ลูกตามหาแม่ 11 ปี ปริศนา MH370 ไม่เคยรู้ข่าว 239 ชีวิต วอนรัฐบาลบอกความจริง

เป็นเวลานานกว่า 11 ปี นับจากการหายสาบสูญของเที่ยวบิน MH370 ปริศนาที่ยังคงหลอกหลอนวงการการบินโลก เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดครอบครัวชาวจีนของผู้โดยสารที่สูญหายรวมตัวกันในปักกิ่ง เพื่อร้องหาความจริงจากทางการ
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 มีนาคม 2014 เครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่บรรทุกผู้โดยสาร 239 ชีวิต ได้หายไปจากจอเรดาร์ขณะเดินทางจาก “กัวลาลัมเปอร์” ไปยังปักกิ่ง โดยสองในสามของผู้โดยสารเป็นชาวจีน ที่เหลือมาจากมาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ
แม้จะมีการค้นหาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การบิน แต่เครื่องบินลำนั้นก็ยังไม่ถูกค้นพบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อก.พ.68ที่ผ่านมา แอนโทนี โลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย ประกาศว่า บริษัทสำรวจทางทะเลที่ชื่อ โอเชียน อินฟินิตี้ (Ocean Infinity) ได้เริ่มการค้นหาเครื่องบินที่หายไปอีกครั้ง อย่างไรก็ดีครอบครัวผู้สูญหายกลับได้รับรู้เรื่องนี้จากข่าวออนไลน์
“พวกเขาบอกว่าจะแจ้งให้เราทราบทันที แต่เรากลับต้องรู้ข่าวแบบนี้จากอินเทอร์เน็ต” หลี่ เอ้อโหย่ว วัย 68 ปี กล่าวด้วยความขุ่นเคือง ก่อนเข้าพบตัวแทนจากกระทรวงคมนาคมและกระทรวงการต่างประเทศของจีน
หนุ่มใหญ่ซึ่งสูญเสียลูกชายวัย 29 ปีบนเครื่องบินลำนั้น กล่าวต่อว่า ครอบครัวของผู้โดยสารบนเคื่องบิน MH370 ที่สูญหายจำนวนมากไม่รู้วิธีเข้าถึงข้อมูล พวกเขาจึงไม่รู้อะไรเลย และนั่นเองที่ทำให้ญาติของผู้สูญหายรู้สึกโกรธและผิดหวังอย่างมาก!
เจียง ฮุย ผู้สูญเสียมารดาบนเครื่องบินลำนั้น กล่าวว่าเขายังคงไม่รู้เรื่องการค้นหาครั้งใหม่ “มันจะเริ่มเมื่อไหร่ จะค้นหาที่ไหน จะใช้เวลานานแค่ไหน พบอะไรบ้าง? ทฤษฎีอะไรที่นำไปสู่การตัดสินใจเริ่มต้นการค้นหาอีกครั้ง”
เขาถามด้วยความสงสัย เขาหวังว่าการค้นหาครั้งนี้จะ “ยุติ 11 ปีแห่งความทุกข์ทรมาน”


เสียงตะโกนแห่งความสิ้นหวัง
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาครอบครัวผู้สูญหายยังได้รวมตัวกันที่สี่แยกหน้าสถานทูตมาเลเซียในปักกิ่ง ถนนถูกปิดกั้นโดยตำรวจอย่างน้อย 20 นาย ขณะที่ผู้เข้าร่วมตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า “คืนคนที่เรารักให้เรา!”
บางคนถือป้ายที่มีข้อความว่า “11 ปีแห่งการรอคอยและความทรมานจะสิ้นสุดเมื่อไหร่?”
ทั้งนี้มีรายงานกำลังของเจ้าหน้าที่หนาแน่นเป็นพิเศษในพื้นที่ดังกล่าว ตำรวจยังไล่ต้อนนักข่าวและเตือนพวกเขาให้หยุดถ่ายภาพการประท้วง
การหายตัวไปของเครื่องบินลำนี้เป็นหัวข้อของทฤษฎีต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ที่น่าเชื่อถือไปจนถึงแปลกประหลาด รวมถึงทฤษฎีที่ว่า ซาฮารี อาหมัด ชาห์ นักบินมากประสบการณ์ได้ก่อเหตุร้าย

รายงานสรุปเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เผยแพร่ในปี 2018 ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการควบคุมการจราจรทางอากาศ และกล่าวว่าเส้นทางของเครื่องบินถูกเปลี่ยนแปลงด้วยมือ
เฉิง ลี่ผิง หวังว่าจีนจะสามารถสื่อสารกับมาเลเซียได้มากขึ้น เพื่อเปิดเผยความจริง “ทุกคนถูกขังอยู่ในความเจ็บปวด สิ่งที่เกิดขึ้นจริงยังไม่เป็นที่ทราบ” เฉิง ซึ่งสามีของเธอไปถ่ายทำภาพยนตร์ในมาเลเซียและกำลังเดินทางกลับจีนบน MH370 กล่าว
เมื่อถามว่าเธอจะบอกอะไรกับสามีหากได้รับโอกาส? เฉิง ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายสองคน กล่าวว่า “มีหลายสิ่งที่ฉันอยากจะพูด ฉันแค่หวังว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณจะแข็งแรง และเราจะได้กลับมาพบกันเร็วๆ นี้”.

ย้อนไทม์ไลน์ ครบรอบ 11 ปี ปริศนา MH370 การค้นหาทางอากาศ-ทะเล “ที่ไร้ผล”
8 มีนาคม 2014 เที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส มุ่งหน้าจากกัวลาลัมเปอร์ สู่ปักกิ่ง แต่แล้วก็เบี่ยงเบนออกจากเส้นทางที่กำหนด หันหัวไปทางทิศตะวันตกข้ามคาบสมุทรมลายู
เครื่องบินโบอิ้ง 777 บรรทุกผู้โดยสาร 239 คนจาก 15 ประเทศ เชื่อกันว่าเบี่ยงเบนออกจากเส้นทางและบินลงใต้เป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากสัญญาณเรดาร์ขาดหาย เจ้าหน้าที่บางคนเชื่อว่าเครื่องบินอาจตกในมหาสมุทรอินเดียตอนใต้หลังจากน้ำมันหมด แต่การค้นหาขนาดใหญ่ที่กินเวลาหลายปีก็ไม่พบคำตอบ ไม่พบผู้เสียชีวิต และไม่พบเครื่องบิน
อ้างอิงข้อมูลจาก The Straits Times เมื่อ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา สรุปถึงระยะแรกของการค้นหาใช้เวลา 52 วัน ดำเนินการส่วนใหญ่ทางอากาศ ครอบคลุมพื้นที่ 1.7 ล้านตารางไมล์ และเกี่ยวข้องกับการบินค้นหา 334 เที่ยว
ในเดือนมกราคม 2017 รัฐบาลออสเตรเลีย มาเลเซีย และจีน ได้ยกเลิกการค้นหาใต้น้ำอย่างเป็นทางการหลังจากสำรวจพื้นมหาสมุทรอินเดียไปกว่า 46,000 ตารางไมล์ ความพยายามครั้งนั้นใช้งบประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ (ราว 4.8 พันล้านบาท)

ต่อมาในเดือนมกราคมของปีถัดมา รัฐบาลมาเลเซียเริ่มการค้นหาอีกครั้งโดยร่วมมือกับ Ocean Infinity หลังจากได้รับแรงกดดันจากครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือที่สูญหาย หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือน ความพยายามในการค้นหาที่นำโดย Ocean Infinity ก็สิ้นสุดลง โดยไม่พบหลักฐานใดๆ เกี่ยวกับตำแหน่งของเครื่องบิน
แม้จะไม่พบซากเครื่องบิน แต่พบเศษซากประมาณ 20 ชิ้นที่เชื่อว่าเป็นของเครื่องบินตามแนวชายฝั่งแอฟริกาและบนเกาะมาดากัสการ์ มอริเชียส เรอูนียง และโรดริกส์
ในฤดูร้อนปี 2015 มีการพบ “วัตถุขนาดใหญ่” ที่ถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งเรอูนียง เป็นแฟลปเพอรอนที่มาจากเครื่องบินโบอิ้ง 777 ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นเศษซากจากเที่ยวบิน 370 เศษซากอีกชิ้นหนึ่ง เป็นชิ้นส่วนสามเหลี่ยมของวัสดุคอมโพสิตไฟเบอร์กลาสและอลูมิเนียมที่มีคำว่า “No Step” เขียนอยู่ ถูกพบในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 บนสันทรายที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ตามชายฝั่งโมซัมบิก
จากนั้นรัฐบาลออสเตรเลีย ยืนยันในกันยายน 2016 ว่า แผ่นปิดปีกที่ถูกคลื่นซัดขึ้นเกาะแทนซาเนีย เป็นของเที่ยวบิน 370 หลักฐานจากสำนักงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของออสเตรเลีย จับคู่หมายเลขประจำตัวกับหมายเลขของโบอิ้ง 777 ที่หายไป

ทฤษฎีปริศนา – เงื่อนงำที่ชวนสงสัย
มีทฤษฎีมากมาย ตั้งแต่เรื่องแปลกประหลาดไปจนถึงเรื่องที่น่าสงสัย เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินหายไป การขาดข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน ทำให้สาธารณชนและนักสืบพุ่งความสนใจไปในหลายทิศทาง
เจ้าหน้าที่บางคนเชื่อว่าเครื่องบินน้ำมันหมด และทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่านักบินพยายามลงจอดฉุกเฉินในทะเล คนอื่น ๆ แนะนำว่านักบินคนหนึ่งหรือทั้งสองคนสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน หรือคนใดคนหนึ่งเป็นนักบินที่ก่อเหตุ หรือเครื่องบินถูกจี้

รายงานของรัฐบาล คำตอบที่ยังคงคลุมเครือ?
หลังจากค้นหาและสอบสวนนานกว่าสี่ปี รายงาน 495 หน้าที่เผยแพร่ในปี 2018 ไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัดเกี่ยวกับชะตากรรมของเครื่องบิน การขาดคำตอบที่ชัดเจนทำให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตผิดหวังอย่างมาก
ก๊ก ซู ชอน (Kok Soo Chon) หัวหน้าทีมสอบสวนความปลอดภัย กล่าวว่าหลักฐานที่มีอยู่ รวมถึงการเบี่ยงเบนด้วยตนเองจากเส้นทางการบินของเครื่องบินและการปิดเครื่องส่งสัญญาณ “ชี้ให้เห็นอย่างปฏิเสธไม่ได้” ถึง “การแทรกแซงที่ผิดกฎหมาย” ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าเครื่องบินถูกจี้ แต่ไม่มีหลักฐานว่าใครอาจแทรกแซงหรือทำไม
รายงานยังตรวจสอบผู้โดยสารและนักบินทุกคนอย่างละเอียด รวมถึง ซาฮารี อาหมัด ชาห์ (Zaharie Ahmad Shah) นักบินมาเลเซียแอร์ไลน์สเที่ยวบิน MH370 และฟาริก อับดุล ฮามิด (Fariq Abdul Hamid) ผู้ช่วยนักบินหรือ F/O วัย 27 ปีบนโบอิ้ง 777-200ER ของมาเลเซีย โดยรายงานตรวจสอบสถานะทางการเงิน สุขภาพ น้ำเสียงในการสื่อสารทางวิทยุ และแม้แต่ท่าเดินของพวกเขาในวันที่ไปทำงาน ไม่พบความผิดปกติใดๆ
การค้นหาครั้งใหม่ ความหวัง-เงื่อนงำ
ปัจจุบัน การค้นหาใหม่กำลังดำเนินการอยู่! นายโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย กล่าวเมื่อ 25 ก.พ.ที่ผ่านมาในกัวลาลัมเปอร์ โดยระบุ “Ocean Infinity” จะมองหาพื้นที่ที่พวกเขาพลาดไปในอดีต ตามผลการค้นพบของพวกเขา
“เราได้อนุมัติหลักการให้กลับมาค้นหาอีกครั้ง เราไม่ต้องการสันนิษฐานอะไรในตอนนี้” รมต.คมนาคมเสือเหลือง ระบุ
อาร์มาดา (Armada 7806) เรือที่ดำเนินการโดยโอเชียนอินฟินิตี้ถูกส่งไปยังมหาสมุทรอินเดียตอนใต้ นอกชายฝั่งออสเตรเลียตะวันตก ตามเว็บไซต์การจราจรทางทะเล
อย่างไรก็ดีโอเชียนอินฟินิตี้เผยผ่านอีเมลเมื่อ 26 ก.พ.68 ว่าไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะแบ่งปันในขั้นตอนนี้
ในเดือนมีนาคม 2024 โอลิเวอร์ พลุนเคตต์ (Oliver Plunkett) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กล่าวว่า บริษัทอยู่ในฐานะที่จะค้นหาอีกครั้งประมาณ 6 ปี หลังจากความพยายามครั้งก่อนไม่พบคำตอบ

อ่านข่าวเพิ่มเติม
- มาเลย์รื้อแผนค้นหาเครื่องบิน MH370 อีกครั้ง หลังหายสาบสูญกว่า 11 ปี
- เครื่องบินขับไล่ กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ หายปริศนา ติดต่อนักบินไม่ได้
- แอนดรูว์ เทต ควงน้องชาย บินออกจากโรมาเนียไปสหรัฐ หลังได้ยกเลิกกักบริเวณ