บันเทิง

รู้จักมีม “แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ” เนื้อเพลงฮิต สู่คำคมฮีลใจ

รู้จักประโยคฮิต “แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ” กลายเป็นไวรัลฮีลใจสังคม บทเพลงสะท้อนโลกที่หลากหลาย และมีมที่ครองใจชาวเน็ต

ในยุคที่โลกออนไลน์หมุนเร็วจนตามแทบไม่ทัน เทรนด์ฮิตและมีมใหม่ ๆ ผุดขึ้นมาให้เราได้เห็นกันแทบทุกวัน และหนึ่งในไวรัลที่สร้างปรากฏการณ์ครองใจชาวเน็ตไทยในช่วงปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นประโยคสุดฮิตอย่าง “แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ”

เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ แต่กลับทรงพลังอย่างน่าประหลาด วลีนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำพูดติดปาก แต่ได้กลายเป็น มีม หรือกระทั่ง คำคม ที่สะท้อนภาพสังคมออนไลน์ในยุคปัจจุบัน บอกกล่าวถึงโลกที่เต็มไปด้วยความแตกต่างหลากหลาย และเป็นกระจกเงาที่ส่องให้เห็นถึงมุมมองและวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล

จากบทเพลง สู่กระแสไวรัล “มีม” คนสู้ชีวิต

จุดเริ่มต้นของปรากฏการณ์ประโยคฮิตคำว่า “แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ” ต้องย้อนกลับไปยังบทเพลงชื่อเดียวกัน แล้วแต่จะคิดชีวิตคนละแบบ ที่ขับร้องโดยศิลปิน JONIN ร่วมกับ Jep$avage, EQ, และ GU เมื่อเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาสู่โลกออนไลน์ในช่วงปี 2024 ซึ่งปัจจุบันมียอดวิวมากถึง 165,692 ครั้ง ก็เหมือนกับเชื้อไฟที่ลามทุ่ง ท่วงทำนองที่ติดหู เนื้อหาเพลงที่กินใจ โดยเฉพาะท่อนฮุกที่ว่า “แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ” ได้กลายเป็นประโยคทองคำที่ชาวเน็ตต่างพากันหยิบยกไปใช้ต่ออย่างแพร่หลาย

เพลงนี้ไม่ได้มีดีแค่ความสนุก แต่เนื้อเพลงยังแฝงไปด้วยปรัชญาชีวิตที่ลึกซึ้ง เป็นการยอมรับ ในความแตกต่างหลากหลายของผู้คน เคารพในวิถีชีวิตที่แต่ละคนเลือกเดิน และเข้าใจว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่สีขาวหรือสีดำ ไม่ได้มีแค่ถูกหรือผิด แต่เต็มไปด้วยเฉดสีเทามากมาย ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมองจากมุมไหน

เมื่อท่อนฮุก กลายเป็น มีมแห่งยุค

เมื่อเพลงดังเป็นพลุแตก ประโยค แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ ก็เริ่มถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, TikTok, Instagram หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ชาวเน็ตต่างพากันครีเอทคอนเทนต์ สร้างสรรค์มีม และหยิบยกประโยคนี้ไปใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลาย

บางคนใช้ประโยคนี้เพื่อ แสดงความเห็น เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในสังคม บางคนใช้เพื่อตอบโต้ความคิดเห็นที่แตกต่าง บางคนใช้เพื่อประชดประชันสถานการณ์ที่ขัดแย้ง และบางคนก็ใช้เพียงเพื่อ สร้างเสียงหัวเราะ และความบันเทิง

มากกว่ามีม คือ ปรัชญา การใช้ชีวิต

มากกว่ามีม คือ “ปรัชญา” การใช้ชีวิต

สิ่งที่น่าสนใจคือ มีม “แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ” ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่กลับกลายเป็น “เครื่องมือทางภาษา” ที่ทรงพลัง สามารถสื่อสารความหมายที่ลึกซึ้ง และสะท้อนถึง “ทัศนคติ” ของคนในสังคมยุคปัจจุบัน

ประโยคนี้บอกเราว่าโลกไม่ได้มีศูนย์กลางอยู่ที่เรา แต่ละคนมีแว่นตา ที่แตกต่างกันในการมองโลก มี ประสบการณ์ ที่หล่อหลอมให้ความคิดแตกต่างกัน และมี “เส้นทางชีวิต” ที่เลือกเดินไม่เหมือนกัน

ดังนั้น การยอมรับในความแตกต่าง การเคารพ ในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น และการเปิดใจ ทำความเข้าใจโลกในมุมมองที่หลากหลาย จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ และเป็นหัวใจหลักของมีม “แล้วแต่จะคิด ชีวิตคนละแบบ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button