรงตามผลทดสอบ โดยมี 4 ตัวอย่าง ที่มีการแสดงค่า PA ไม่เป็นไปตามที่แสดงไว้บนฉลาก ได้แก่
-Elite CARE Reflected Snow Sunscreen อีลิทแคร์ รีเฟลค สโนว ซันสกรีน (แสดงฉลาก PA++++) ผลทดสอบ 12.9 (UVAPF) หรือเทียบตามประกาศฯ คือ PA+++
-BESTLOVE DAILY UV PROTECTION เบสท์เลิฟ เดลี่ ยูวี โพรเทคชั่น (แสดงฉลาก PA++++) ผลทดสอบ 8.2 (UVAPF) หรือเทียบตามประกาศฯ คือ PA+++
EVE’S SMOOTH SUNSCREEN อีฟส์ สมูธ ซันสกรีน (แสดงฉลาก PA+++) ผลทดสอบ 4.4 (UVAPF) หรือเทียบตามประกาศฯ คือ PA++
และ Smith TOTAL SUNSCREEN with Elix-IR & Liposhield HEV สมิทธิ์ โทเทิล ซันสกรีน (แสดงฉลาก PA++++) ผลทดสอบ 3.9 (UVAPF) หรือเทียบตามประกาศฯ คือ PA+
ข้อสังเกต o การแสดงฉลากเรื่องค่าประสิทธิภาพ SPF50 รวมถึงค่าความสามารถในการป้องกันรังสียูวีเอ หรือ PA ที่พบว่ามีผลการทดสอบไม่ตรงกับที่กล่าวอ้างบนฉลากนั้น กฎหมายจะคุ้มครองประเด็นนี้อย่างไร
o ผลทดสอบค่า SPF ที่สูงกว่า 50 นั้น ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการป้องกันรังสียูวีบี เพราะกฎหมายกำหนดว่า สามารถแสดงค่าประสิทธิภาพได้แค่ 50 หรือ 50+ เท่านั้น ซึ่งจัดอยู่ในเกณฑ์ประสิทธิภาพสูงมากแล้ว
o จากการแสดงฉลากของผลิตภัณฑ์พบว่า การแสดงวันผลิต ที่ระบุของแต่ละผลิตภัณฑ์ มีการแสดงรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสน
ผศ.ภก.ปรุฬห์ รุจนธำรงค์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และที่ปรึกษานิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า หลักการใช้สารในเครื่องสำอาง ต้องดูในข้อกำหนด 2 ประเด็น นั่นคือ หากเป็น “วัตถุห้ามใช้ ” หมายถึง ต้องไม่มีสารนั้นอยู่ในส่วนผสมแม้แต่นิดเดียว” แต่หากเป็น “วัตถุอาจใช้ ” นั่นคือ มีการกำหนดปริมาณสารสูงสุดในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ หากเกินกว่านั้น จะกลายเป็นเครื่องสำอางที่มีวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางทันที จึงต้องดูว่าสารป้องกันแสงแดดเป็นสารชนิดไหน และใส่ลงในผลิตภัณฑ์เป็นไปตามปริมาณที่กำหนดหรือไม่
ส่วนเครื่องสำอางที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 50 ขึ้นไป กฎหมายไทยให้แสดงเป็น SPF50+ ถ้าฉลากเครื่องสำอางอ้างว่ามี SPF เท่าไหร่ แต่ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่ถึงตามที่อ้าง ฉลากเครื่องสำอางนั้นจะมีลักษณะที่ใช้ข้อความไม่เป็นความจริง เป็นฉลากที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของเครื่องสำอาง ฝ่าฝืน พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 มาตรา 22 วรรคสอง (1) ซึ่งมีบทลงโทษตามกฎหมาย กล่าวคือ หากยังมีการวางขายผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 67 วรรคสอง ส่วนผู้ผลิต ผู้นำเข้าจะมีโทษตามมาตรา 67 วรรคหนึ่ง คือ โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มา: ffcthailand
Ingu skin ชี้แจง ผลทดสอบทางแล็ป ส่งตรวจหลายที่ ค่าตรงฉลาก
หลังจาก สภาองค์กรของผู้บริโภคฯ แถลงเรื่องค่า SPF ทางแบรนด์ ingu ของ อิ๊ง-ชยธร กิติยาดิศัย ได้ออกมาชี้แจงว่า
“ทางแบรนด์ขออนุญาตชี้แจงจากประเด็นที่มีเพจพูดถึงค่า SPF ในสินค้า INGU Super-Light Soothing Sunscreen
ขอแสดงผลทดสอบที่ทางแบรนด์ได้ส่งตรวจค่า SPF ตามสถาบันเหล่านี้ ที่มีค่าเกิน 50+
ตรวจสอบแบบ In Vivo จำนวน 1 ครั้งที่
1. Solar Test Asia
ตรวจสอบแบบ In Vitro จำนวน 33 ครั้งที่
1. ศูนย์ทดสอบเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทางผิวหนัง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
2. Catalite
3. หน่วยวิจัยเครื่องสำอาง คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียดผลดูได้ตามรูปด้านล่าง
ค่า SPF ในครีมกันแดด สำคัญยังไง
SPF (Sun Protection Factor) คือ ค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้แดด (Sunburn) และอาจก่อให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ในระยะยาว วิธีวัดค่า SPF โดยทั่วไป จะใช้อาสาสมัครที่ผิวหนังไวต่อแสง (In Vivo Test) หรือบางครั้งทดสอบทางห้องปฏิบัติการด้วยอุปกรณ์เฉพาะ (In Vitro Test) เพื่อดูว่า ผิวที่ทาครีมกันแดดจะทนแดดได้นานขึ้นกว่าผิวที่ไม่ได้ทาเท่าไร
หากผลิตภัณฑ์ระบุ SPF15 หมายถึง ผิวที่ทาครีมกันแดดตัวนี้จะทนแดดได้มากกว่าเดิม 15 เท่า (เมื่อเทียบกับไม่ทาเลย) ก่อนที่จะเริ่มมีอาการไหม้แดง
ยิ่งตัวเลข SPF สูงขึ้น ปริมาณรังสี UVB ที่ผ่านเข้าผิวได้ก็จะยิ่งน้อยลง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องได้ 100% เสมอไป
ในประเทศไทย ตามกฎหมายหากค่า SPF ที่วัดได้จริงเกิน 50 ขึ้นไป บนฉลากต้องแสดงเป็น “SPF50+” เพื่อป้องกันความสับสน
ทั้งนี้ การที่บางผลิตภัณฑ์ระบุ SPF50 หรือ SPF50+ จะอยู่ในระดับประสิทธิภาพ “สูงมาก” ตามเกณฑ์กฎหมายไทยแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องประกาศตัวเลขให้เกินกว่านี้ (เช่น SPF100) เพราะอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดได้ว่าได้การปกป้องชนิด “สมบูรณ์” ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีครีมกันแดดใดที่ป้องกันได้ถึง 100%
ควรเลือก SPF เท่าไรดี?
SPF30 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ประมาณ 96.7% (หากใช้อย่างเหมาะสม)
SPF50 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ประมาณ 98%
SPF50+ เมื่อวัดได้เกิน SPF50 จะแสดงฉลากเป็น SPF50+ โดยจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเล็กน้อย แต่ต้องเข้าใจว่าตัวเลข SPF ที่สูงขึ้นไม่ได้เพิ่มอัตราการกัน UVB เป็น “สองเท่า” ดังนั้นอย่าคาดหวังว่าค่า SPF สูงมากจะปกป้องได้แบบ 100%
ดังนั้น หากต้องเผชิญแดดกลางแจ้งเป็นเวลานาน หรืออยู่ในกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เล่นกีฬากลางแจ้ง เที่ยวทะเล ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง (SPF50/50+) และมี PA+++ ขึ้นไป เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุมทั้ง UVA และ UVB
ที่ต้องพึงระลึกคือ แม้ว่า SPF จะสูง แต่ หากทาในปริมาณที่ไม่เพียงพอ หรือไม่ได้ทาซ้ำ ก็อาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ปริมาณครีมกันแดดที่แนะนำสำหรับใบหน้า โดยทั่วไปคือประมาณ 2 ข้อนิ้วชี้ (Finger Length) หรือ 1 ช้อนชาเล็กสำหรับทาทั่วใบหน้าและลำคอ
อย่าลืม ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากต้องอยู่กลางแดดนาน ๆ หรือมีเหงื่อออกมาก เพื่อให้ประสิทธิภาพการปกป้องผิวคงที่
รังสี UVA vs UVB
UVB เป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้แดด (Sunburn) ก่อให้เกิดอาการแสบแดง และอาจนำไปสู่มะเร็งผิวหนังในระยะยาว การวัด SPF คือการวัดการป้องกันรังสี UVB โดยเฉพาะ
ขณะที่ UVA เป็นรังสีที่ทะลุผ่านชั้นผิวลึกกว่า UVB ส่งผลให้ผิวแก่ก่อนวัย (ริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ) และอาจทำลายคอลลาเจนใต้ผิวหนัง อีกทั้งยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับมะเร็งผิวหนังบางชนิดด้วย
ครีมกันแดดส่วนใหญ่สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ แต่ต้องเลือกสูตรที่มีการระบุว่า “Broad-Spectrum” หรือมีค่าการป้องกัน UVA ชัดเจน เช่น PA+, PA++, PA+++ หรือ PA++++ เพราะรังสี UVA มีความยาวคลื่นยาวและสามารถทะลุเข้าสู่ชั้นผิวลึก จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ฝ้า กระ และอาจนำไปสู่มะเร็งผิวหนังได้ใน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทาครีมกันแดดก่อนนอนได้ไหม? สูตรไหนเหมาะทาตอนกลางคืน
- ครีมกันแดดทาตัว ใช้ทาหน้าได้ไหม เคล็ดลับผิวสวย ปลอดภัยจากแดด
- ไม่ทาครีมกันแดด ชำแหละ 5 ข้อเสีย อันตรายกว่าที่คิด
- ทากันแดด 2 ข้อนิ้ว เทคนิคทากันแดดง่าย ๆ ลดปัญหาผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ