อย. เตรียมยกระดับควบคุม ‘ยาทรามาดอล’ หรือ ยาเขียวเหลือง รับฟังข้อคัดค้านการสั่งจ่ายได้เฉพาะแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น เผย พบทะลักร้านยาทั่วไป เสี่ยงถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ผสมยาเสพติด
จากกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขมีแนวโน้มที่จะเดินหน้ามาตรการยกระดับ “ยาทรามาดอล” (Tramadol) หรือ “ยาเขียวเหลือง” โดยใช้สั่งจ่ายได้เฉพาะแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น จนเป็นเหตุให้ ‘ภก.ชยินท์ จตุรพรประสิทธิ์’ นายกสมาคมร้านขายยา ได้ออกจดหมายเปิดผนึก เรียนถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ และ ผู้เกี่ยวข้อง ว่าด้วยเรื่อง การขอคัดค้านการยกระดับยาทรามาดอลให้สามารถสั่งจ่ายได้เฉพาะแพทย์ในสถานพยาบาล
ล่าสุด (4 มีนาคม 2568) ‘นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์’ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวทางการควบคุม ‘ยาทรามาดอล’ ยาแก้ปวดที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในขณะนี้ โดยระบุว่า อย. กำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะยกระดับการควบคุมยาชนิดนี้ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ถึงขั้นจำกัดการสั่งจ่ายยาเฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น
นายแพทย์สุรโชค อธิบายว่า ยาทรามาดอล เดิมทีเป็นยาแก้ปวดที่อนุญาตให้จำหน่ายในร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ขย.1) ได้ แต่มีข้อกำหนดว่าต้องจำหน่ายไม่เกินครั้งละ 20 เม็ด ต้องมีเภสัชกรประจำร้านเป็นผู้จำหน่าย และร้านขายยาต้องรายงานการสั่งจ่ายยาทุกครั้ง
เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันพบว่า มีการนำยาทรามาดอลไปใช้ในทางที่ผิดอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการนำไปผสมกับยาเสพติดชนิดอื่น เพื่อเพิ่มฤทธิ์เสพติด นอกจากนี้ยังพบการลักลอบจำหน่ายยาทรามาดอลในร้านขายยาที่ไม่ได้รับอนุญาต ร้านที่ไม่มีเภสัชกร รวมถึงการผลิตยาปลอมเพื่อหวังผลทางการค้าและนำไปใช้ในทางที่ผิด
จากปัญหาที่เกิดขึ้น ‘นายสมศักดิ์ เทพสุทิน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ดังกล่าว และได้มอบหมายให้ อย. เร่งหาแนวทางควบคุมและแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยได้มีการหารือกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และมีความเห็นเบื้องต้นว่า ควรยกระดับการควบคุมยาทรามาดอล ให้สามารถสั่งจ่ายได้โดยแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น เพื่อป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ขณะนี้ อย. จึงอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็น จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2568 นี้ ผ่านทางเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย เพื่อประกอบการพิจารณาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “ยาควบคุมพิเศษ ฉบับที่… (ยาทรามาดอล tramadol ตำรับยาเดี่ยว ชนิดรับประทาน)”
ไม่เพียงเท่านั้น นายแพทย์สุรโชค ยังได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า การประกาศให้ ยาทรามาดอล เป็นยาควบคุมพิเศษ หมายความว่า ในอนาคตยาทรามาดอลจะสามารถสั่งจ่ายได้โดยแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น เช่น โรงพยาบาล คลินิกเวชกรรม โดยเภสัชกรร้านขายยาจะไม่สามารถสั่งจ่ายยาชนิดนี้ได้อีกต่อไป
มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลักเพื่อควบคุมการนำยาทรามาดอลไปใช้ในทางที่ผิด อย่างไรก็ตาม อย. ยืนยันว่า ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยาทรามาดอล ยังคงสามารถเข้าถึงยาได้ โดยสามารถไปรับยาได้ที่โรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความจำเป็นทางการแพทย์ อาทิ ผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องการยาบรรเทาอาการปวด แต่ไม่สามารถใช้ยาแก้ปวดที่มีฤทธิ์แรงกว่าได้ รวมถึงผู้ที่มีอาการแพ้ยาแก้ปวดกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ผู้ป่วยโรคตับ โรคไต เป็นต้น
สำหรับ ยาทรามาดอล (Tramadol) หรือที่หาลาย ๆ คนมักเรียกกันว่า ยาเขียวเหลือง จัดเป็นยาแก้ปวดในกลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) ซึ่งเป็นกลุ่มยาที่มีฤทธิ์ระงับปวดได้ค่อนข้างแรง ออกฤทธิ์เหมือนมอร์ฟีน โดยในทางการแพทย์มักจะนำไปใช้รักษาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง
แม้จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้อย่างดี แต่ยาทรามาดอลก็มีผลข้างเคียงไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ อาเจียน, ท้องผูก, มือสั่น ใจสั่น, ความดันโลหิตต่ำ, มึนงง และ ง่วงซึม ซึ่งหากใช้ในปริมาณมากอาจเกิดประสาทหลอน ชัก และนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ซึ่งหากมีการใช้อย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้มีความต้องการปริมาณยาที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้เกิดอาการติดยาได้ในที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สมาคมร้านขายยา ออกจดหมาย ค้านยกระดับ ยาเขียวเหลือง เปิดศึก สธ. ชี้เพิ่มภาระปชช.
- เตือนลูกหลาน ‘ทรามาดอล’ ยาฮิตวัยรุ่นไทย ผสมน้ำอัดลม เสพถึงตาย
- ทรามาดอล ใช้ผิดวิธีถึงตายได้! พบวัยรุ่นใช้เป็น ‘ยาวาร์ป’ โคม่าแล้วหลายราย
ข่าวล่าสุด
ข่าวต่างประเทศ คลิปฉาว ผัวเมียจับชู้ แก้ผ้าคาเตียง ประเคนหมัดตุ๊บตั๊บศึก สุดชุลมุน
ข่าว หวั่นอันตราย อย. เร่งคุม ยาเขียวเหลือง สั่งจ่ายโดยแพทย์ในรพ. รับฟังข้อคัดค้าน
