สรุป มาดามแป้ง รับทั้งน้ำตา จ่ายสยามกีฬา 500 ล้าน จ่อพบระวิ-ฟ้องสมยศ

มาดามแป้งฟ้อง สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลหญิงแห่งประเทศไทย แถลงทั้งน้ำตา รับปัญหาใหญ่แพ้ดคี สยามสปอร์ต 360 ล้านบวกดอกเบี้ย มหากาพย์ศาลฎีกาสั่งแพ้คดีสื่อกีฬายักษ์ใหญ่ต้องจ่ายเกิน 500 ล้าน เผยเตรียมเข้าพบระวิ โหลทอง พร้อมคุยทรูวิชั่นเจ้าของลิขสิทธิ เร่งหาทางออกยื่นเรื่องด่วนเข้าสภากรรมการ ก่อนฟ้องไล่เบี้ยสมาคมชุดเก่าและสภากรรมการ หลังตรวจสอบทรัพย์สินปัจจุบันสมาคมมีเงินอยู่แค่ 27 ล้านเศษ หนี้สินอีก 132 ล้านบาท
วันนี้ (11 มี.ค.) มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยความคืบหน้ากรณีศาลฎีกาพิษากษาชดใช้ให้กับบมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท เป็นจำนวน 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี นัดถัดจากวันฟ้องร้อง จากกรณีที่ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ชดใช้เงินให้กับบริษัท สยามสปอรต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ในข้อหา “ยกเลิกสัญญาการบริหารสิทธิประโยชน์” ให้กับสมาคมฟุตบอลอย่างไม่เป็นธรรม จำนวน 360 ล้านบาท
ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวที่ ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา หลังจากมีการกล่าวถึงผลงานการเข้าบริหารงานสมาคมลูกหนังไทยครบวาระ 1 ปี โดย นวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง เริ่มดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นการเข้ามาสืบทอดหัวโขนประมุขลูกหนังบอลไทย ต่อจากพล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลคนเก่า โดยนับถึงวันนี้ก็ผ่านเวลามาแล้วกว่า 1 ปี กับ 31 วัน ที่ทัพช้างศึกอยู่ภายใต้การบริหารของอดีตกรรมการผู้จัดการ บ.เมืองไทยประกันภัย
มาดามแป้งเผยว่าจากตัวเลขดังกล่าวเมื่อคิดคำนวนจากจำนวนดอกเบี้ยและระยะเวลากว่าจะสิ้นสุดใช้เวลาหลายปี ซึ่งเฉพาะดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวน่าจะเกิน 200 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินต้นแล้วสมาคมต้องชดใช้ให้สยามสปอร์ตเป็นเงินเกินกว่า 500 ล้านบาทอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ตนกำลังเจรจากับสยามสปอร์ตว่ามีแนวทางช่วยเหลืออย่างไรให้กับสมาคมได้บ้าง

“ตอนแป้งเข้ามาสมาคมได้ทำการยื่นฎีกา 27 เมษาฯ แป้งฝ่ายกฏหมายขอส่งคำแถลงเพิ่มเติม ขอความเมตตากับ 3 ท่าน ทำเต็มความสามารถ คำแถลงฏีกาฉบับนั้น ศาลเมตตา 6 มีนาคม ระบุให้ชดใช้ 360 ล้านบาท ถือว่าลดเงินต้นไปได้ 90 ล้านบาทจากศาลชั้นอุทธรณ์”
จบประโยคข้างต้นประธานสมาคมฟุตบอลหญิง อายุ 58 ปี กล่าวต่อถึงประเด็นที่จะอ่านต่อในสำเนาบันทึกคำพิพากษาของศาล โดยระบุว่า “ส่วนอันนี้แป้งคิดว่าทุกคนอย่างฟัง จำเลยที่ 2-19 หมายถึงท่านอดดีตนายกสมาคมฯ และอดีตสภากรรมการ” คำตัดสินใจหน้า 27 กล่าวว่าคดีมีปัญญหาต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์ฏีกา ข้อถัดไปจำเลยที่ 2 (นายกสมาคมฯ) ถึงจำเลยที่ 19 ต้องร่วมกับจำเลยที่หนึ่งรับผิดชอบต่อโจทย์หรือไม่
โดยโจทย์ (สยามกีฬา) จำเลยที่ 2-19 ในฐานะกรรมการของจำเลยที่ 1 และส่วนตัวต้องร่วมรับผิดด้วย ซึ่งปัญหานี้ศาลอุทรณ์ชำนาญพิเศษวินิจฉัยว่า การลงมติของจำเลยที่ 2-19 เป็นการกระทำในขอบอำนาจหน้าที่ทั้งยังไม่ได้เป็นคู่สัญญากับโจทก์ คือ “สยามปอร์ต” ดังนั้นจำเลยที่ 2-19 จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว
อ่านจบคำพิพากษษฉบับล่าสุด มาดามแป้งระบุถึงจากเนื้อหาทั้งหมดทำให้ต่อมาจึงเป็นข่าวที่อดีตนายกฯ และกรรมการชุดที่แล้วไม่ต้องรับผิดส่วนตัวกับความเสียหายที่เกิดกว่า 360 ล้านฯ บวกดอกเบี้ย สถนการณ์ ณ ตอนนี้กลายเป็นหนี้สินของสมาคมฟุตบอลที่ต้องรีบชำระ
มาดามแป้งยังย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ทราบข่าว ตอนนั้นอยู่ต่างประเทศ ลงรูปสวยงามแต่ในใจมีแต่น้ำตาอยู่ในใจ เพราะในฐานะที่เป็นนายกสมาคมที่ตั้งใจจริงจะเข้ามาทำงาน ตนเคารพต่อการพิพาษากษาของศาลฏีกา อย่างไรก็ดีเมื่อศึกษาคำพิพากษาอย่างละเอียดก็พบว่า การเลิกสัญญาของสยามสปอร์ตไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นเหตุให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในยุคนี้ต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล
อย่างไรก็ตาม มาดามแป้งระบุต่อว่าจากคำพิพากษาแฟนบอลสังคมทั่วไปอาจเข้าใจผิด ณ ขณะนั้นไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ต่อโจทก์ แต่ มาดามแป้ง ยืนกรานฝ่ายกฏหมายศึกษาอย่างเด่นชัดแล้ว ประมวลกดฏหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 76 บัญญัติไว้ว่า ถ้าการกระทําตามหน้าที่ของผู้แทนของนิติบุคคลหรือผู้มี อํานาจทําการแทนนิติบุคคล เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น นิติบุคคลนั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น แต่ ไม่สูญเสียสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ผู้ก่อความเสียหาย
ดังนั้นประธานสมาคมฟุตบอลสาวระบุ นี่จึงป็นที่มาว่าวันนี้ได้ตัดสินใจแล้วในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมนำเรื่องประชุมเข้าสู่สภากรรมการเฉพาะกิจอยางเร่งด่วน! เพื่อ “ฟ้องไล่เบี้ย” ตาม.76 แพ่งและพาณิชย์ แก่จำเลยที่ 2 คือ อดีตนากสมาคมและสภากรรมการในยุคนั้น

ย้อนเล่าวันหมดยุควรวีย์ บอกปัด “ระวิ โหลทอง” ลงชิงประมุขลูกหนัง
“เมื่อหมดยุคท่านวรวีย์ พี่ระวิ โหลทอง ได้เชิญแป้งไปพบที่สยามสปอร์ต” มาดามแป้ง นวลพรรณ ย้อนเหตุการณ์ก่อนจะมานั่งเก้่านายกสมาคมฟุตบอลดังเช่นปัจจุบัน ก่อนหน้านี้ 8 ปีก่อนได้เคยไปพบกับเจ้าพ่อสื่อกีฬาและผู้ก่อตั้งบริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคทฯ ก่อนจะบยอกปัดโอกาสชวนลงชิงเก้าอี้ในสมัยนั้นไปเพราะยังไม่พร้อม โดยเล่าจบอดีตหนนี้เสร็จ มาดามยังเอ่ยถึงแนวทางแก้ปัญหาจากนี้ที่เตรียจะเป็น่ฝายกลับไปหา นายระวิ ที่อาณาจักรสื่อกีฬาที่เก่าอีกครั้ง แต่ต่างที่ต้องไปคุยหาทางออกเรื่องนี้ โดยยังมีตัวแปรที่ 3 คือ ทรูวิชั่นส์ฯ เจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่เป็นปัญหาคู่กรีณีฟ้องร้องกันด้วย
“อยากให้แป้งลงแข่งขันนายกสมาคมฟุตบอลฯ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว โดยที่แป้งบอกว่าพี่วิคะ แป้งยังไม่ได้เตรียมตัว องค์ความรู้ยังไม่เพียงพอ แป้งขอปฏิเสธพี่วิคืนนะ จึงเป็นที่มาของพี่วิฯ ได้โทรหา อ.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ให้ลงแทนซึ่งไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรกันเลย แต่ว่าคราวนี้แป้งพร้อมแล้”

“17 ปีที่แป้งผ่านมา แป้งเห็นความฟ้องร้อง-เห็นความขัดแย้งมากมาย แป้งเข้ามาด้วยใจจริมีแต่ความรักต่อวงการฟุตบอลไทย”
ถึงตรงนี้น้ำเสียงของประธานสมาคมฯ สาวเริ่มสั่นเครือออกมาเอง ก่อนจะกล่าวต่อทั้งคราบน้ำตาที่จู่ๆ ไหลออกมาไม่ตั้งตัวว่า “มันเป็นไปไม่ได้” ที่จะปล่อยให้สมาคมฟุตบอลไทยซึ่งถือลิขสิทธิทีมชาติไทยทุกชุด ไทยลีกทุกชุด ทั้ง T1-T2 และT3 ล้มละลายยึดทุกสิ่งทุกอย่างไป ประชาชนชาวไทยจะทนดูได้หรือที่จะไม่มีทีมชาติไทยส่งเข้าแข่งขันในเวทีใดเลย

ยกตัวอย่างซีเกมส์ที่จะเกิดขึ้นปลายปี ทนได้หรือไม่ที่จะไม่ได้เห็นฟุตบอลหรือฟุตซอลทีมชาติไทยลงแข่ง ทนได้หรือไม่กับระบบไทยลีกที่จะล้มหายไปต่อหน้าต่อตา
เท่านั้นไม่พอ มาดามแป้งยังถามนักข่าวที่มารอฟังด้วยว่า “ในฐานะที่พวกท่านมาเป็นสื่อกีฬา” และแฟนบอลทั่วประเทศย่อมทราบว่าเงินจำนวน 360 ล้านบวกกับดอกเบี้ยเป็นไปไม่ได้ที่สมาคมฯ ขณะนี้จะชำระได้ทันกรอบเวลา
ด้วยเหตุนี้ มาดามแป้งระบุแนวทางหลังจากนี้ เธอได้ตัดสินใจขอเรียนพบ นายระวิ โหลทอง เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย ขณะเดียวกัน ด้วยเคารพความรักในคุณูปการของอีกฝ่าย ซึ่งสื่อมวลชนหลายท่านเติบโตมาจากสยามกีฬา ผู้ที่ทำให้ฟุตบอลเฟื่องฟูมาได้ก็คือสยามกีฬา
มาดามแป้งย้ำว่าจะไปหาทางออกร่วมกันกับคู่กรณีซึ่งก็คือ สยามสปอร์ตซินิดิเคทฯ ขณะเดียวกันต้องเจรจากับปาร์ตี้ที่ 3 คือบริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ในเครือทรู คอร์ปอเรชันฯ ที่เป็นงูกินหางกันอยู่ โดยนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในฐานะผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย , คนแรกของทวีปเอเชีย และ คนที่ 7 ของโลกในปัจจุบันยืนกรานในส่วนของเธอและสมาคมฯ จะเดินหน้าฟ้องร้องไล่เบี้ยกับทีมงานสมาคมฟุตบอลชุดเก่า โดยต้องการทำให้ถูกต้องในอันดับแรก คือนำข้อเสนอเข้าที่ประชุมสภากรรมการอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้หลังมีการตั้งทีมงานตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของสมาคมฯ พบว่า ปัจจุบันสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นั้น มีเงินอยู่แค่ 27 ล้านบาทเศษ และมีหนี้สินอีกราวๆ 132 ล้านบาท
นอกจากนี้สมาคมชุดเก่าได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) 5 ล้านดอลลาร์ (ราว 155 ล้านบาท) ซึ่งต้องชำระคืนโดยตัดออกจากเงินสนับสนุนประจำปี ปีละ 1.250 ล้านดอลลาร์ ออกไปปีละ 5 แสนดอลลาร์ ถึง 10 ปี (2566-2575) เมื่อนับรวมในส่วนของสยามสปอร์ตที่ต้องชดใช้ 360 ล้าน รวมกับดอกเบี้ยที่ตอนนี้คำนวณแล้วราว 200 ล้าน เบ็ดเสร็จยอดความเสียหายทั้งหมดจะเกินกว่า 500 ล้านบาทด้วยกัน.
ขอบคุณคลิป : @PPTV_SPORTS
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มาดามแป้ง ส่งตัวแทนเยี่ยมแข้งสุพรรณฯ โดนไฟดูดตอนสัมภาษณ์ กำชับฝ่ายจัดเช็คอุปกรณ์
- ตามคาด มาดามแป้ง นั่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ คนที่ 18
- ประวัติ มาดามแป้ง นายกบอลไทย คนที่ 18 ผู้หญิงคนแรกของเอเชีย